วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2554
สนาม : ซานติเอโก้ เบร์นาบิว
เรอัล มาดริด 7 : 1 โอซาซูน่า
ประตู : 1-0 โรนัลโด้ น.23, 1-1 บัลเด้ น.30, 2-1 เปเป้ น.34, 3-1 อิกวาอิน น.40, 4-1 โรนัลโด้(จุดโทษ) น.54, 5-1 โรนัลโด้ น.58, 6-1 เบนเซม่า น.63, 7-1 เบนเซม่า น.81
ครึ่งแรก
ราชันบุกแหลกเลย
เริ่มมา 10 นาทีแรก เป็นเรอัล มาดริดที่เปิดเกมบุกรุกใส่โอซาซูน่าแบบเต็มที่ตั้งแต่เริ่มเลย เพียงแต่จังหวะที่จะลุ้นยิงประตูจะๆนั้นยังไม่มี แต่ก็ได้ลุยขึ้นไปเรื่อยๆ
อิกวาอินโขกไม่เต็ม
อีก 2 นาทีต่อมา ได้หลุดเข้าไปลุ้นประตูเลยสำหรับอิกวาอิน ในจังหวะที่สอดเข้าไปโหม่งลูกหยอดของเพื่อนในกรอบเขตโทษ แต่โดนเบียดอยู่ก็เลยโหม่งแบบฝืนๆ บอลลอยง่ายๆเข้ามือผู้รักษาประตูสบาย
โด้จิ๋วสับแล้วยิงแฉลบ
นาทีที่ 21 หลังจากนวดอยู่พักใหญ่ เรอัล มาดริดก็มาได้จังหวะลุ้นประตูจากโรนัลโด้ที่เอาบอลลงในกรอบเขตโทษฝั่งขวา มีตัวบังไลน์อยู่ ก็เลยจัดการสับขาหลอกตามสูตร ก่อนที่จะแตะเข้าทางซ้ายแล้วยิงทันที บอลไปแฉลบขาตัวบล็อกพุ่งออกหลังไปได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน
โด้จิ๋วโขก!จ่ายแล้วเติมสวยมาก
อีก 2 นาทีต่อมา ประตูที่ 11 ในลีกของโรนัลโด้ก็มาจนได้ ในจังหวะที่เขาถ่ายบอลไปให้กับดิ มาเรียทางด้านขวา ก่อนที่จะรีบวิ่งเติมเข้าไปในกรอบเขตโทษ ดิ มาเรียโยนบอลเข้าไป โรนัลโด้เทคตัวขึ้นอย่างสูงก่อนที่จะโหม่งเช็ดส่งบอลลอยข้ามมือของแฟร์นานเดซเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด เรอัล มาดริดขึ้นนำไปก่อนแล้ว 1-0
เกือบต่อเนื่อง!ดิ มาเรียยิงหักมากเกิน
จังหวะต่อเนื่องจากลูกเขี่ยกลางสนาม มาดริดได้โอกาสบุกขึ้นไปอีกครั้ง เป็นดิ มาเรียที่ตัดจากทางขวาเข้ากลาง บอลเข้าเท้าซ้ายข้างถนัด แต่จังหวะยิงนั้นเหมือนจะเน้นเกิน ก็เลยหักข้อจนบอลพุ่งหลุดเสาออกไป
ราชันเสียท่า!โดนลักไก่ตีเจ๊า
นาทีที่ 31 เสียท่าจริงๆสำหรับเรอัล มาดริดในจังหวะที่ไปเสียฟรีคิกหน้าประตู แล้วชะล่าใจไม่ยอมดูตัวที่มีบอล มัวแต่ไปโวยผู้ตัดสิน ทำให้ผู้เล่นของโอซาซูน่าจ่ายเร็วไปให้กับบัลเด้ได้ยิงบอลทะแยงผ่านตัวของคาซิญาสเข้าประตูไป เกมเสมอ 1-1 งานนี้มูริญโญ่มีโวยแน่นอน
เร็วไปไหม!เปเป้โขกขึ้นนำอีก
อีก 3 นาทีต่อมา เรอัล มาดริดก็มาได้ประตูขึ้นนำไปอีกครั้งแบบรวดเร็วสุดๆเลย ในจังหวะที่ได้เตะมุม บอลเลยไปถึงดิ มาเรียทางฝั่งขวาโยนกลับเข้ามาใหม่ เป็นเปเป้ที่โขกบอลย้อนกลับไปเสาแรก สุดปัญหาที่ผู้รักษาประตูจะรับทัน เจ้าบ้านขึ้นนำ 2-1 ต้องอย่าพลาดเหมือนตอนแรกอีก
สวยมาก!ราชันเล่นเฉียบก่อนอิกวาอินจบงาม
นาทีที่ 40 พอดิบพอดี เล่นกันได้อย่างสวยงามจริงๆสำหรับเรอัล มาดริดในจังหวะที่โอซีลขึ้นบอลทางด้านซ้าย หลอกไปถึงส่วนลึกได้ ก่อนที่จะจ่ายบอลกลับไปนอกกรอบเขตโทษให้กับดิ มาเรียที่ยึกหลอกว่าจะไปทางขวา แต่จิ้มแทงบอลให้กับอิกวาอินเข้าไปในกรอบเขตโทษ โยกบอลหลอกหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบเสาสองแบบคะแนน 10 เต็ม 10 "ราชันชุดขาว" นำห่าง 3-1 และนี่ก็เป็นลูกที่ 11 ของอิกวาอินเช่นกันในลีก
จบ 45 นาทีแรกเป็นทางเรอัล มาดริดที่นำห่างโอซาซูน่าไปก่อน 3-1
ครึ่งหลัง
ไม่คุ้ม!ดิ มาเรียเจ็บเอง
นาทีที่ 48 หนักเลยสำหรับดิ มาเรียที่ไปพยายามวิ่งตามเก็บบอลซึ่งกำลังจะออกไปข้าง แล้วไปเสียดายบอลก็เลยพยายามเบรกแล้วฝืนตอกส้นกลับไปให้กับเพื่อน สุดท้ายเจ็บเองขึ้นมา แถมดูท่าทางอาการจะหนักมากเพราะเจ้าตัวถูกหามออกไปข้างสนาม แล้วเอามือกุมหน้าด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา
