วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2554
สนาม : แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูล 1:1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ประตู : 1-0 กอมปานี น.31, 1-1 เลสคอตต์(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.33
เกมนี้เคนนี่ ดัลกลิชยังคงใช้สเคอร์เทลกับแอกเกอร์จับคู่ลงสนามเหมือนเดิม ส่วนเบลลามี่ก็ไม่มีชื่อทั้งในตัวจริงและตัวสำรองหลังมีข่าวว่าเขาขอถอนตัวจากเกมนี้เพราะการเสียชีวิตของแกรี่ สปีด ด้านสถิติลิเวอร์พูลไม่แพ้มาแล้ว 7 เกมล่าสุดในลีก
ส่วนแมนฯ ซิตี้นัดนี้เลือกที่จะใช้แค่อเกวโร่ลงสนามเป็นกองหน้าตัวเดียว และมีซิลบา, นาสรี่และมิลเนอร์คอยทำเกมรุกช่วย แต่ปีที่แล้วพวกเขามาเยือนแล้วพ่ายให้ไป 3-0 ซึ่งทำให้พวกเขาเอาชนะที่แอนฟิลด์มาไม่ได้ 8 เกมแล้ว
ครึ่งแรก
ยาย่าลองก่อนไม่ตรงกรอบ
เริ่มเกมมา 6 นาทีก็เป็นทีมเยือนที่มาได้โอกาสก่อนจากลูกเตะมุมทางซ้ายเปิดหลุดมาถึงเสาสองให้อเกวโร่โหม่งกลับมาที่หน้าประตู แอกเกอร์โหม่งสกัดแต่ยังมาถึงยาย่ายิงสวนเข้าไปแต่ก็ยังหลุดเสาออกหลัง
ต้นเกมเรือได้บุกเข้าใส่-หงส์ยังเหนียว
เกมช่วงต้นนี้"เรือใบ"มาพับเกมบุกได้อยู่พักนึงแต่ก็ต้องยกนิ้วให้กับแนวรับของ"หงส์แดง"ที่ยังไม่เสียกระบวนดักจังหวะได้อยู่และมีโอกาสได้โต้กลับเรื่อยแต่ก็ยังขาดความแม่นยำในจังหวะสุดท้าย
ชมไม่ได้!เอนริเก้จ่ายเกือบโดนกุนฉก
ชมหน่อยไม่ได้เกือบมอบโชคให้แมนฯ ซิตี้แล้วจากจังหวะคืนหลังของเอนริเก้ที่จ่ายไม่ได้มองเพื่อนไม่มีใครอยู่เลยทำให้อเกวโร่มีโอกาสฉกไปยิงแต่ต้องชมเรน่าออกมาตัดบอลไว้ได้อย่างไว
เรือกางใบ!กอมปานีใช้ไหล่โหม่งขึ้นนำ
ครบครึ่งชั่วโมงเป็น"เรือใบสีฟ้า"ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนจากลูกเตะมุมทางขวาโดยซิลบาเปิดเข้ามาให้กอมปานีเอาชนะจอห์นสันกับเคาท์แล้วขึ้นโหม่ง แต่บอลเหมือนโดนหัวไหล่แทนพุ่งชนเสาสองเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ออกนำไปก่อน 1-0
เสมอทันควัน!เลสคอตต์สกัดเข้าประตูตัวเอง
แต่แล้วอีกแค่ 2 นาทีเจ้าบ้านก็กลับมาด้วยความรวดเร็วจากลูกที่เหมือนไม่มีอะไรของจากการยิงไกลโดยอดัม บอลพุ่งไม่แรงแต่ยังมีตัวช่วยอย่างเลสคอตต์พยายามสกัดแต่กลายเป็นไม่มีทำให้บอลมันเปลี่ยนทางกลิ้งเข้าประตูแบบฮาร์ทหมดสิทธิ์เซฟ ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 แล้ว
หงส์คึก!อดัมยิงติดเซฟฮาร์ท
"หงส์แดง"เริ่มคึกและเกือบได้ประตูขึ้นนำด้วยจากซัวเรสที่แทงให้เคาท์หลุดไปทางริมเขตโทษทางซ้ายแต่ไม่มีมุมยิงเลยหมุนกลับมาแล้วจ่ายย้อนมากลางประตูให้อดัมวิงเข้ามายิงหวังเสียบเสาแรก ฮาร์ทก็ทิ้งตัวไปผิดทางแล้วแต่ต้องชมมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษยังใช้ขาเซฟออกไปได้หวุดหวิด
