โด้เหมาสอง!ชุดขาว 10 คนคว้าชัยหืดจับ

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport โด้เหมาสอง!ชุดขาว 10 คนคว้าชัยหืดจับ

ลา ลีกา

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม 2554

เกตาเฟ่ 2 : 3 เรอัล มาดริด

ประตู : 0-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (จุดโทษ น.11), 0-2 เมซุต โอซิล น.19, 1-2 ดานี่ ปาเรโฆ่ น.29, 1-3 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.57, 2-3 ฆวน อัลบิน น.85

ครึ่งแรก

เริ่มเกมโรนัลโด้ลุยเลย

เปิดฉากมาไม่ถึง 5 นาทีโรนัลโด้ได้โอกาสไปสามหนจังหวะแรกมาจากการติดเครื่องกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายเกือบจะหลบผ่านสองกองหลังเกตาเฟ่ไปล่อเป้าคอดิน่าได้แต่ไปถูกสกัดเสียก่อนแล้วมาได้โอกาสยิงฟรีคิกหน้ากรอบระยะสัก 35 หลาข้ามคานไปอีกต่อมาก็ได้ขึ้นกระโดดตีลังกาฟาดบอลในเขตโทษจากการครอสทางฝั่งซ้ายของ ดิ มาเรียเพียงแต่โดนไม่บอลไม่เต็มใบเลยปลิ้นออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

โด้ซัดลูกโทษอย่างเฉียบ

นาที 11 "ราชันชุดขาว"มาได้จุดโทษเมื่อดิ มาเรียพาบอลลัดเลาะไปถึงเส้นหลังแล้วไปโดนมาเน่ดึงเสื้อจนหงายเงิบแม้จะดูเหมือนใส่แอคติ้งแต่จากภาพช้าต้องยอมรับว่าดึงจริงๆแล้วก็เป็นมือสังหารเบอร์ 1 อย่างโรนัลโด้ที่ยิงอย่างหนักหน่วงไปทางซ้ายมือเสียบมุมเข้าประตูไปเลยแม้คอดิน่าจะพุ่งถูกทางก็ไม่ทันจริงๆ เรอัล มาดริด 1-0 เกตาเฟ่

โอซิลจัดอีกดอก"ชุดขาว"นำ 2 เม็ด

เกมหลังจากได้ประตูแรกทีมเยือนยังได้ครองเกมอย่างต่อเนื่องจนมาถึงนาที 19 ดิ มาเรียได้กระชากบอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนแทงบอลยาวทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้โอซิลวิ่งโฉบเข้าไปแตะหลบคอดิน่าแล้วยิงเข้าประตูไปอย่างง่ายดายให้"ราชันชุดขาว"นำ
2-0 ดอก

เด็กเก่าทำพิษ!ราชันถูกตีไข่

พยายามหาช่องเจาะอาคันตุกะเสียนานสำหรับเจ้าบ้านสุดท้ายบทจะได้ก็ได้มาแบบที่เรียกภาษาชาวบ้านว่า"ดื้อๆ"เมื่อปาเรโฆ่อดีตเด็กปั้นของ"ราชันชุดขาว"เองได้กระชากแหวกผ่านอาร์เบลัวกับลาสที่หน้าเขตโทษก่อนจะยิงยัดเข้าไปตุงตาข่ายแบบคาซิญาสไม่ทันได้ทำอะไรเลย 2-1

เกมไหลเข้าทางเกตาเฟ่

เกมในช่วง 10 นาทีหลังจากนั้นกลายเป็นว่ารูปเกมไปเข้าทางฝั่งเจ้าบ้านที่ทำเกมต่อบอลกันฉึบฉับแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีทีมใหญ่โดยเปอร์เซนต์การครองบอลแซง"โลส บลังโกส"ไปอยู่ที่ 54%-46% เพียงแต่พอถึงพื้นที่เข้าทำยังไม่เด็ดขาดพอหรือจะเรียกอีกอย่างว่าแนวรับโดยเฉพาะเซนเตอร์แบ็คอย่างอัลบิโอลยังยันต่อสู้ได้ดีนั้นเอง

