อาร์ตคืนชีพ!เบิร์บโชว์แฮทริกผียำวีแกน 10 ตัว 5-0

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport อาร์ตคืนชีพ!เบิร์บโชว์แฮทริกผียำวีแกน 10 ตัว 5-0

พรีเมียร์ ลีก

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2554

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 : 0 วีแกน

ประตู : 1-0 ปาร์ค น.8, 2-0 เบอร์บาตอฟ น.41, 3-0 เบอร์บาตอฟ น.58, 4-0 วาเลนเซีย น.75, 5-0 เบอร์บาตอฟ น.78

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยมีการสับเปลี่ยนผู้เล่นในหลายๆตำแหน่งจากตัวหลักที่ใช้ในลีกอยู่ประจำ โดยเกมนี้ให้เด เกอาและรูนี่ย์นั่งดูเพื่อนที่ม้านั่งสำรองไปก่อน

เบอร์บาตอฟคอยผนึกกำลังกับเอร์นานเดซในแดนหน้า ส่วนปีกที่เป็นเอกลักษณ์ประจำทีมก็ใช้ปาร์คกับนานี่เป็นคนคอยช่วยกันปั้นเกม

วีแกนวันนี้น่าจะได้ความมั่นใจมาพอสมควร เพราะพวกเขาเพิ่งจะยันเสมอกับลิเวอร์พูลมาได้ในเกมที่แล้ว แต่นี่เป็นเกมเยือนก็อาจจะต้องมีสมาธิกันเพิ่มมากขึ้นหน่อย หากหวังมีคะแนนติดกลับมือไป เพื่อดีดตัวให้ออกจากโซนตกชั้นให้ได้เสียก่อน

ครึ่งแรก

ผีขึ้นนำเร็ว!ตี๋ปาร์คแปสบายใจ
นาทีที่ 8 แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำไปแบบรวดเร็วเลย เมื่อจ่ายบอลกันได้ดี ก่อนที่เอฟร่าจะโชว์สเต็ปเหมือนจะกลับฝั่ง ลากบอลผ่านผู้เล่นวีแกนไปจนถึงสุดเส้นหลัง แล้วเปิดกลับไปให้กับปาร์คยืนแปบอลเลือกทิศทางแบบเน้นๆเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้ "ปีศาจแดง" ใส่สกอร์ 1-0

ผีเล่นกันได้ง่ายเลย
พอได้ประตูขึ้นนำเร็วแบบนี้ ก็เหมือนว่าโมเมนตั้มมันจะมาเข้าทางของแมนฯยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาเล่นได้กันแบบสบายๆไม่ต้องกดดันอะไรมากนักและขึงเกมใส่วีแกนอยู่พักหนึง ขาดแต่จังหวะยิงเท่านั้น

เกือบไป!แซมม่อนขึ้นไม่ถึง
นาทีที่ 14 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นอย่างคาร์ริคเกือบทำให้เพื่อนงานเข้าแล้ว ในจังหวะที่วีแกนโยนบอลจากด้านข้าง แล้วเหมือนกับว่าเขาจะประกบห่างเกินไป จนทำให้แซมม่อนได้ขึ้นโหล่งๆหน้าประตูคนเดียว ติดแค่ว่าลูกโยนโด่งไปนิด ไม่งั้นก็คงได้อัดเต็มเหน่งแล้ว

วีแกนเหมือนยังมึนไม่หาย
อาจจะเพราะโดนทำประตูขึ้นนำไปอย่างเร็ว เลยกลายเป็นว่าวีแกนตอนนี้ทำหน้ามึนๆถอยไปรับกันซะส่วนมาก พอจังหวะจะสวนทำเกมรุกก็ดูขาดๆเกินๆ เสร็จทางเจ้าบ้านที่ดักเอาไว้ได้หมด

เอ๊ะ ... ไอ้อีฟโดนเหลือง
นาทีที่ 24 แฟนแมนฯยูฯขี้คิดมากบางคนอาจจะมีอะไรผุดขึ้นมาในใจ เมื่อเห็นจังหวะที่อีแวนส์ไปเข้าบอลช้าใส่ผู้เล่นของวีแกน จนทำให้โดนใบเหลืองไปกินตั้งแต่ยังไม่ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก แบบนี้คงต้องระวังให้มากแล้ว ถ้าไม่อยากให้เพื่อนเหนื่อยเพิ่ม

