พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2554 
สโต๊ค ซิตี้ 2 : 1 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส 
สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม
ประตู : 1-0 แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน น.13, 2-0 แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน น.43, 2-1 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (จุดโทษ น.62)
ครึ่งแรก
ลูกทุ่มหม้อเกือบแผลงฤทธิ์
เปิดฉากมาสโต๊คลุยเข้าใส่สเปอร์สทันทีและเพียงไม่ถึง 40 วินาทีก็มีโอกาสทักทายก่อนจากลูกทุ่มไกลทางขวาของช็อตตันที่เอก็อตโต้โหม่งสกัดไม่ดีจนบอลลอยไปเข้าทางเอเธอร์ริงตันได้วอลเล่ย์เต็มข้อไปติดซูเปอร์เซฟของพรีเดล 
อีก 4 นาทีถัดมาเอก็อตโต้ไปพลาดถูกช็อตตันฉกบอลได้ทางฝั่งขวาแต่โชคยังดีสำหรับ"ไก่เดือยทอง"ที่แข้งเจ้าบ้านลากไปซัดผ่านหน้าประตูหลุดเสาซ้ายออกไป
หม้อเฮ!เอเธอร์ริงตันซัดทีมเก่า
แนวรับสเปอร์สมาพังไม่เป็นท่าในนาที 13 เมื่อช็อตตันเปิดบอลจากกราบขวาไปแฉลบเอก็อตโต้แต่บอลยังลอยไปให้วอลเตอร์สที่ยืนงัดกับกัลลาสในกรอบ 6 หลาได้โหม่งชงไปเข้าเท้าเคร้าช์ซึ่งพาบอลดึงฟรีเดลออกจากเส้นประตูมาทางขวาแล้วเปิดกลับเข้าไปให้เอเธอร์ริงตัวพุ่งชาร์จใส่ทีมเก่าให้สโต๊คขึ้นนำ 1-0
ไปไม่ถูก!ไก่ถูกบอมบ์จนมึน
ดูเหมือน"ไก่เดือยทอง"ยังตั้งกระบวนท่ารับมือการบอมบ์ลูกกลางอากาศของเจ้าบ้านไม่ได้เพราะโดนเล่นงานด้วยวิธีนี้ทีไรก็งัดลูกมั่วออกมาเคลียร์ทิ้งทุกทีแถมนาที 25 ก็หวิดเสียประตูจากลูกเตะมุมทางขวาที่วีแลนเปิดมาให้ฮูธโหม่งที่เสาแรกแต่ไม่ตรงกรอบ
โมดส่องไกลได้ลุ้น
แต่"ช่างปั้นหม้อ"ก็เผลอไม่ได้เช่นกันเมื่อในนาที 31 ปาร์คเกอร์ผ่านบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาให้โมดริชที่อยู่หน้าเขตโทษได้ลองสับไกยิงไปที่โคนเสาแรกแต่โซเรนเซ่นไม่เหม่อล้มตัวปัดทิ้งออกหลังทัน
บายอร์ซัดไกลติดเซฟ
หลังจากนั้นทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันแบบใครดีใครอยู่เพียงแค่มักไปตายกันแถวหน้าเขตโทษของอีกฝั่งมีเพียงนาที 41 เท่านั้นที่อเดบายอร์รับบอลจากฟาน เดอ ฟาร์ทแล้วลากไปส่องไกลแต่ก็ไม่ผ่านมือของโซเรนเซ่นที่ล้มตัวดักไว้ได้ที่เสาซ้าย
ไก่เซ็ง!ทายาทดีแล็ปทำเสียเพิ่ม
ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาทีแนวรับสเปอร์สก็มาพังกับลูกกลางอากาศอีกแล้วหลังช็อตตันจอมทุ่มมือสองของเจ้าบ้านทุ่มบอลจากฝั่งขวามาเข้าทางวอลเตอร์สโหม่งเช็ดจากเสาแรกไปให้เอเธอร์ริงตันวิ่งเข้ายิงแบบแป๊กๆที่เสาไกลแต่กลายเป็นดีเมื่อบอลลอยข้ามฟรีเดลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้สโต๊คทิ้งห่าง 2-0
ครึ่งหลัง
ไก่ปรับทัพส่งเดโฟ,บาสซงลุย
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังทางสเปอร์สปรับเกมด้วยการส่งเดโฟลงมาแทนเลนน่อนที่เล่นไม่ออกส่วนเอก็อตโต้ที่เอาช็อตตันซึ่งทั้งใหญ่และเร็วไม่อยู่ก็ถูกถอดออกไปโดยมีบาสซงลงมาสานงานแทน ทำให้ตอนนี้พวกเขาหันมาเล่นในระบบสองกองหน้าแล้ว
หลังหม้อเหม่อปล่อยบาสซงโขกเฉย
แล้วนาที 52 บาสซงเกือบเป็นทีเด็ดให้กับ"ไก่เดือยทอง"เมื่อวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งลูกเตะมุมที่ฟาน เดอ ฟาร์ทเปิดมาจากฝั่งขวาข้ามคานไปแบบได้ลุ้นเพราะมีไม่บ่อยครั้งที่แนวรับสโต๊คจะปล่อยให้ใครมาโจมตีด้วยลูกกลางอากาศเข้าใส่
วู้ดเกตเกือบแย่
สเปอร์สเริ่มขึงเกมบุกเข้าใส่สโต๊คได้โดยในนาที 60 เบลใช้ความเร็วกระชากหนีวู้ดเกตทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดยัดเข้ามาหมายให้เพื่อนชาร์จพังประตูแต่ชอว์ครอสส์ทิ้งตัวโหม่งสกัดออกหลังได้ทัน 
