6 ปีผ่านไป ในปี 1981 ยูเวนตุส ตัดสินใจซื้อรอสซี่คืนมาในราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวคือ 5 แสนปอนด์...และยังเป็นการซื้อในช่วงที่เจ้าตัวยังอยู่ในช่วงห้ามลงสนาม
แต่รอสซี่ก็ซ้อม ซ้อม และซ้อม...ด้วยความหวังเล็กๆว่าจะติดทีมชาติไปฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน
ไม่มีใครในอิตาลีเชื่อว่าจะมีชื่อเปาโล รอสซี่ ติดทีมชาติไปด้วย ยกเว้น เอ็นโซ เบียร์ซ็อต กุนซือทีมชาติที่ติดตามฝีเท้ารอสซี่มาตลอด และตัดสินใจใส่ชื่อ เปาโล รอสซี่ เป็นหนึ่งใน 24 ขุนพลลุยฟุตบอลโลก 1982
และเมื่อจบฟุตบอลโลกปี 1982 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเอ็นโซ่ เบียร์ซ็อต คิดถูก!!!
อิตาลี ไปสเปนโดยไม่ได้ถูกคาดหวังสูงจากกองเชียร์ และโชว์ฟอร์มรอบแรกแบบห่วยแตก เพราะทั้งๆที่อยู่ร่วมสายกับทีมที่ไม่ได้จัดว่าน่ากลัว คือโปแลนด์ แคเมรูน และเปรู แต่อิตาลีก็หวิดตกรอบแรก
3 นัดในรอบแรก 3 นัด อิตาลียิงได้เพียง 2 ประตูโดยไม่รู้จักคำว่าชนะ แต่ก็ผ่านเข้ารอบด้วยประตูได้เสียเหนือกว่า แคเมอรูน ที่ตกรอบโดยไม่มีคำว่าแพ้ เพราะทั้ง 2 ทีมต่างเสมอรวด แต่อิตาลีโชคดีที่มีประตูได้เสียดีกว่า คือยิง 2 ประตู จึงเข้ารอบแบบหมอผีต้องน้ำตาตก
เมื่อผ่านเข้ารอบ 2 เนื่องจากฟุตบอลโลกปี 82 เป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มจำนวนทีมรอบสุดท้ายจาก 16 เป็น 24 ทีม จึงมีการแบ่งสายรอบ 2 เป็น 4 กลุ่มเพื่อเอาที่ 1 แต่ละกลุ่มเข้ารอบรองชนะเลิศ
ไม่น่าแปลกใจที่อิตาลี จะถูกมองว่าสิ้นสุดเส้นทางในฟุตบอลโลก 82 แค่นี้ เพราะทีมร่วมสายของอิตาลี คือแชมป์เก่า อาร์เจนตินา ที่มี2 นักเตะแชมป์โลก 4 ปีก่อน คือมาริโอ เคมเปส และ ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า เป็นตัวชูโรง และมีนักเตะหน้าใหม่คือดีเอโก้ มาราโดน่า
อีกทีมคือเต็งหนึ่ง บราซิล ที่มีนักเตะก้องโลกล้นทีม นำทีมโดยเปเล่ขาว ซิโก้ ฟัลเกา ฯลฯ....
ใครๆก็มองว่านักเตะอัซซุรี่ ต้องกลับไปกินมะกะโรนีที่บ้านหลังจบรอบนี้
แต่แค่นัดแรกของรอบ 2 อิตาลี ก็ทำให้ทุกคนหันกลับมามอง เมื่อพลิกล็อคชนะอาร์เจนตินา 2-1
อิตาลียิงได้ 4 ประตูใน 4 เกม โดยศูนย์หน้า ยังไม่มีสกอร์ ทำให้เบียร์ซ็อตถูกสื่ออิตาลีตำหนิถึงการเลือกเปาโล รอสซี่ ที่ไม่ได้ลงสนามมา 2 ปีร่วมทีมไปด้วย
เบียร์ซ็อตก็รู้ดี พร้อมประกาศให้โอกาสรอสซี่ เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อพิสูจน์ตัวเอง
น่าสงสารรอสซี่ เพราะทีมที่เขาต้องลงสนามเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คือแซมบ้า บราซิล เต็งหนึ่งฟุตบอลโลก 1982