วีแกนเริ่มทำได้ดีขึ้น
ผ่านช่วงครึ่งชั่วโมงแรกไป ตอนนี้เหมือนจะกลับมาสู่สภาพเดิมแล้วสำหรับวีแกนที่ขยับทำเกมขึ้นมาสวนแมนฯยูไนเต็ดได้บ้าง แต่จังหวะสุดท้ายของพวกเขายังติดอยู่

พี่เบิร์บยิงหลุดเสาไป
นาทีที่ 34 จังหวะเหลี่ยมของเบอร์บาตอฟยังถือว่าแพรวพราวอยู่เหมือนเดิม ในจังหวะที่พิงกองหลังวีแกน ก่อนที่จะพลิกตัวแล้วจัดการตวัดยิงนอกกรอบทันที แต่บอลก็พุ่งออกหลังไป

โหดไปนิด!วีแกนโดนแดงเหลือ 10 ตัว
นาทีที่ 39 ดูแล้วแอบโชคร้ายอยู่เหมือนกันสำหรับวีแกน ในจังหวะที่แซมม่อนจะเข้าชิงตัดบอลกับคาร์ริค มือของเขาก็เลยไปกางเหมือนเจตนาจะบังเหลี่ยม แต่ไปโดนที่หน้าคาร์ริคเข้าไป ฟีล ดาวน์ผู้ตัดสินในเกมนี้เลยมองว่าเจตนาชักแขนใส่ วิ่งมาแจกใบแดงให้แบบไม่มีลังเล เลยทำให้วีแกนเหลือผู้เล่น 10 คนทั้งที่กำลังจะกลับมาได้แล้วเชียว

เขากลับมาแล้ว!พี่เบิร์บอย่างนิ่งซัดได้เลย
อีก 2 นาทีต่อมา เบอร์บาตอฟก็มาทำประตูได้อีกเกมหนึง ในจังหวะที่เขาพักบอลซึ่งกิ๊บสันเปิดมาจากด้านข้าง ก่อนที่จะใช้ตัวบังกองหลังของวีแกน แล้วจัดการตวัดซัดด้วยซ้ายจากระยะเผาขน ผ่านตัวของอัล ฮับซี่เข้าไปตุงตาข่าย "ปีศาจแดง" นำห่างแล้ว 2-0

จบ 45 นาทีแรกเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้เปรียบแทบทุกด้าน เพราะนำห่างอยู่ 2-0 และตัวผู้เล่นก็มากกว่าอีกด้วย

ครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่งฟรายเออร์ลงไปเล่นแทนอีแวนส์ที่มีใบเหลืองติดอยู่ ส่วนวีแกนก็ส่งดิ ซานโต้แทนดิยาเม่เพื่อไปยืนค้ำในแดนหน้า

สไตล์อาร์ต!พี่เบิร์บบวกเม็ดสอง
นาทีที่ 58 ความมั่นใจเริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกขณะสำหรับเบอร์บาตอฟ เมื่อเขามาบวกประตูที่สองให้กับตัวเอง ในจังหวะที่วาเลนเซียจ่ายเลียดจากด้านข้าง ก่อนที่หัวหอกศิลปินจะแตะพลิกหนีกองหลังจังหวะเดียว แล้วจิ้มยิงแบบฉีดตาส่งบอลทะลุผ่านเข้าไปกระแทกตาข่ายแบบเต็มๆ แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 3-0

ไม่มีเผื่อ!ผีส่งทั้งหมู,กิโก้ลง
นาทีที่ 64 อะไรจะเปลี่ยนใจคอโหดร้ายขนาดนั้นสำหรับเฟอร์กูสัน เมื่อส่งอีกสองศูนย์หน้าอย่างรูนี่ย์และมาเคด้าลงไปเล่นแทนกิ๊กส์กับนานี่ ทำให้ตอนนี้มีกองหน้าอยู่ในสนามรวม 4 คนเข้าให้แล้ว

ดิ ซานโต้เก็บส้มไม่ได้
อีก 2 นาทีต่อมา น่าเสียดายแทนวีแกนจริงๆ เมื่อฟรายเออร์ไปพลาดในจังหวะที่จะชิงตัดบอลให้ได้ก่อนหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง ทำให้ดิ ซานโต้ได้โอกาสยิงโล่งๆเหน่งๆ แต่เหมือนเจ้าตัวลนจนเกินไป ก็เลยรีบยิงส่งๆ บอลเลยแป้กค่อยๆไหลไปให้ลินเดการ์ดกันเอาไว้ได้

