วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2554
นาโปลี 3 - 3 ยูเวนตุส
ครึ่งแรก
เกมเริ่มมา 3 นาทีเป็นทีมเยือนที่ได้โอกาสจบสกอร์ก่อนจากจังหวะที่เอสติการ์ริเบียลากบอลมาจากกลางสนามแล้วถ่ายต่อให้เปเป้ที่ยืนรออยู่ทางกราบซ้ายกดเต็มข้อทันทีบอลน้ำหนักใช้ได้แต่ไม่ตรงกรอบ
ถัดมา 4 นาทียูเว่ได้โอกาสจบอีกครั้งจากจังหวะขึ้นเกมมาทางกราบขวาแล้วเปิดบอลยัดเข้าไปในเขตโทษ วูซินิชจับบอลได้กดเต็มข้อทันทีบอลผ่านเสาสองออกไปชนิดได้ลุ้น ช่วง 10 นาทีแรกเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดทั้งเรื่องการครองบอลและจังหวะจบสกอร์ส่วนเจ้าบ้านได้แต่ตั้งรับเท่านั้น
อย่างไรก็ตามนาที 14 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่นสนามเมื่อผู้ตัดสินใจเป่าให้นาโปลีได้จุดโทษจากจังหวะที่อันเดรีย ปิร์โล่ไปรวบเอเซเกล ลาเวซซี่ล้มลงในเขตโทษ เป็นมาเร็ค ฮัมซิคที่รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดซัดเสียบมุมซ้ายมือของตัวเองเข้าประตูไป แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเพราะผู้เล่นนาโปลีวิ่งเข้าไปในเขตโทษเร็วเกินไปทำให้ต้องเตะใหม่ คราวนี้ฮัมซิคเลือกกดเต็มข้อทว่าบอลเหินข้ามคานไปไกลชนิดแฟนบอลอึ้งกันทั้งสนาม
ถัดมา 6 นาทีแฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮอีกครั้งแล้วคราวนี้ไม่เฮเก้อแล้วเพราะนาโปลีทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จจากจังหวะฟรีคิกทางกราบซ้ายเปิดเข้ากลางมา โบนุชชี่โขกสกัดได้ก่อนแต่ว่าไม่ดีบอลพุ่งไปทางฮัมซิคที่แก้ตัวได้สำเร็จโขกตุงตาข่าย เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
กลายเป็นบอลได้ใจสำหรับนาโปลีแม้จะได้ประตูขึ้นนำไปแล้วแต่ก็เดินเกมบุกใส่ทีมเยือนไม่หยุดยั้งเกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ลาเวซซี่พลิ้วหลบลิชต์สไตเนอร์แล้วผ่านบอลให้ปานเดฟได้จบแต่ว่าบอลหลุดเสาออกหลังไป เกมผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงยูเวนตุสจ่าฝูงอาการไม่ค่อยดีนักโดนเกมเพรสซิ่งของนาโปลีไล่จนออกบอลพลาดกันหลายจังหวะ
นาที 40 เกมเพรสซิ่งของนาโปลีได้ผลอีกครั้งและคราวนี้ช่วยให้ได้ประตูที่สองเมื่อคริสเตียน มัจโจ้วิ่งไปกดดันอันเดรีย ปิร์โล่จนสกัดบอลไปติดตัวมัจโจ้และบอลเป็นใจกระดอนไปเข้าทางปานเดฟกดเต็มข้อบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม เจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มเติมครบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านนำ 2-0
ครึ่งหลัง
ไม่รู้ว่าอันโตนิโอ คอนเตพูดอะไรกับนักเตะยูเว่บ้างในช่วงพักครึ่งแต่ดูเหมือนจะได้ผลเป็นอย่างยิ่งเพราะเริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 3 ยูเวนตุสได้ประตูตีไข่แตกอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่อาร์ตูโร่ วิดัลได้บอลที่กลางสนามพาขึ้นมาหน้าเขตโทษแล้วจ่ายตัดหลังทะลุช่องให้อเลสซานโดร มาตรี้หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดผ่านมือมอร์แกน เดอ ซานติสตุงตาข่ายทีมเยือนไล่ขึ้นมา 1-2