ราชันฮึดจะเอาอีกแต่ไม่มีอะไร

ช่วงท้ายเกมเรอัล มาดริดพยายามเดินเกมรุกหวังยิงประตูทิ้งห่างก่อนหมดครึ่งแรกโดยอาศัยการจ่ายบอลของโอซิลเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมนีให้กับพวกโรนัลโด้และดิ มาเรียได้ใช้ความสามารถเฉพาะตัวสร้างสรรค์เกมเพียงแต่ว่าเบนเซม่าที่วันนี้เป็นหน้าเป้ายังไม่สามารถเก็บบอลในแดนหน้าได้เลยยังไม่มีโอกาสจะแจ้งขึ้นมาอีกสุดท้ายกรรมการก็เป่านกหวีดจบครึ่งแรกให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปแก้เกมกันก่อน

ครึ่งหลัง

กาบิลันยิงไกลได้ลุ้น

โอกาสแรกของครึ่งลังเป็นของฝั่งเจ้าบ้านเมื่อกาบิลันได้จั้งหวะง้างไกลอัดบอลที่ลอยอยู่หน้าเขตโทษบอลพุ่งไปจะเสียบโคนเสาแต่คาซิญาสก็พุ่งมาจัดการกับบอลได้ทันแม้จะทำหลุดมือก็เถอะ

เบนซ์ยังไม่เฉียบ

นาที 54 ดิ มาเรียก็จ่ายบอลฉีกเข้าไปทางขวาของกรอบเขตโทษแต่เบนเซม่าที่สปีดไปเอาบอลดันยิงไม่ดีหลุดกรอบประตูไปอย่างน่าเสียดาย

โรนัลโด้ซัดลูกสอง

นาที 57 เบนเซม่าได้จังหวะแทงบอลเร็วเข้าไปในเขตโทษแล้วเป็นโรนัลโด้ที่โฉบเข้ารับบอลระหว่างสองกองหลังเกตาเฟ่ก่อนจะล้มตัวยิงหนีมือคอดิน่าให้เรอัล มาดริดออกนำเป็น 3-1 และเป็นประตูที่ 19 ในลาลีกาของดาวเตะโปรตุเกสรายนี้

เบนเซม่ายิงชนเสา

นาที 68 เบนเซม่ายังไม่คมอย่างต่อเนื่องเมื่อโรนัลโด้ไหลบอลมาให้งามๆทางด้านขวาของเขตโทษแต่อดีตกองหน้าลียงที่ไม่ลงเป็นยิงในสเปนดันสปีดไปตวัดยิงชนเสาออกหลังไปอีก

เกมเปิดแลก

เกมช่วงกลางของครึ่งหลังเริ่มจะมันส์เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเปิดหน้าแรกกันฝ่ายเจ้าบ้านก็มีปาเรโฆ่เป็นแกนหลักในการเดินเกมโดยมีมานูคอยปักหลักช่วยเหลือในแดนหน้าขณะที่ทีมเยือนก็ได้โรนัลโด้และดิ มาเรียที่นัดนี้กระชากลากเลื้อยได้อย่างมันส์โดยตลอดเป็นตัวขับเคลื่อนอย่างไรก็ตามแนวรับของทั้งสองฝ่ายยังทำหน้าที่กันได้ดี

ดิ มาเรียปั่นไซต์เกือบเข้า

โอซิลมาได้จังหวะกระชากบอลหนีกองหลังเจ้าบ้านไปทางขวามือของกรอบเขตโทษก่อนจะดึงบอลกลับแล้วเอี้ยวตัวยิงด้วยเท้าซ้ายแต่บอลไซต์ไม่พอเลยได้แค่เฉียวเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น

ราชันเหลือ 10 คน

แล้วเรอัล มาดริดก็มาเสียววูบในตอนท้ายเมื่อมาเหลือ 10 คนจากจังหวะที่อัลเบร์ลัวไปใช้มือบล็อกลูกเปิดของผู้เล่นเจ้าบ้าน

เกตาเฟ่ยิงตามเหลือลูกเดียว

นาที 85 ราชันเริ่มกดดันเมื่อเกตาเฟ่มาได้ประตูตีตื้นขึ้นมาตามเพียงลูกเดียวลังอัลบินตัวสำรองได้จังวะเก็บตกในเขตโทษก่อนจะอัดเต็มข้อด้วยเท้าขวาเสียบเสาเข้าประตูไปอย่างดุดัน 3-2

จบเกมราชันคว้าชัย

ช่วงท้ายเกตาเฟ่พยายามทวงประตูคืนแต่ไม่มีเวลามากพอแถมมาดริดก็เล่นอย่างรัดกุมเกมจึงจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เกตาเฟ่ : ยอร์ดี้ คอดิน่า 5, มิเกล ตอร์เรส 5.5, มาเน่ 6, ราฟา โลเปซ 5.5, ดาเนียล ดิอาซ