จอห์นสันได้ยิงบ้างแต่หลุดเสา
ท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านมาหนักมีโอกาสลุ้นอีกแล้วจากจังหวะที่จอห์นสันพาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจะทำชิ่งกับซัวเรสแล้วซัดด้วยซ้ายหวังเสียบเสาไกลแต่บอลก็โค้งหลุดออกหลังนิดเดียว
เกือบนำอีกรอบ!กุนหลุดไปยิงมุมแคบติดเซฟ
ทดเจ็บ"เรือใบ"เกือบได้ออกนำอีกครั้งจากอเกวโร่ที่พาบอลตัดจากขวาเข้าในมาแล้วฝากบอลให้กับซิลบาก่อนจะชิ่งเข้าเขตโทษให้"กุน"ได้ไปเกือบสุดเส้นหลังก่อนจะซัดมุมแคบแต่เรน่ายังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้
ครึ่งหลัง
นาสรี่กลับตัวยิงหลุดเสา
เปิดฉากครึ่งหลังไม่ถึง 30 วินาที"เรือใบ"ก็ได้ลุ้นซะแล้วจากกลิชี่ที่จ่ายจากริมเส้นซ้ายมาให้นาสรี่หน้าเขตโทษจับบอลก่อนหมุนตัวกลับไปยิงแต่บอลมันติดไซร้ก้อยเลี้ยวหลุดออกหลัง
เคาท์โหม่งหลุดกรอบนิดเดียว
คราวนี้เป็นคิวของ"หงส์แดง"ที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำเหมือนกันจากดาวนิ่งที่ขึ้นเกมทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางมา กอมปานีพยายามดีดเคลียร์บอลแต่ไม่ดีบอลลอยมาถึงเสาสองให้เคาท์ได้โหม่งแต่บอลก็หลุดเสาออกไปเช่นกัน
กลิชี่เปิดกุนเกือบได้ยิงจ่อๆ
ทั้ง 2 ทีมยังพลัดกันได้ทำเกมและ"เรือใบ"เกือบได้โอกาสจบอีกแล้วจากกลิชี่ที่เติมมาทางซ้ายก่อนจะจัดการเปิดเรียดเข้าไปที่เสาสองหวังให้อเกวโร่ชาร์จแต่"หงส์แดง"ยังโล่งเพราะเอนริเก้ตามมาสกัดออกหลังได้ทัน
หงส์ได้ลุ้น!ดาวนิ่งวอลเลย์ยังโดนเซฟ
นาที 67 "หงส์แดง"มีได้ง้างเท้ายิงลุ้นประตูอีกแล้วจากลูกเตะมุมสั้นทางซ้ายเข้ามาให้ซัวเรสก่อนจะตั้งป้อมเปิดย้อนมาหน้าเขตโทษให้กับดาวนิ่งได้วอลเลย์บอลกระทบพื้นหนึ่งทีก่อนจะเด้งขึ้นมาเตรียมเสียบคานแต่ฮาร์ทยังเหนียวโดดปัดออกไปได้อยู่
เรือใจหาย!เลสคอตต์สกัดติดเคาท์หน้าประตู
แฟน"เรือใบ"ใจหายใจวาบเลยหลังซัวเรสได้บอลเขตโทษก่อนใช้ความเร็วหนีมาถึงเส้นหลังก่อนจะเปิดเข้าไปที่กรอบ 6 หลา เลสคอตต์สกัดทีแรกติดตัวเคาท์ไม่ไปไหนเลยสกัดอีกทีแต่ยังติดเคาท์บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว
หงส์คืนหลังไม่ดีเรน่าต้องสกัดอีกแล้ว
คราวนี้เป็นตาของเดอะ ค็อปบ้างที่เกือบใจหายเหมือนกันจากการคืนหลังที่เบาเกินอีกแล้วจนเรน่าต้องรีบออกมาสกัดไว้ก่อนที่จะโดนมิลเนอร์ฉกไปยิง
เกือบนำ!สเคอร์เทลจิ้มจ่อๆตรงตัวฮาร์ท
เข้าช่วงท้าย"หงส์แดง"น่าได้ประตูขึ้นนำอีกแล้วจากลูกฟรีคิกทางขวาเปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ บอลคลุกขลิกหล่นมาตรงหน้าสเคอร์เทลได้จิ้มจ่อๆแต่ฮาร์ทยังยอดยืนถูกทางรับเข้าซองได้ทันเวลา
หงส์มาหนัก!ดาวนิ่งวอลเล่ย์หลุดกรอบ
