ไนกี้เปิดตัวรองเท้าซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท

ไนกี้ ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท (Nike CTR360 Maestri II Elite) ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อผู้เล่นที่ต้องการควบคุมลูกบอลในสนามได้ดั่งใจ

เพราะการคุมรูปเกมด้วยการส่งบอลที่แม่นยำ การเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามต้องการและการสร้างโอกาสในสนามล้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นกองกลางชั้นดี

ทั้ง เชส ฟาเบรกาส (สโมสรอาร์เซนอล) และ อันเดรส อิเนียสตา (สโมสรบาร์เซโลนา) เป็นตัวแทนของผู้เล่นที่มีทักษะการควบคุมบอลขั้นเทพ และทั้งคู่สวมรองเท้าฟุตบอลรุ่น ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท ลงสนาม สิ่งที่ทำให้ทั้งสองเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นคือความสามารถในการบงการเกมและสร้างโอกาสนับครั้งไม่ถ้วนเให้เพื่อนร่วมทีมได้ทำประตู สถิติคือเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด และต่อไปนี้คือสถิติจากออพต้า (Opta) บริษัทในอังกฤษที่เป็นเจ้าของฐานข้อมูลกีฬาในเชิงสถิติที่ครบครันที่สุดในโลก ซึ่งแสดงให้เห็นความสามารถเฉพาะตัวของฟาเบรกาสและอิเนียสตาในการเป็นจอมทัพผู้สามารถควบคุมบอลได้อย่างเหนือชั้น

เชส ฟาเบรกาส – ยอดปรมาจารย์

ฟาเบรกาสผสานเทคนิคที่ไหลลื่นเข้ากับความสามารถในการทำให้จังหวะของเกมอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเพียงคนเดียว ในฤดูกาล 2009/10 เขาเป็นผู้เปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้สำเร็จมากครั้งกว่าใครๆ ในพรีเมียร์ลีก (16 ครั้ง) นอกจากนี้ฟาเบรกาสยังสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีมได้เฉลี่ยหนึ่งครั้งในทุกๆ 24.8 นาที ซึ่งเป็นสถิติที่สูงมากในกลุ่มผู้เล่นในระดับเดียวกัน และที่น่าสนใจที่สุดคือ ในลีกฟุตบอลห้าอันดับแรกของยุโรป ฟาเบรกาสยังเป็นผู้ครองสถิติสูงสุดในการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูในช่วงฤดูกาล 2009/10 อีกด้วย โดยสามารถสร้างโอกาสได้หนึ่งครั้งในทุกๆ 29 นาที

อันเดรส อิเนียสตา – พ่อมดลูกหนัง

เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาที่ประเทศแอฟริกาใต้ อิเนียสตาได้แสดงให้เห็นความสามารถของเขาที่จะพลิกรูปเกมได้ และคงไม่น่าประหลาดใจหากสถิติความแม่นยำในการส่งบอลและการเปิดบอลให้เพื่อนทำประตูได้สำเร็จจะทำให้เขาติดอันดับเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยสูงสุดของยุโรปฤดูกาลนี้ อิเนียสตามีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างไร้ข้อผิดพลาดถึง 90% อิเนียสตายังเป็นผู้ร่วมครองสถิติในการเป็นผู้เปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้สำเร็จมากครั้งที่สุดถึง 16 ประตูในการลงแข่งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปในนามทีมชาติ และในการแข่งขันฟุตบอลลีกกับสโมสรของเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผู้เล่นจอมวางแผนที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ผู้นี้ยังทำสถิติน่าเหลือเชื่อโดยการส่งบอลในพื้นที่แดนกลางของสนามด้วยความแม่นยำถึง 93.7%


จากการให้ความสำคัญในการจัดวางตำแหน่งส่วนต่างๆ ของรองเท้าเป็นพิเศษ ไนกี้ ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท จึงมี 6 องค์ประกอบหลักเพื่อผู้เล่นที่กำลังมองหารองเท้าชั้นดี ได้แก่

** หน้าผ้าทำจาก แกงก้า-ไลท์ (KANGA-LITE): วัสดุหนังสังเคราะห์ชนิดนี้ให้ความกระชับสบายเท้าอย่างเต็มเปี่ยมในทุกสภาพอากาศ

** แถบดูดซับแรง: พื้นที่ดูดซับแรงที่ด้านข้างของส่วนปลายเท้าให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมเมื่อสัมผัสบอลครั้งแรก

**แถบรับบอล: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมบอลด้วยข้างเท้าด้านในและช่วยให้เกี่ยวบอลได้ง่ายขึ้น

** แถบส่งบอล: ช่วยให้การจ่ายและการวางตำแหน่งบอลในการส่งลูกแต่ละครั้งเป็นไปอย่างแม่นยำ

** ระบบการร้อยเชือก: การออกแบบให้แนวเชือกร้อยรองเท้าเป็นแบบอสมมาตรช่วยเพิ่มผิวสัมผัสเพื่อการควบคุมลูกบอล

** โครงรองเท้าทำจากคาร์บอน: แผ่นพื้นรองเท้าให้การส่งแรงและแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ด้วยปุ่มสตั๊ดรูปทรงใบมีดเพื่อการยึดเกาะและความมั่นคงสูงสุด

รหัสพิเศษที่มาพร้อมรองเท้า ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท แต่ละคู่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เข้าถึงเนื้อหาเพื่อการฝึกฝนจาก ไนกี้ฟุตบอลพลัส ทั้งเรื่องราวเบื้องลึกจากเหล่ามืออาชีพ การฝึกฝนกับนักฟุตบอลชั้นแนวหน้า กิจกรรมทดสอบฝีเท้า การปรากฏตัวของผู้เล่น และอื่นๆ อีกมากมาย

ไนกี้ ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทู อีลิท เริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป ในราคา 11,500 บาท ในประเทศไทย มีวางจำหน่ายที่ร้านไนกี้ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ เท่านั้น โดยสาวกรองเท้ารุ่นนี้ยังจะได้พบกับรองเท้าฟุตบอลรุ่น ไนกี้ ซีทีอาร์ 360 เมสทรี่ ทรี ราคาคู่ละ 6,500 บาท ได้ที่ ร้านไนกี้ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ สาขาคริสตัล พาร์ค ไนกี้ คอร์เนอร์ สยามพารากอน ซูเปอร์สปอร์ต ร้านนกแก้ว เอฟบีที สปอร์ต คอมเพล็กซ์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ nikefootball.in.th หรือ facebook.com/nikefootballth.