10 นาทีแรกของครึ่งหลังเกมเป็นของยูเว่โดยสิ้นเชิงและเกือบตีเสมอสำเร็จเมื่อวูซินิชกระชากบอกหนีตัวประกบเข้าไปยิงจากริมเส้นเขตโทษฝั่งซ้ายแต่เดอ ซานติสปิดมุมไว้อยู่แล้วปัดบอลทิ้งออกหลังไปได้
นาที 57 โอกาสกลับมาเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านบ้างเป็นโกคาน อินแลร์จ่ายออกด้านกว้างให้เอเซเกล ลาเวซซี่พลิ้วหลบลิชต์สไตเนอร์ได้อีกครั้งพาบอลขึ้นมาถึงระยะประมาณ 18 หลากดเต็มเท้าทันทีบอลพุ่งแรงแต่คราวนี้กินบุฟฟ่อนไม่ลง
11 นาทีถัดมานาโปลีพลิกสถานการณ์กลับมาได้ประตูหนีห่างยูเวนตุสออกไปเป็น 3-1 จากความสุดยอดของ โกรัน ปานเดฟ ในจังหวะที่คริสเตียน มัจโจ้ขึ้นเกมมาทางกราบขวากระชากหนีตัวประกบหลุดไปถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางมาให้ปานเดฟแต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วกลับตัว 180 องศาซัดเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
อย่างไรก็ตามนาที 72 สถานการณ์ของเจ้าบ้านกลับมาไม่แน่ไม่นอนอีกครั้งเมื่อยูเวนตุสฮึดสู้ได้ประตูไล่ขึ้นมา 3-2 จากจังหวะที่ขึ้นเกมมาทางกราบขวาเปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษมาตรี้โหม่งได้ในจังหวะแรกแต่บอลเลยมาทางเสาสองเหมือนจะไม่มีอะไรแล้วแต่มาร์เซโล่ เอสติการ์ริเบียวิ่งเติมขึ้นมาจับบอลแล้วจิ้มผ่านตัวเดอ ซานติสเข้าประตูไป
ม้าลายตายยากจริงๆได้ประตูตีเสมอจนได้จากความสุดยอดของ ซิโมเน่ เปเป้ ที่ลากบอลยาวจากครึ่งสนามควบขึ้นมาคนเดียวจนถึงแถวๆเขตโทษจะจ่ายต่อให้เพื่อนแต่ไปติดกองหลังนาโปลีทว่ากลับกลายเป็นดีเพราะบอลไหลกลับมาเข้าทางพาบอลกระชากหนีตัวประกบแล้วซัดผ่านมือเดอ ซานติสตุงตาข่าย สกอร์เสมอกัน 3-3
หลังจากนั้นทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือนเริ่มเล่นกันรัดกุมขึ้นไม่ค่อยเปิดเกมแลกกันแล้ว ช่วงทดเวลาบาดเจ็บยูเว่เปลี่ยนเอา กวายาเรลล่า และ เดล ปิเอโร่ลงสนามมาแต่ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบเกมยูเวนตุสบุกมาเสมอกับนาโปลีไปอย่างสุดมัน 3-3
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
นาโปลี : มอร์แกน เดอ ซานติส, เปาโล คันนาวาโร่, ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า (เฟร์นานเดซ น.76), ฮิวโก้ อาร์มันโด, โกคาน อินแลร์, วอลเตอร์ การ์กาโน่, ฮวน ซูนิกา (ดอสเซนน่า น.87), คริสเตียน มัจโจ้ , เอเซเกล ลาเวซซี่, มาเร็ค ฮัมซิค
, โกรัน ปานเดฟ
(ซานตาน่า น.71)
ยูเวนตุส : จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ , อันเดรีย บาซาญี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์
, อันเดรีย ปิร์โล่, อาร์ตูโร่ วิดัล
, มาร์เซโล่ เอสติการ์ริเบีย (เดล ปิเอโร่ น.90), ซิโมเน่ เปเป้ (ปาเซียนซ่า น.86), มีร์โก วูซินิช, อเลสซานโดร มาตรี้
(กวายาเรลล่า น.90)










Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว