"หน้าหงิก"ฟาบิโอ คาเปลโล่
เข้ารับตำแหน่งคุมทีมชาติอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังเตรียมเซ็นสัญญาสองปีครึ่งโดยมีออปชั่นเพิ่มอีกสองปีโดยรับค่าจ้างต่อปีสูงถึง 6.5 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
คาเปลโล่ซึ่งเดินทางมาคุยกับเอฟเอเมื่อวันพุธก่อนเดินทางกลับซึ่งผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะไบรอัน บาร์วิคและเซอร์เทรเวอร์ บรูคกิ้งโดยเหลือเพียงแค่หาข้อสรุปในส่วนของรายละเอียดอีกเล็กน้อยกับเอเยนต์เท่านั้นแต่ทุกอย่างได้ตกลงกันครบหมดแล้ว
คาดกันว่ากุนซือวัย 61 ปีจะเซ็นสัญญาสองปีครึ่งโดยมีออปชั่นต่อเพิ่มอีกสองปีหากสามารถพา"สิงโตคำราม"ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2012
ตามคาด!หน้าหงิกคุมสิงโต
สำหรับค่าจ้าง
ของ"หน้าหงิก"สูงลิ่วถึง 6.5 ล้านปอนด์ต่อปีหรือคิดเป็นสัปดาห์ละ 130,000 ปอนด์เท่ากับที่จอห์น เทอร์รี่รับอยู่กับเชลซีซึ่งตรงกันข้ามกับสเวน โกรัน เอริคส์สันที่ว่ากินเงินเดือนแพงแล้วแต่คนละเรื่องเพราะได้แค่ 4 ล้านปอนด์ต่อปีส่วนสตีฟ แม็คคลาเรนชายผู้กลัวฝนได้แค่ 2.5 ล้านปอนด์เท่านั้นเอง
อดีตกุนซือทีมยักษ์ใหญ่อย่างเอซี มิลาน,โรม่า,ยูเวนตุสและเรอัล มาดริดยอมรับว่านักเตะอังกฤษมีปัญหาในเรื่องสภาพจิตใจเกมต่อเกมที่กลายเป็นเนื้อร้ายทำให้ยังไม่ประสบความสำเร็จในรายการเมเจอร์
"มีความแตกต่างครั้งใหญ่ในเรื่องทัศนะคติที่พวกเขาแสดงออกมาจากหนึ่งเกมยังอีกเกม นักเตะระดับอย่างเบ็คแฮมหรือโอเว่นมีฟอร์มคนละเรื่องเมื่อเล่นให้ทีมชาติได้อย่างไร?"คาเปลโล่เผย
"มันชัดเจนว่าความกดดันยามสวมเสื้อทีมชาติหนักอึ้งเอามากๆแม้กระทั่งพวกแข้งเต้ยระดับโลกที่ว่า มันเป็นเรื่องของสภาพจิตใจ,ไม่อย่างน้อยแล้วคุณลองอธิบายมาหน่อยสิว่าทำไมอังกฤษถึงตกรอบคัดเลือกยูโร 2008?"
"เราในหมู่ผู้จัดการทีมถามตัวเองว่าอังกฤษซึ่งมีนักเตะเหล่านี้ไม่ได้ไปเล่นยูโร 2008 ได้อย่างไร อังกฤษเหมือนทีมอย่างสเปนมากคือแทบไม่ได้แชมป์อะไรเลยทั้งๆที่มีนักเตะเก่งๆเยอะ ผมได้ดูเกมที่อังกฤษเล่นหลายครั้งนะ ในเกมกับรัสเซียที่มอสโกว์พวกเขาเล่นรับ"
"พวกเขารับแน่นหน้าเขตโทษ 18 หลาของตัวเองตลอดทั้ง 90 นาทีแม้ว่าจะได้เปรียบนำอยู่ 1-0 เกมพบโครเอเชียที่เวมบลีย์พวกเขาก็บุกแหลก พวกเขาแพ้ 3-2 เมื่อแค่ต้องการเสมอในบ้านก็จะผ่านเข้ารอบ"
อย่งไรก็ตาม
ก่อนหน้านี้มีเรื่องหวั่นใจเล็กน้อยเพราะในการเจรจาทาง"หน้าหงิก"ต้องการให้ฟรันโก้ บัลดินี่ซึ่งร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยอยู่โรม่าและเรอัล มาดริดเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการซึ่งเจ้าตัวออกมาชี้แจงเองว่าคาเปลโล่จะเข้ารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติอังกฤษแน่นอนไม่ว่าเขาจะได้รับตำแหน่งในเอฟเอหรือไม่ก็ตาม
"มันจะไม่ใช่ปัญหาเลย คาเปลโล่จะเป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษแน่นอน"บัลดินี่เผย
"ผมเข้าใจต่อการเซย์เยสของเอฟเอให้ผมทำหน้าที่นี้ถ้าไม่ได้จริงๆผมก็คิดว่าคาเปลโล่ก็ยังจะเป็นโค้ชทีมชาติอังกฤษอยู่ดีแต่บางทีเขาอาจจะทำงานสะดวกน้อยลงก็เท่านั้นเอง"
อย่างไรก็ตามโอกาสเกิดขึ้นยากเพราะหากเป็นจริงสายงานจะไปทับกับบรูคกิ้งที่ปัจจุบันทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอยู่นั่นเอง
ประวัติโดยย่อของคาเปลโล่
1946 : เกิดที่ซาน คานเซียน ดิไอซอนโซ่,กอริเซียประเทศอิตาลี
1964 : ลงเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกให้ SPAL
1973 : ยิงประตูให้ทีมชาติอิตาลีเอาชนะอังกฤษที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรก
1991 : เข้ารับตำแหน่งกุนซือเอซี มิลาน
1992 : คว้าแชมป์สคูเดตโต้แรกในสี่สมัยกับ"ปิศาจแดงดำ"
1994 : พามิลานถล่มบาร์เซโลน่า 4-0 ในรอบชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ
1997 : คว้าแชมป์ลา ลีกากับเรอัล มาดริด
2001 : พา"หมาป่า"โรม่าได้แชมป์สคูเด็ตโต้เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
2004 : เถลิงสคูเด็ตโต้กับยูเวนตุสในฤดูกาลแรกอย่างยิ่งใหญ่
2007 : นำ"ราชันชุดขาว"คว้าแชมป์ลา ลีกาอีกคำรบก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังสิ้นสุดฤดูกาล