ว่าด้วยเรื่อง: อันเชล็อตติ ต้องสร้างทีมใหม่หากต้องการจะ.... ??????

อันเชล็อตติ ต้องสร้างทีมใหม่หากต้องการจะ.... ??????


..........ตอนนี้ฟุตบอลสโมสรลงเตะอุ่นเครื่องกันมากขึ้นเรื่อยๆ เลยทีเดียวครับ ล่าสุดก็ตอนเช้าวันนี้ทัพปีศาจแดงของท่านเซอร์บุกไปขย่ม MLS All Stars 5 - 2 แถมเจ้าหนู ชิชาร์ริโต้ เปิดซิงนัดแรกก็ซัลโวประตูได้ทันที

เรียกว่าออกสตาร์ทได้แบบนี้ทำให้อนาคตของเจ้าตัวเปิดมากขึ้น เช่นเดียวกับ เฟเดริโก้ มาเคด้า ซูเปอร์ฮีโร่ซีซั่น 2008/2009 ก็จัดการเหมาคนเดียวถึง 2 ประตู..

พอดีวันนี้ผมไม่มีคลาสเรียนเนื่องจากอาจารย์ปล่อยหยุดให้อ่านหนังสือ ก็เลยถือโอกาสตื่นเช้ามาดู แมนยูไนเต็ด ในคราบของดาวรุ่งผสมคนหนุ่มรุ่นเก๋าทัวร์อเมริกา..

ต้องบอกว่าท่านเซอร์วางระบบการเ่ล่นมาได้สมที่พูดไว้จริงๆ ครับ.. ว่าถ้าเป็นไปได้ตลาดนักเตะหนนี้จะไม่ซื้อ แต่จะไปดันพวกนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาแทนเหมือนในสมัยที่พวก เดวิด เบ็คแฮ่ม ถูกดั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่

อาจจะเป็นคำพูดที่ซ้ำซากแต่ว่ายังคงใช้ได้อยู่เสมอนั่นก็คือ ยังไงแมนยูก็ยังคงเป็นแมนยูทีมเดิมเมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูซัน ยังคงกุมบังเหียนอยู่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เพราะอะไร ? ก็เพราะว่าต่อให้จัดผู้เล่นลงไปแบบไหน ทุกคนก็สามารถเล่นกันได้อย่างเข้าขาด้วยกันทั้งนั้น นี่คือจุดขายของการบริหารนักเตะโดยท่านเซอร์ที่ทำให้ประสิทธิภาพตัวสำรองไม่ได้ลดหย่อนไปจากตัวจริง

พูดถึงปีศาจแดงไปเยอะ ผมขอกลับบ้านเก่าเข้าสู่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ หน่อยละกันครับ เพราะว่าถึงผมจะเชียร์ เชลซี แต่ก็ไม่ได้เขียนบทความที่เกี่ยวกับสิงโตน้ำเงินครามมาแล้วราวๆ 3 เดือน.. ฮา..

ช่วงนี้ตลาดนักเตะคึกคักกันเสียจริงเชียว.. โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ใกล้จะปิดดีลคว้าตัว มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกเจ้าปัญหามาร่วมทีมในไมช้า ไปๆ มาๆ ยอดช็อปปิ้งของ โรแบร์โต้ มันชินี่ เกือบจะถึง 100 ล้านปอนด์อยู่แล้ว

คือต่อให้เซ็นให้มากกว่านี้อีกสัก 10 เท่าขนหน้าแข้งของท่าน ชีค มานซูร์ ก็คงไม่ร่วงครับ เปิดโอกาสให้ผู้จัดการทีมช็อปปิ้งไม่อั้นเหมือนเดินตามรอย โรมัน อบราโมวิช แต่ว่าทวีคูณศักยภาพทางการเงินยิ่งกว่า

ในฤดูกาล 2003/2004 เสี่ยหมีเซ็นเช็กให้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เต็มที่เพื่อไปเซ็นสัญญากับ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ , เกล็น จอห์นสัน , โจ โคล , โคล๊ด มาเกเลเล่ , อาร์เย็น ร็อบเบ็น และ เพตเตอร์ เช็ก โดย 2 รายหลังเซ็นตอนปิดฤดูกาลนั้นแต่ว่า รานิเอรี่ ไม่มีโอกาสได้ใช้

ผลที่ออกมาคือเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก.. นับว่าน่าประทับใจแต่ยังไม่ดีพอกับการใช้เงินมากหลายทำให้ถูกเฉดหัวออกและแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ ขึ้นมาแทน

เชลซี ดำเนินนโยบายการทุ่มซื้อนักเตะมาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปีสุดท้ายของน้ามูในนามเฮดโค๊ชของ เชลซี.. สาเหตุหลักที่เป็นแบบนั้นเพราะมีบทเรียนจากการที่ อังเดร เชฟเชนโก้ นักเตะค่าตัวสถิติสโมสรโชว์ฟอร์มไม่คุ้มเงินที่เสีย

