บทสรุปของลิเวอร์พูล ....

สำหรับเพื่อนๆหงส์คงอุ่นใจได้เพราะดูบทวิเคราะห์แล้ว ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษคงพ้นเวรพ้นกรรมกันเสียทีเย็นนี้

สรุปจากเนื้อหา เรียบเรียงตั้งแต่เริ่มจะได้ประมาณนี้

พิจารณาคดีครั้งนี้ ก็เพื่อตัดสินว่ามาร์ติน บราฟตันประธานสโมสรมีสิทธิ์ขายลิเวอร์พูลให้นิว อิงแลนด์ สปอร์ตส เวนเจอร์ส(NESV) หรือไม่ เพราะตอนนี้ลิเวอร์พูลติดหนี้อยู่ 237 ล้านปอนด์กับ แบ็งค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) และแน่นอนแล้วว่าฮิคส์และยิลเล็ตต์ไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันศุกร์ตามสัญญาซึ่งจอห์น วิลเลี่ยม เฮนรี่เจ้าของบอสตัน เร้ดซ็อกซ์ได้รับไฟเขียวจากข้อเสนอ 300 ล้านปอนด์ด้วยคะแนนโหวต 3-2 จากบอร์ดหงส์แดง

ราฟตัน ประธานสโมสร,คริสเตียน เพอร์สโว์ผู้อำนวยการและเอียน ไอยร์ผู้อำนวยการพาณิชย์โหวตเห็นชอบขายสโมสรโดยมีฮิคส์และยิลเล็ตต์ลงคะแนนคัดค้าน

งานนี้ทอม ฮิคส์และจอร์จ ยิลเล็ตต์สองเจ้าของปัจจุบันมองว่าบอร์ดไม่มีสิทธิ์

สาเหตุที่ยิลเล็ตต์และฮิคส์ไม่อยากขาย ไม่มีอะไรมากกว่าอยากได้เงินจากข้อเสนอที่มากกว่า 300 ล้านปอนด์ และผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ

ในการยื่นฟ้องทั้งคู่ยังแสดงความประสงค์จะปลดเพอร์สโลว์และไอยร์ออกจากตำแหน่งบอร์ดด้วยแต่ RBS มีคำสั่งห้าม (ฮิคส์และยิลเล็ตต์เซ็นสัญญากับแบ๊งค์ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนบอร์ดได้ในวันที่ขยายเวลาใช้หนี้เมื่อเดือนมีนาคม - อันนี้เป็นจุดตายของนายทุนทั้งสอง)

ตอนนี้มองในแง่ร้ายก่อนว่าถ้าคู่ดูโอ้มะกันมันชนะคดีขึ้นมา ฟ้าจะถล่มไหม ...

สโมสรยังมีทางเลือกในการยื่นอุธรณ์อยู่แต่การขายสโมสรให้ NESV จะถือเป็นโมฆะทันทีและจากนั้นจะเป็นโอกาสของเฮียลิ้ม (ที่ไม่ใช่ทองกุล)

ข้อเสนอมูลค่า 320 ล้านปอนด์ พร้อมกับข้อตกลงที่จะให้เงินช็อปนักเตะอีก 40 ล้านปอนด์ถูกนำเสนอล่วงหน้าไว้แล้ว อาเฮียแกยังพล่ามหวานๆอีกว่า

“ข้อเสนอของผมจะช่วยเคลียร์หนี้ได้หมดทุกสตางค์ ถ้าหากบอร์ดบริหารของพวกเขารับข้อเสนอชิ้นนี้ ก็จะช่วยทำให้สโมสรไม่ต้องถูกเข้าควบคุมกิจการ และผมได้ให้งบจำนวน 40 ล้านปอนด์เพื่อให้รอย ฮอดจ์สันได้ซื้อนักเตะช่วงที่ตลาดนักเตะเปิด ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องเริ่มชนะอีกครั้ง”

แต่กรณีนี้จะไม่เกิด ถ้าคู่มะกันมันจะเอา 500 ล้านปอนน์

แต่ก็ไม่เข้าใจโลกเพราะดูยังไงผมก็คิดว่าฮิคส์และยิลเล็ตต์ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ให้ RBS ทันภายในวันศุกร์แน่ๆ และหากวันนั้นมาถึงแล้วหนี้ยังไม่มีการชำระทำให้หงส์แดง ตกอยู่ในมือของ RBS ทันที

แล้วจะมีผลต่อ 9 แต้มด้วย แต่ก็ไม่แน่ ....... 

การที่ RBS จะยึดสโมสรกลายเป็นควบคุมกิจการนั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูลเป็นบริษัทๆหนึ่งซึ่งถูกฝ่ายบัญชีและทนายเข้ามาบริหารสโมสรเพื่อหาทางชำระหนี้เพราะเจ้าของหนี้มองว่าผู้บริหารปัจจุบันไร้ศักยภาพในการบริหาร

การล้างหนี้ 237 ล้านปอนด์ อาจจะเลวร้ายที่สุดคือการแยกส่วนขาย นั่นจะหมายถึงการเลหลังนักเตะไม่ว่าหน้าไหน (ตอเรสด้วย) รถยนต์ เครื่องบิน ประจำสโมสร (ถ้ามีนะ) สนามซ้อม และอาจจะรวมถึงปลดสต๊าฟโค้ชด้วย

แต่ถ้าจะให้ดีแล้ว ควรใช้วิธีเหมาขายคือเจ้าหนี้จะขายสโมสรให้คนที่เสนอเงินมามากที่สุดโดยเคสนี้มีแววเป็น เฮียลิ้ม กับ NESV ทุ่มเงินแข่งกันอีกรอบ โดยวิธีนี้หนี้ก็เคลียร์หมดและสโมสรก็ไม่เสียหายมากนัก

การตัดแต้มจะเกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทถูกควบคุมกิจการ พรีเมียร์ลีกก็แสดงความชัดเจนแล้วว่าหนี้จากบริษัทแม่เกี่ยวข้องกับสโมสรฟุตบอลโดยตรงซึ่งเข้าข่ายกฏที่ระบุเอาไว้พอดี แต่ RBS เองก็คงพยายามอุทรณ์ เพราะในทางเทคนิคสโมสรฟุตบอลไม่ได้ติดหนี้ หากแต่เป็นค็อป โฮลดิ้งบริษัทแม่ของดูโอ้มะกันจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำการเทคโอเวอร์เมื่อปี 2007 ต่างหาก

การตัดแต้มทำให้มูลค่าของทีมลดน้อยลงอย่างแน่นอน

สรุป ควรมองอย่างแง่ดีว่า สุดท้าย RBS และบราฟตันชนะคดี และการขายสโมสรให้ NESV จะเดินหน้าต่อไป แต้มไม่โดนตัดแน่ๆ ฟ้าในแอนฟิลล์ก็จะใสเสียที

แฟนผีเอาใจช่วยนะครับ เย็นนี้ลุ้นด้วยกัน บ่ายสี่โมง .....