สไนจ์เดอร์กับมาตรฐานบัลลง ดอร์

ประกาศผลออกมาเรียบร้อยแล้วสำหรับฟีฟ่า-บัลลง ดอร์ประจำปี 2010 น่าแปลกใจที่สุดคงหนีไม่พ้น เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ไม่ติดแม้กระทั่ง 1 ใน 3 เป็นไปได้อย่างไร 

ชาบี้ เอร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนสต้า ได้รับความคาดหมายอยู่แล้วน่าจะได้รับการเสนอชื่อผ่านเข้ารอบสุดท้าย 

ผลงานของทั้งคู่ช่วย สเปน คว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บนดินแดนกาฬทวีปเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาแฟนบอลทั่วโลก 

ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ต้องสงสัยอยู่แล้วถึงความเป็นอัจฉริยะลูกหนังโลก 

พรสวรรค์,ความสามารถเฉพาะตัว,ลีลาพริ้วไหว,หลบหลีกคู่แข่งในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่งหรือหลายคน,ประสานงานกับเพื่อนๆไม่เห็นแก่ตัว,การพังประตูที่คมกริบคือคุณสมบัติที่หาตัวจับยากคนนึงที่หาไม่ได้ง่ายๆในยุคนี้ 

อย่างไรก็ตาม เมสซี่ ฉายแววโดดเด่นเฉพาะตอนที่อยู่กับ บาร์เซโลนา เท่านั้นอันมีเพื่อนๆอย่าง ชาบี้ และ อิเนสต้า คอยให้การสนับสนุนหรือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ 

แต่พอแยกตัวมารับใช้ชาติ อาร์เจนติน่า ดูเหมือน เมสซี่ จะไม่ใช่คนเดิม ความสามารถทั้งหมดที่เคยมีถูกกลืนหายไปเพราะไม่มีขุนพลผู้รู้ใจอย่าง ชาบี้ กับ อิเนสต้า 

นั่นจึงกลายเป็นสาเหตุทำให้ ฟ้าขาว ประสบความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในศึกฟุตบอลโลก 2010 แถมเขายังยิงไม่ได้เลยสักลูก 

ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่า เมสซี่ ไม่น่าจะได้รับการเสนอชื่อ เขายังสมควรลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลก 

แต่ทว่าด้วยโควต้าที่มีขีดจำเกิดมากเกินไปแค่ 3 คนเท่านั้น 

จึงไม่เหลือที่ว่างให้ สไนจ์เดอร์ เลย ทั้งๆที่จะว่าไปแล้วผลงานของจอมทัพกังหันลมนี้ไม่ด้อยไปกว่าสามคนนี้เลย 

สไนจ์เดอร์ ช่วย อินเตอร์ มิลาน กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของลูกหนังอิตาลีที่ได้เทรเปิ้ลแชมป์ระดับเมเจอร์ภายในซีซั่นเดียวกันก็คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ,สคูเด็ตโต้ และ โคปป้า อิตาเลีย 

แม้ยามเล่นระดับสโมสรจะมีเพื่อนๆอย่าง ซามูเอล เอโต้,ดีเอโก้ มิลิโต้ และ ไมค่อน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนทีมประสบความสำเร็จ 

แต่เมื่อแยกตัวมาเล่นทีมชาติ สไนจ์เดอร์ ยังฉายแววโดดเด่นช่วย ฮอลแลนด์ ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกเวิลด์ คัพ 2010 แถมยิงได้ 5 ประตูเป็นรองดาวซัลโวด้วย 

น่าเสียดายที่ดันมาพลาดท่าเสียทีจากลูกยิงทีเด็ดของ อิเนสต้า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 

ไม่อย่างนั้นหาก ฮอลแลนด์ คว้าแชมป์โลกได้ สไนจ์เดอร์ แทบจะแบเบอร์สอยรางวัลฟีฟ่า-บัลลง ดอร์ 

แต่พอทีมชาติพลาดหวังกลายเป็นว่าจอมทัพกังหันลมสีส้มชื่อหลุดโผหน้าตาเฉย 

เหตุผลปลอบใจที่่หลายคนพยายามหาคำอธิบายอาจเป็นเพราะครึ่งปีหลังสุด ผลงานของ อินเตอร์ ตกต่ำอย่างน่าใจหายมาก 

เนรัซซูรี่ ในยุคของราฟาเอล เบนิเตซ หล่นไปอยู่อันดับ 6 ของตารางมีแต้มตามหลัง เอซี มิลาน ถึง 10 คะแนน 

โอกาสป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาก่อนส่งผลกระเทือนต่ออดีตดาวดังเรอัล มาดริดโดนมองข้ามเหมือนตอนค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิว 

อย่างไรก็ตามอย่างน้อยๆ สไนจ์เดอร์ สมควรได้รับการเสนอชื่อผ่านเข้ารอบสุดท้ายลุ้นบัลลง ดอร์ 

อย่าลืมสิว่าเขายังมีภาระกิจในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ หากพา อินเตอร์ มิลาน กระชากแชมป์สโมสรโลกมาครองได้ล่ะก็ 

คนทั้งโลกยิ่งตั้งข้อสงสัยมาตรฐานการตัดสินให้รางวัล ฟีฟ่า-บัลลง ดอร์ เชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป 


ลูกกลมกลม