แล้วลิเวอร์พูลมาหนักเลยมีโอกาสอีกแล้วจากการเปิดจากริมเส้นขวาโดยเฮนเดอร์สันเข้าเขตโทษไปให้กับดาวนิ่งที่เสาสองได้วอลเล่ย์เลยแต่บอลกลับผ่านหน้าประตูไป เคาท์พยายามจะซ้ำแต่ก็ไม่ทันเพราะบอลแรงเกิน
เรือเหนื่อย!โอ้โดนเหลือง 2 ไล่ออก
เหลืออีก 8 นาทีแต่"เรือใบ"งานเข้าแล้วจากบาโลเตลลี่ที่ไปทำฟาวล์จากกางแขนไปเบียดศอกคอจนสเจอร์เทลจนคว่ำ มาร์ติน แอตกินสันจัดแจงควักใบเหลืองที่สองให้ทันที ตอนออกจากสนามมันชินี่ยังดุแถมท้ายไปอีกที
ฮาร์ทซูเปอร์เซฟ!ซัวเรสยิงไม่ผ่านมือ
"หงส์แดง"เกือบได้ขึ้นนำเป็น 2-1 แล้วจากลูคัสที่ทำชิ่งกับซัวเรสให้ได้ยิงด้วยขวาหวังยัดเสาแรกแต่ก็ต้องยกนิ้วให้ฮาร์ทบินปัดไว้ได้ทัน
เรือเกือบนำ!ซิลบาได้ยิงแต่เบาไป
"เรือใบ"ที่เหลือ 10 เกือบได้ประตูนำเช่นกันจากเซโก้เบียดกับลูคัสแล้วเอาชนะพาบอลขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ซิลบาต้องเลี้ยงล็อกหลบเรน่าที่ออกมากดดันก่อนจะยิงแต่ก็เบาเกินแข้งลิเวอร์พูลลงมายืนรอกันที่เส้นหมดแล้ว
น่าได้สุดๆ!คาร์โรลล์โขกฮาร์ทยังเซฟช่วย
ทดเจ็บ"หงสืแดง"น่าได้ประตูขึ้นนำจริงๆจากลูกเปิดโดยจอห์นสันให้คาร์โรลล์ได้โหม่งแต่ฮาร์ทยังเหนือบินปัดไว้ได้ เข้าทางซัวเรสยิงซ้ำก็โดนสกัดออกไป
หมดเวลาลิเวอร์พูลยันเสมอ 1-1 แต่ยังอยู่อันดับ 6 เท่าเดิมสถิติในแอนฟิลด์ไม่ดีเท่าไหร่เพิ่งชนะแค่ 2 ที่เหลือ 5 นัดเสมอเรียบส่วน"เรือใบ"ถูกหยุดสถิติชนะรวดไว้ที่แค่ 7 นัดนำแมนฯยูฯที่ 5 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 7.0, เดเนียล แอกเกอร์ 8.0, มาร์ติน สเคอร์เทล 7.5, โฆเซ่ เอนริเก้ 6.0, เกล็น จอห์นสัน 7.0, ลูคัส เลว่า 8.0, ชาร์ลี อดัม 7.0, สจวร์ต ดาวนิ่ง 6.0, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 5.0, หลุยส์ ซัวเรส 7.5, เดิร์ค เคาท์ 5.5 (คาร์โรลล์ น.84)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เจมี่ คาร์ราเกอร์, มักซี่ โรดริเกซ, โดนี่, เจย์ สเปียริ่ง, มาร์ติน เคลลี่, เซบาสเตียน โคอาเตส
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 8.0*, โจลีออน เลสคอตต์ 5.5, แวร์นซองต์ กอมปานี 5.5, กาเอล กลิชี่ 6.5, ไมกาห์ ริชาร์ด 6.0, ยาย่า ตูเร่ 5.5, แกเร็ธ แบร์รี่ 6.0, เจมส์ มิลเนอร์ 6.0, ซามีร์ นาสรี่ 5.0 (บาโลเตลลี่ น.65 4.0), ดาบิด ซิลบา 6.5 (โคโล่ ตูเร่ น. 90), แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 6.0 (เซโก้ น.82)
สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ไนเจล เด ยอง, อดัม จอห์นสัน, ปาโบล ซาบาเลต้า, คอสเทล พานทิลิมอน
เบรกสั่งได้!หงส์ถวายหัวบี้เรือมันหยด 1-1
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport เบรกสั่งได้!หงส์ถวายหัวบี้เรือมันหยด 1-1
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!