ทำให้สุดท้ายแล้วเรอัล มาดริดต้องเปลี่ยนเอาเบนเซม่าที่ได้วอร์มไปไม่กี่วินาทีลงไปเล่นแทน
เกมขาด!ราชันได้จุดโทษแถมมีใบแดง
เกมขาดเรียบร้อยเลยแม้ว่าจะยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เมื่อโอซีลไปโดนทางซาตรูสเตกีเข้าเสียบสกัดช้าล้มลงในกรอบเขตโทษ ผูตัดสินเดินมาแจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงทันที ก่อนที่โรนัลโด้จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่มีเหลือตามฟอร์ม เรอัล มาดริดทิ้ง 4-1
สุดตีน!โด้จิ๋วระเบิดแฮทริก
นาทีที่ 58 ระเบิดแฮทริกอีกครั้งหนึงแล้วสำหรับโรนัลโด้ เมื่อเขามาทำประตูที่สามในเกมนี้จากจังหวะเทคตัวขึ้นโหม่งเฉือนบอลเปิดจาดด้านข้างของอาร์เบลัวเข้าประตูไปอย่างเฉียบคม เรอัล มาดริดถล่ม 5-1 แถมเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง
ครึ่งโหลแล้วจ้า!เบนซ์ยิงเผาขน
นาทีที่ 63 กดไปครบครึงโหลจนได้ ในจังหวะที่โคเอ็นเทราโชว์สเต็ปแตะลอดขากองหลังเข้าไปเปิดจากทางซ้าย บอลแฉลบหัวกองหลัง แต่ไปตกลงที่เบนเซม่าจับด้วยขวาแปด้วยซ้ายผ่านผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย สกอร์ 6-1 ไม่ต้องพูดถึง
ราชันส่งซาฮิน,กัลเญฆอนลงสนาม
อีก 4 นาทีต่อมา เรอัล มาดริดเปลี่ยนเอาซาฮินลงไปเล่นเป็นนัดแรกในลีกแทนที่ของเคดิร่าและก็ถอดเอาโอซีลออกและส่งกัลเญฆอนลงไปเล่นแทน
เกมวันเวย์ไปเลยทีเดียว
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เกมมันกลายเป็นบอลข้างเดียวไปตั้งแต่โอซาซูน่าเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เป็นเรอัล มาดริดที่เล่นสนุกสนานอยู่ฝ่ายเดียว ดูแล้วมีลุ้นทำประตูเพิ่มได้ทุกเมื่อ
โอโห้!เบนซืชักเท้ายิงเต็มตีน
นาทีที่ 81 เทคนิคยอดเยี่ยมจริงๆสำหรับเบนเซม่า ในจังหวะที่อาร์เบลัวไปปั้มบอลแย่งมาจากผู้เล่นโอซาซูน่าได้ ก่อนที่จะแทงต่อไปให้กับเบนเซม่าได้เข้าไปบริเวณเขตโทษ แม้ว่าบอลจะติดเท้าเขา แต่ก็ใช้จังหวะที่มีนิดเดียว ชักเท้าดีดยิงแบบเต็มเท้า บอลพุ่งโคตรแรงเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามสุดๆ มาดริดถล่มเละเทะ 7-1
จบ 90 นาทีเป็นเรอัล มาดริดที่เปิดบ้านไล่ถล่มโอซาซูน่าไป 7-1 ทำให้พวกเขาครองจ่าฝูงเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าบาร์เซโลน่าจะเก็บสามคะแนนได้หรือไม่ก็ตาม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อีเคร์ คาซิญาส, แซร์คิโอ้ รามอส, เปเป้ , ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา, อัลวาโร่ อาร์เบลัว, ชาบี้ อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า(ซาฮิน น.67), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , อังเคล ดิ มาเรีย(เบนเซม่า น.49), กอนซาโล่ อิกวาอิน , เมซุต โอซีล(กัลเญฆอน น.67)
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ราอูล อัลบิโอล, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, อันโตนิโอ เอแดน, ราฟาเอล วาราเน่
โอซาซูน่า : อังเดรส แฟร์นานเดซ, มิเกล ฟลาโน่, โลโล่, เอเนโก้ ซาตรูสเตกี , ดาเมีย, นาวาด เนคูนัม, ฮาเวียร์ คาเญฆา(ทิมอร์ น.86), ฟราสซิสโก้ ปูนยาล (กอนซาเลซ น.74), อิบราฮิมา บัลเด้ , ฆวน ฟรานซิสโก้ มาร์ติเนซ(เปเรซ น.59), ราอูล การ์เซีย
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : แอสซิเออร์ รีเอสโก้, ริคาร์โ, เดแยน เลกิช, มานูเอล โอมวู
โด้จิ๋วแฮทริก!ราชันตัวมากกว่าไล่กระซวกโอซาฯยับ 7-1
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport โด้จิ๋วแฮทริก!ราชันตัวมากกว่าไล่กระซวกโอซาฯยับ 7-1
ลา ลีกา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!