ทักษิณเห็นทางเรือใบแชมป์ในรอบ 31 ปี

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ประธานสโมสรคนใหม่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กล่าวภายหลังนั่งชมเกมอุ่นเครื่องในนัดที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดสนามพ่ายแพ้ต่อ "เจ้าค้างคาว" บาเลนเซีย จากสเปน ไป 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4ส.ค.) ว่า ตนขอขอบคุณแฟนบอลที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในวันนี้ ซึ่งตนพร้อมจะตอบแทนด้วยการทุ่มเทสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสโมสร

"สิ่งที่ผมเริ่มมองเห็นนับแต่เดือนแรกที่เข้ามาทำงานคือแสงสว่างแห่งความหวัง สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ชนะเลิศรายการใดมานาน 31 ปี แต่เรามีความหวังแล้วในเวลานี้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

สำหรับก่อนเกมการแข่งขันในแมตช์ดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ เจ้าของฉายา "แฟรงก์ ซินาตรา" ได้พาสื่อมวลชนจากประเทศไทยเข้าชมสโมสร สนามแข่ง และดูการซ้อมของนักเตะซึ่งก็มีเหล่าบรรดากองเชียร์ของทีมเรือใบสีฟ้ามาขอลายเซ็นและขอถ่ายรูปด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ต้องเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในการเตะนัดพิเศษระหว่างแมนฯ ซิตี กับ  บาเลนเซีย ก็เพื่อแสดงความขอบคุณแฟน ๆ ของสโมสรที่ให้การต้อนรับดีเกินคาด ไม่มีการต่อต้านเหมือนทีมอื่น ๆ เพราะเขารู้ว่าเราเข้ามาพัฒนาทีม จึงนำดารานักร้องจากเมืองไทย เช่น ใหม่ เจริญปุระ, "แอม" เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, "ฮาร์ท" สุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล, "ลีเดีย" ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา มาแสดงให้รู้ว่าเจ้าของสโมสรเป็นคนไทย

 และตอนนี้เราก็เป็นเจ้าของเต็มตัวแล้ว แต่ก็ต้องรับหนี้เก่าของสโมสรประมาณ 40 ล้านปอนด์มาบริหาร ส่วนทีมอื่น ๆ ที่เป็นข่าวยอมรับว่าเคยเจรจาแต่ไม่สำเร็จ สำหรับที่มาของเงินซื้อทีมแมนฯ ซิตี ยืนยันว่าเป็นงบที่ถูกต้อง ตนเองได้ขออนุญาตนำออกมาทำธุรกิจก่อนหน้าที่จะถูกอายัดทรัพย์ และก็ไม่มีเงินช่วยจากเพื่อนนักธุรกิจที่จีน แต่อย่างใด แต่กว่าจะซื้อทีมเรือใบสีฟ้าได้ก็ต้องใช้เวลานานมาก เพราะต้องชี้แจงข่าวต่าง ๆ ที่เป็นภาพลบมากมาย ท้ายสุดเอฟเอก็เข้าใจ สำหรับแผนการทำทีมก็จะปรึกษากับ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีม คาดว่าจะหาตัวผู้เล่นมาเสริมประมาณ 9 คน และวางเป้าหมายอยู่ใน 10 อันดับแรกของตาราง แต่ถ้านักเตะใหม่ลงตัวเล่นกันได้ดี ก็มีโอกาสลุ้นไปเล่นชิงแชมป์สโมสรยุโรป หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน ส่วนแผนการตลาด บอกได้เลยว่าจะไม่เหมือนใคร ตนจะปรับวิธีสร้างแฟนบอลทั่วโลก ขั้นต้นเน้นไปที่ประเทศจีนและประเทศในเอเชีย สำหรับในประเทศไทยตอนนี้กำลังหาสถานที่สร้างศูนย์อคาเดมี่ แมนฯ ซิตี ใช้เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ คิดว่าน่าจะอยู่กรุงเทพฯ หรือเขตใกล้เคียง เพื่อรองรับเด็ก ๆ ของไทยและประเทศในแถบอาเซียน
 
"เสี่ยแม้ว" กล่าวเสริมอีกว่า วงการลูกหนังเมืองไทยต้องพัฒนาให้ทันประเทศชั้นนำ หากต้องการความสำเร็จ สมัยนี้ใช้พรสวรรค์อย่างเดียวไม่พอ ต้องพึ่งวิทยาศาสตร์การกีฬา จากหลาย ๆ ด้านด้วย เรื่องนี้ตนเองจะคุยกับ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ส่งโค้ชและนักเตะไทยมาฝึกงานที่สโมสร โดยตนเองจะสั่งให้ สเวน ช่วยเทรนให้อีกแรง เพื่อพัฒนาวงการลูกหนังไทย