นาทีถัดมาวอล์คเกอร์ได้โอกาสเปิดบอลจากริมเขตโทษด้านขวาเข้าไปกดดันแนวรับสโต๊คจนวู้ดเกตเกือบสกัดเข้าประตูตัวเอง จังหวะต่อเนื่องสเปอร์เล่นลูกเตะมุมสั้นมาให้โมดริชลากบอลลุยเข้าเขตโทษไปโดนวีแลนยกเท้าเตะจนล้มคว่ำทำให้ได้จุดโทษซึ่งก็เป็นอเดบายอร์ที่รับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปให้ทีมไล่ตามมาเป็น 2-1
ไก่ได้ใจ!ปาร์คเกอร์ส่องไกลเกือบเข้า
สเปอร์สชักได้ใจแล้วเมื่อในนาที 65 โมดริชแทงบอลทะลุช่องมาให้ปาร์คเกอร์ที่หาพื้นที่ว่างอยู่หน้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษก็สับไกยิงจากระยะ 20 หลาไปถูกโซเรนเซ่ยปัดทิ้งออกหลัง
โมดริชเครื่องร้อนแล้ว
นาที 74 อเดบายอร์ผ่านบอลให้โมดริชพริ้วหนีกองหลังเจ้าบ้านจนได้ช่องซัดจากนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปถูกโซเรนบินปัดทิ้งได้ทันที่เสาซ้าย
ชอว์ครอสส์สกัดคาเส้น
นาทีถัดมาโมดริชเปิดบอลไซด์ก้อยจากเขตโทษด้านซ้ายผ่านหน้าประตูไปให้กาบูลได้วางเท้ากระทุ้งที่เสาไกลแต่บอลพุ่งไปชนศอกของชอว์ครอสส์ที่ยืนคุมเส้นอยู่กระดอนมาแต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้เป่าเป็นจุดโทษแต่อย่างใด
ทีมเยือนชวดลูกโทษ
นาที 78 ปาร์คเกอร์ไหลบอลกลับหลังไปให้อเดบายอร์วิ่งเข้าซัดไปติดไวท์เฮ้ดโดยชนท้องก่อนกระดอนไปโดนมือเต็มๆแต่เฮียฟอยด์ยังทำเฉยไม่เป่าเป็นลูกโทษให้กับฝั่งสเปอร์สอีกหน
ไก่เหลือสิบตัว!กาบูลโดนไล่
แต่สถานการณ์ที่ดูดีของสเปอร์สต้องมาจบลงในนาที 82 เมื่อกาบูลไปพลาดท่าตัดฟาวล์ใส่วอลเตอร์สในจังหวะที่กำลังจะหลุดเดี่ยวเพื่อเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายจนต้องรับใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
ไก่รอดตัว!ชอว์ครอสส์โขกติดเซฟติดคาน
หลังจากนั้นสโต๊คเลยกลายเป็นฝ่ายบุกแล้วมาได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้ายในนาที 85 เอเธอร์ริงตันเปิดมาเสาแรกให้ชอว์ครอสส์โขกไปโดนฟรีเดลบินปัดข้ามคาน พอเปิดลูกเตะมุมมาอีกครั้งก็เป็นชอวฺครอสส์ที่ได้โหม่งที่เสาแรกไปชนคานอีก
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่อาจทำอะไรกันเพิ่มได้จบเกมท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สหยุดสถิติคว้าชัยในลีกไว้เพียง 6 นัดรวดเท่านั้นเมื่อบุกมาพ่ายสโต๊ค 2-1 แต่ยังรั้งที่ 3 ของตารางต่อไปโดยตามหลังจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 7 คะแนนเช่นเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น 6.5, โรเบิร์ต ฮูธ 6.5, ไรอัน ชอว์ครอสส์ 7, โจนาธาน วู้ดเกต 
5.5 (รอรี่ ดีแล็ป น.84, 6), ไรอัน ช็อตตัน 8, เกล็น วีแลน 5.5, ดีน ไวท์เฮ้ด 6, มาร์ค วิลสัน 7, แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน 
***8 (วิลสัน ปาลาซิออส น.88, 6), โจนาธาน วอลเตอร์ส 7.5 ปีเตอร์ เคราช์ 7
สำรองไม่ได้ใช้ : อัสเมียร์ เบโกวิช, แม็ทธิว อัพสัน, คาเมรอน เจโรม, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, เคนวิน โจนส์
สเปอร์ส : แบร๊ด ฟรีเดล 7.5, ไคล์ วอล์คเกอร์, ยูเนส กาบูล 
5, วิลเลี่ยม กัลลาส 5.5, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ 5.5 (เซบาสเตียน บาสซง น.46, 6), อารอน เลนน่อน 6.5 (เจอร์เมน เดโฟ น.46, 5.5), ลูก้า โมดริช 7, สก๊อตต์ พาร์เกอร์ 6.5, แกเร็ธ เบล 7, ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท 5 (จิโอวานนี่ ดอส ซานโต๊ส น.88, 6), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 6.5
สำรองไม่ได้ใช้ : โกเมส, เวดราน ชอว์ลูก้า, สตีเว่น พีนาร์, ซานโดร
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