ถั่วยิงติดอัล ฮับซี่เต็มๆ
นาทีที่ 69 น่าจะได้บวกเพิ่มอีกลูกแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเอร์นานเดซมีโอกาสสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วยิงจากระยะเผาขน แต่อัล ฮับซี่ก็ยังพุ่งไปบล็อกออกมาได้ทันเวลา

ผีบุกใส่ต่อเนื่อง
ด้วยสกอร์ที่มันค่อนข้างขาดมาก แถมตัวผู้เล่นมากกว่า ทำให้ตอนนี้เป็นเกมวันเวย์ของทางแมนฯยูไนเต็ดที่บุกใส่วีแกนอยู่ฝั่งเดียว ทีมเยือนเองก็ได้แต่ตั้งรับไม่ให้เสียประตูเพิ่มมากไปกว่านี้เท่านั้นก่อน

เด็ดขาด!รถด่วนยิงเสียบเสา
นาทีที่ 75 ประตูที่ 4 ก็มาจนได้ ในช่วงที่แมนฯยูไนเต็ดขึงใส่วีแกนไม่หยุด ได้เตะมุมหลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่วาเลนเซียจะได้บอลมาจากคาร์ริค แตะก่อนหนึ่งจังหวะแล้วซัดทันที บอลพุ่งทะแยงผ่านมือของผู้รักษาประตูไปเสียบเสาไกล เฉียบขาด "ปีศาจแดง" ไล่ถล่มเรื่อย

พี่เบิร์บแฮทริก!ผีได้จุดโทษซัดหาย
นาทีที่ 78 เกมมาไหลเป็นโจ๊กพร้อมกับแฮทริกของเบอร์บาตอฟ เมื่อแมนฯยูไนเต็ดมาได้จุดโทษ ก่อนที่เบอร์บาตอฟจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปแบบเฉียบขาด เพราะมีดึงจังหวะหลอกนิดหนึง ก่อนที่จะแปเล่นทางเข้าไป แมนฯยูไนเต็ดถล่ม 5-0

ตอนนี้เล่นรอจบเกม
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เหมือนทั้งสองทีมก็เล่นกันไปตามจังหวะของเกม เหมือนรอให้นกหวีดจากผู้ตัดสินเป่าออกมาเท่านั้น เพราะสกอร์ไม่ต้องพูดถึง

จบ 90 นาทีเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เจองานสบายเพราะมีผู้เล่นมากกว่าเป็นครึ่งเกม เอาชนะวีแกนไป 5-0 มีเพิ่มเป็น 45 คะแนน ทำให้พวกเขามีคะแนนเท่ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นจ่าฝูงร่วมกัน แต่ติดตรงประตูได้เสียด้อยกว่าเท่านั้นเอง

ส่วนทางวีแกนนั้นคงต้องหนักใจหน่อย เพราะตอนนี้อยู่อันดับที่ 18 และมีเพียงแค่ 14 คะแนนเท่านั้นในการพยายามดิ้นรนหนีตกชั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด 6, จอนนี่ อีแวนส์

5.5 (ฟรายเออร์ - น.45), ไมเคิ่ล คาร์ริค 6, ปาทริซ เอฟร่า 6.5, อันโตนิโอ วาเลนเซีย

7, ไรอัน กิ๊กส์ 6.5(มาเคด้า 5.5 น.64), ดาร์รอน กิ๊บสัน 6.5, นานี่ 5(รูนี่ย์ 5.5 น.64), ปาร์ค จี ซุง

8, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

9, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 5.5

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ดาวิด เด เกอา, ราฟาเอล, แดนนี่ เวลเบ็ค, มาเม่ บิราม ดิยุฟ

วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่, แกรี่ คาล์ดเวลล์, เมย์นอร์ ฟิเกรัว, อันโตลิน อัลคาราซ, เดวิด โจนส์

, รอนนี่ สตัม, โมฮาเม็ด ดิยาเม่(ดิ ซานโต้ น.45), เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, ฆอร์ดี้ โกเมซ(แม็คอาร์เธอร์ น.70), วิคเตอร์ โมเซส(โรดาลเญก้า น.79), คอเนอร์ แซมม่อน