บอลไทยเปลี่ยนแผนเตรียมอุ่นแข้งเลบานอน
บอลไทยเปลี่ยนแผนเก็บตัวต่างประเทศ เปลี่ยนอุ่นแข้ง เลบานอน กลาง ม.ค.แทน เน้นทีมเวิร์กและการประสานงานในทีม ล่าสุดประกาศชื่อ 26 ขุนพล มีแชมป์ซีเกมส์ติดโผ 8 ราย เก็บตัวซ้อม 3 วันก่อนตัดตัวเหลือ 20 คน ทำศึกคิงส์ คัพ 22 ธันวาคม
ความเคลื่อนไหวการเตรียมทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีโปรแกรมลงสู้ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ระหว่างวันที่ 22-28 ธันวาคมนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 20 ทีมสุดท้าย ที่ไทยอยู่ร่วมสายกับ ญี่ปุ่น โอมาน และ บาห์เรน โดยนัดแรกจะรับการมาเยือนญี่ปุ่น วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551
ล่าสุดขุนพลนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ที่เดินไปเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จำนวน 16 คน คือ โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, นิเวส ศิริวงค์, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, สุรีย์ สุขะ, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ณรงค์ชัย วชิรบาล, ตะวัน ศรีปาน, พิภพ อ่อนโม้, ศรายุทธ ชัยคำดี, สุริยา ดอมไธสง, สุเชาว์ นุชนุ่ม และ พิพัฒน์ ต้นกันยา โดยมี สมพล ชมชื่น สตาฟฟ์โค้ชเป็นหัวหน้าคณะ กลับถึงเมืองไทยแล้ว โดยเที่ยวบิน ทีจี 917 เวลา 15.55 น. เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม
ทันทีที่คณะนักฟุตบอลทีมชาติไทยเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการเตรียมทีมสู้ศึก 2 รายการใหญ่ โดย โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า การเตรียมทีมสู้ศึกลูกหนังคิงส์คัพที่จะเริ่มเปิดฉากในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ จะเรียกนักเตะเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมทันที โดยเป็นนักเตะชุดใหญ่จำนวน 16 คน รวมกับทีมแชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยอีก 8 คนคือ ธีรเทพ วิโนทัย, อานนท์ สังสระน้อย, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, เกียรติประวุฒิ สาวแวว, ธีรศิลป์ แดงดา, วีระ เกิดพุดซา, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ณัฐพงษ์ สมณะ รวมกับ ดัสกร ทองเหลา และ นิรุจน์ สุระเสียง รวมแล้วจะเก็บตัวทั้งสิ้น 26 คน โดยจะมีการตัดตัวเหลือ 20 คน ในวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมใน 3 วันต่อจากนี้ ซึ่งจะคัดเลือกเอาคนที่ดีที่สุด
ขณะที่ บิ๊กเปี๊ยก องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้กล่าวว่า ผมเชื่อว่าการที่นักเตะได้มีโอกาสไปเก็บตัวฝึกซ้อมกับสโมสรแมนฯ ซิตี้ มานั้นจะทำให้ทีมเราได้ประสบการณ์ในการนำมาใช้ในการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 3 ได้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ในฐานะของตัวแทนสมาคมฟุตบอลต้องขอขอบคุณทางมูลนิธิไทยคมไว้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าทางมูลนิธิไทยคมน่าจะมีโครงการดีๆ เช่นนี้ให้กับทีมฟุตบอลทีมชาติไทยอีกในวาระต่อไปอย่างแน่นอน
ด้าน สมพล ชมชื่น ในฐานะหัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชที่คุมทีมไปเก็บตัวฝึกซ้อมกับสโมสรแมนฯ ซิตี้ มาได้กล่าวว่า ครั้งนี้คณะของเราได้สิ่งต่างๆ กลับมาใช้มากมายทั้งเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่หนาวเย็นซึ่งเราต้องเจอโดยเฉพาะนัดไปเยือน ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.พ. ปีหน้าครั้งนี้เราได้ซ้อมอย่างเต็มที่กับโค้ชฝีมือดีแถมยังได้อุ่นเครื่องกับทีมที่เป็นของจริงอีก 2 นัดทั้งกับสต๊อคพอร์ท และ ทีมสำรองของแมนฯ ซิตี้ รวมถึงได้มีโอกาสศึกษาการบริหารจัดการทีมอีกด้วย ซึ่งนอกเหนือจากนักเตะแล้วทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนยังได้ศึกษาศาสตร์ด้านโค้ชจากบรรดาสตาฟฟ์โค้ชของทีมแมนฯ ซิตี้ มามากมายทีเดียว โดยเฉพาะจากผจก.ทีม อย่าง สเวน โกรัน อีริคส์สัน
ส่วน โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า อย่างที่หลายๆ ท่านได้บอกไปแล้วว่าเราได้ประสบการณ์ดีๆ กลับมามากมายทีเดียวในการไปเก็บตัวที่อังกฤษครั้งนี้ผมอยากจะบอกว่าต่อจากนี้ไปเราต้องมองไปที่การเป็นทีมระดับเอเชียได้แล้วไม่ใช่ว่ามองแค่ในระดับอาเซียนที่เหมือนของเป็นของตาย สำหรับนักเตะทีมชาติไทยไปแล้วการจะเดินหน้าไปสู่เอเชียนั้นถือเป็นโจทย์สำคัญของเราที่ต้องผ่านไปให้ได้
