โคปา เดล เรย์
วันอังคารที่ 10 มกราคม 2555
มาลาก้า 0 : 1 เรอัล มาดริด
(รวมผลสองนัด ราชันชุดขาวเข้ารอบด้วยสกอร์ 4-2)
สนาม : เอสตาดิโอ ลา โรซาเลด้า
ประตู : 0-1 คาริม เบนเซม่า น.72
ครึ่งแรก
เปิดฉากการเล่นมาทั้งมาลาก้าและเรอัล มาดริดผลัดกันทำเกมสู้กันสนุกแต่ในนาที 11 เจ้าบ้านมีโอกาสจบสกอร์ก่อนเมื่อมอนเรอัลโยนบอลยาวจากทางกราบซ้ายไปให้นิสเตลรอยที่เบียดโคเอนเทราเสียกระเด็นขึ้นโขกที่กรอบเขตโทษฝั่งขวาแต่ก็ข้ามคานออกไป
มาลาก้ายังรุกได้ดูดีเมื่อในนาที 22 อลิเซวกระชากบอลจากกราบขวาตัดเข้าในจนเห็นช่องได้ลองส่องไกลระยะกว่า 25 หลาถากโคนเสาขวาออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
แนวรับของ"ราชันชุดขาว"ยังเปิดพื้นที่ให้เจ้าบ้านมาเคาะประตูอยู่เรื่อยๆเมื่อในนาที 29 มอนเรอัลกระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนบรรจงครอสไปให้นิสเตลรอยพุ่งเข้าขวิดแต่ก็ยังข้ามคาน
นาที 40 "โลส บลังโกส"มามีโอกาสบ้างเมื่อโรนัลโด้ที่ได้บอลแถวหัวกระโหลกจ่ายบอลทะลุช่องให้เคห์ดิร่าหลุดเข้าไปกระทุ้งทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษแต่กาบาเยโร่ล้มตัวปัดออกไปได้ ขณะที่อดีตแข้งสตุ๊ตการ์ทมีอาการบาดเจ็บในจังหวะนี้เลยต้องเปลี่ยนเอาโอซิลลงมาแทน
อีกสี่นาทีถัดมารามอสเติมเกมเข้าไปอยู่ในเขตโทษก่อนหาพื้นที่จนได้เทคตัวขึ้นโหม่งลูกฟรีคิกที่อลอนโซ่เปิดเข้ามาให้แต่บังคับทิศทางบอลไม่ดีเลยไม่ตรงกรอบประตู
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกอลิเซวกระชากบอลมาหน้าเขตโทษก่อนแตะหนีกองหลัง"ราชันชุดขาว"ไปทางด้านซ้ายแล้วซัดไกลเต็มข้อส่งบอลพุ่งไปที่สามเหลี่ยมบนเสาซ้ายแต่คาซิญาสบินปัดเอาไว้ได้ทำให้ยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลังมูรินโญ่จัดการถอดกาก้าที่ปั้นเกมรุกไม่เวิร์คออกมาพักแล้วส่งมาร์เซโล่ลงไปเล่นแทนแต่ทางมาลาก้าก็ยังทำเกมบุกเข้าใส่ได้ได้ดีกว่าเมื่อมีโอกาสจบสกอร์อยู่สองสามครั้งแต่ไม่เป็นประตู
นาที 54 มาร์เซโล่ตอบแทนความไว้วางใจของมูรินโญ่ด้วยการกระชากบอลมายิงไกลหลุดกรอบไปเป็นวาช่างน่าขายหน้าจริงเชียวที่เห็นเขาจบสกอร์แบบนั้น
เกมผ่านไปครบชั่วโมงทีมเยือนลุยขึ้นมาที่หน้าเขตโทษโดยบอลอยู่ที่เท้าของมาร์เซโล่ที่แทงออกซ้ายให้อิกวาอินเปิดยัดไปหน้าประตูหมายให้โคเอนเทราชาร์จแต่เดมิเชลิสสกัดบอลเปลี่ยนทิศทางได้ก่อน
เรอัล มาดริดน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่งยวดในนาที 64 เมื่อโรนัลโด้หาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษจนได้โถมตัวโหม่งบอลที่เพื่อนเปิดมาจากริมเส้นกดลงพื้นไปติดเซฟของกาบาเยโร่ที่ปัดบอลข้ามคานไป
แต่แล้วมาลาก้าก็ต้องมาดวงแตกในนาที 72 หลังมาร์เซโล่ลากบอลจากครึ่งสนามมาจ่ายให้โอซิลที่หน้าเขตโทษก่อนวิ่งฉีกไปทางขวาเพื่อดึงกองหลังแล้วให้จอมทัพเยอรมันจ่ายออกซ้ายให้เบนเซม่าที่ไร้ตัวประกบสปีดเข้าซัดตรงตัวกาบาเยโร่ที่โก้งโค้งรอรับบอลแล้วแต่ดันปล่อยให้ลอดดาร์กซ์เข้าประตูไปได้
ท้ายเกม"ราชันชุดขาว"ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนเมื่ออาร์เบลัวไปรับใบเหลืองที่สองจากจังหวะทำฟาวล์ใส่มอนเรอัลและเจ้าบ้านมีโอกาสตีเสมอจากลูกฟรีคิกที่ตูลาล็องใช้ความสูงใหญ่เข้าโหม่งสะบัดหลุดเสาซ้าย
จบเกมเรอัล มาดริดกำชัยด้วยสกอร์ 1-0 รวมผลสองนัดชนะมาลาก้า 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟน่อลได้สำเร็จซึ่งหากไม่พลิกโผคู่แข่งก็จะเป็นบาร์เซโลน่าที่เอาชนะโอซาซูน่าในเลกแรก 4-0 นั้นเอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มาลาก้า : วิลลี่ กาบาเยโร่, เซร์กิโอ ซานเชซ, มาร์ติน เดมิเชลิส , โยริส มาไธจ์เซ่น, นาโช่ มอนเรอัล, เฌเรมี่ ตูลาล็อง, ซานติ กาซอร์ล่า, เซบา เฟร์นานเดซ (รอนดอน น.67 ), อิสโก้ (ดิเอโก้ บัวนาน็อตเต้ น.75), อลิเซว (เอ็นโซ่ มาเรสก้า น.76), รุด ฟาน นิสเตลรอย
เทรนเนอร์ : มานูเอล เปเญกรินี่
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว , เซร์กิโอ รามอส , เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเทรา, ซามี เคดิร่า (เมซุต โอซิล น.44), ลาสซานา ดิยาร์ร่า , ชาบี อลอนโซ่, ริคาร์โด้ กาก้า (มาร์เซโล่ น.46), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า น.69 )
เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่