สำหรับทัวร์นาเมนต์ คิงส์คัพ ครั้งที่ 38 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-29 ธ.ค. 50 นี้น่าจะถือเป็นบททดสอบอย่างดีให้กับทีมเราที่มีภารกิจสำคัญอย่างคัดเลือกฟุตบอลโลกเอเชียรอบ 3 รออยู่ทีมที่มาแข่งขันฟุตบอล คิงส์คัพ หนนี้แต่ละทีมไม่ธรรมดาทั้งอิรักก็มีดีกรีแชมป์อช.คัพที่ผ่านมา, อุซเบกิสถาน เองก็เป็นทีมสไตล์ยุโรปมีความแข็งแกร่งรวมไปถึง เกาหลีเหนือ เองด้วย ซึ่งเชื่อว่า คิงส์คัพ ครั้งนี้เราในฐานะแชมป์เก่าน่าจะใช้เป็นบททดสอบอย่างดีก่อนลงศึกใหญ่ปีหน้าอย่างคัดบอลโลกเอเชีย ซึ่งในฐานะของคนทำทีมผมบอกเลยว่าเราวางเป้าไว้ที่แชมป์สำหรับคิงส์คัพหนนี้
ส่วนเรื่องการพิจารณาตัวผู้เล่นเพื่อส่งใช้งาน 20 คนในรายการ คิงส์คัพ นั้น ขณะนี้ในทีมมีนักเตะอยู่ 27 ซึ่งรวมที่เล่นอยู่ในและต่างประเทศ ซึ่งถือว่าหนักใจไม่น้อยทีเดียวในการตัดตัวซึ่งคงต้องหารือกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนว่าใครจะเหมาะสมส่วนนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีในซีเกมส์หนที่ผ่านมา 4-5 รายนั้นเชื่อว่าวันข้างหน้าเขาจะก้าวขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ได้อย่างแน่นอน โดย 3 วันที่เหลือก่อนที่คิงส์คัพจะเริ่มดวลแข้งตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. เป็นต้นไปนั้นคงต้องเตรียมเรื่องของแท็กติกเป็นพิเศษเพื่อรับมือกับ 3 ทีมแม้รายการนี้จะขาด ตะวัน ศรีปาน ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ต้องพักรักษาตัวให้หายขาดเพื่อป้องกันการกลับมาเจ็บอีกครั้งนั้น ยอมรับว่าเสียดายแต่เชื่อว่ารายอื่นๆ ที่เหลือจะทำผลงานที่ดีได้แน่นอน อ.ชาญวิทย์ เผย
ด้าน บิ๊กโต้ง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นงานหนักมาก ทั้ง อุซเบกิสถาน อิรัก เกาหลีเหนือ แข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ดี ด้วยศักยภาพของนักเตะไทยที่เพิ่งคว้าแชมป์ซีเกมส์มาหมาดๆ รวมถึงทีมชุดใหญ่ที่เอาชนะทีมสำรองของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เชื่อว่าทีมไทยมีโอกาสลุ้นแชมป์สูง
ด้านการเตรียมทีมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 20 ทีมสุดท้ายนั้น เดิมมีโปรแกรมจะเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่เกาหลีใต้ หรือ จีน แต่หลังจากทบทวนกันใหม่ เห็นว่าการไปเก็บตัวฝึกซ้อมต่างประเทศในช่วงเดือนหน้าไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก เพราะกลางเดือนมกราคม ทีมชาติเลบานอนจะเดินทางมาอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า อีกสิ่งที่ทีมชาติไทยต้องการมากที่สุดคือเรื่องทีมเวิร์ก ดังนั้นการที่ทีมชาติไทยได้ลงเตะในฟุตบอลคิงส์คัพและนัดพิเศษกับเลบานอนแล้ว น่าจะทำให้ทีมไทยมีความพร้อมเต็มที่ บิ๊กโต้ง กล่าว
ขณะที่นักเตะที่เดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมยังสโมสรแมนฯ ซิตี้ กลับมาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครั้งนี้พวกเขาได้ประสบการณ์อย่างเต็มที่และนอกเหนือจากนี้แล้ว 4 นักเตะไทยอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี, สุริยา ดอมไธสง, ณรงค์ชัย วชิรบาล, โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ที่ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่สโมสรแมนฯ ซิตี้ ในช่วงที่ผ่านมายังอาจโชคดีได้ไปค้าแข้งกับทีม เพิร์ธ กลอรี่ ทีมในระดับดิวิชั่น 1 ของลีกออสเตรเลียอีกด้วย หลังจากโชว์ผลงานได้เข้าตา มร.มาร์ค อัลลิสัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของสโมสรดังกล่าวด้วย
สำหรับกำหนดการเดินทางมาของทั้ง 3 ทีมนั้น อุซเบกิสถาน จะเดินทางมาถึงวันที่ 19 ธ.ค. นี้ ด้วยเที่ยวบิน เฮชวาย 533 เวลา 19.20 น., วันที่ 20 ธ.ค. อิรัก เที่ยวบิน ทีจี 792 เวลา 16.45 น. และ เกาหลีเหนือ เที่ยวบิน ทีจี 615 เวลา 22.00 น. โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ธ.ค. 50 นี้ เวลา 13.30 น. ที่ โรงแรมเรดิสัน พระราม 9
แหล่งข่าว :: http://www.komchadluek.net