เพราะหลังจากนั้นต้องพูดกันตามตรงครับว่าเสี่ยหมีใช้จ่ายเงินได้รัดกุมและคุ้มค่ามากขึ้น.. ยกตัวอย่างเช่นตอนซีซั่น 2007/2008 ที่ไม่ได้เจียดเงินซื้อใครเลยแต่ไปเน้นเซ็นฟรีพวก สตีฟ ซิดเวลล์ , เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ และ เบน ฮาอิม

จากนั้นค่อยเริ่มเสียเงินจากการซื้อ นิโกล่าส์ อเนลก้า มาเสริมตอนตลาดนักเตะรอบ 2 เพราะว่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา มีปัญหากับอาการบาดเจ็บ

ปีต่อมาก็ใช้จ่ายไม่เยอะเ้ช่นกันในยุคของ หลุยส์ เฟลิเป้่ สโคลารี่ โดยเป็นเงิน 8 ล้านปอนด์สำหรับค่าตัวของ เดโก้ ซูซ่า.. จนรวมไปถึงฤดูกาลที่แล้วก็ใช้ไป 18 ล้านปอนด์สำหรับ ยูริ เชียร์คอฟ โดยจะว่ากันตามจริงคนที่ดึงมาคือเสี่ยหมี ไม่ใช่อันเช่

เชลซี ถลุงเงินไปชุดใหญ่ใน 4 ปีแรกของ โรมัน อบราโมวิช แล้วหลังจากนั้นเน้นการวางรากฐานคือดันดาวรุ่งจากอเคเดมี่ และซื้อเฉพาะคนที่ จำเป็น เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม.. จริงอยู่ว่าระบบการเล่นและแนวทางของสโมสรกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ทว่าพวกตัวหลักอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา อายุก็เลย 30 ไปสักพักแล้ว

ใช้งานได้อย่างหรูก็ 2 ปีครับ.. และไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่เต็มสตรีมด้วย.. เชลซี คงพึ่ง 2 คนนี้ต่อไปได้อีกไม่นาน ในไม่ช้าถึงเวลาต้องถ่ายผู้เล่นใหม่ถึงแม้ว่าพวกที่ ยิ่งแก่ ยิ่งเก๋า จะเป็นของชอบสำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็เถอะ

แต่ว่านี่คือพรีเมียร์ลีกที่เตะกันไม่หยุดแถมเกมเล่นกันเร็ว พวกขาอึดไล่บี้เพรสซิ่งจนต้องเสียแรงกันไปเยอะ พวกตัวใช้พลังงานหนักๆ ก็หมดสภาพไว..

ไหนจะเป็นเรื่องที่ต้องเสีย โจ โคล , บัลลัค , เดโก้ และ เบลเลตติ ไปอีก.. ยังไงก็ต้องหานักเตะมาเสริมทีมครับโดยเฉพาะกองกลางที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา เชลซี เน้นระบบที่เซ็ตกันตรงกลางอย่างน้อย 3 คนมาตลอด

มีปีที่แล้วเริ่มด้วย 4 - 4 - 2 ไดมอนด์แต่ไม่เวิร์คเพราะทีมต้องใช้ฟูลแบ็คในการโจมตีริมเส้น พอโดนพวกโค๊ชเก่งๆ เอาปีกไปกดไว้ให้เติมไม่ขึ้นก็เลยตัน แล้วยิ่ง โจเซ่ โบซิงวา มาเจ็บไปอีกก็เท่ากับบอดไปเลย

นั่นทำให้ช่วงท้ายฤดูกาลอันเช่ต้องปรับไปเล่น 4 - 3 - 3 ตามสูตรเก่ามีกองกลาง 3 คนโดยเป็นมิดฟิล์ดตัวรับ 1 และทำเกมอีก 2 จากนั้นก็โจมตีด้วยริมเส้นและศูนย์หน้ามากศักยภาพอย่าง ดร็อกบา

อันเชล็อตติ อาจจะสร้างสถิติใหม่มากมายกับ เชลซี แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพของน้ามูยังอยู่เหมือนเดิมเนื่องจากทีมที่เขาสร้างมาถูกบีบบังคับทั้งในทางทฤษฏีและปฏิบัติว่าต้องเล่นด้วยระบบนั้น

ล่าสุดสโมสรมีข่าวว่าอยากได้ตัว รามิเรส มิดฟิล์ดจาก เบนฟิก้า แต่ว่าติดปัญหาตรงที่นักเตะคนนี้มีหุ้นส่วนอยู่เยอะโดย 1 ในนั้นคือ ท่านเคียร์ ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังกับ มาสเชราโน่ และ เตเบส

หากได้ตัวมาจริงก็ถือว่าเป็นการเสริมทัพที่ถูก.. ในลิสต์ของนักเตะที่เสียไปมากสุดก็คือกองกลาง ดังนั้นการคิดที่จะซื้อกองกลางเข้ามาเพราะว่าจำเป็นจริงๆ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

แต่ผมยังคงมองว่าแค่นั้นมันไม่พอ.. ยอสซี่ เบนายูน กับ รามิเรส(ถ้าได้) อาจจะเข้าล็อคในตำแหน่งกองกลาง หรือจะรวมพวกดาวรุ่งไปด้วยก็ได้แถมมี ไมเคิล เอสเซียง ที่หายเจ็บกลับมาอีก

เพียงแต่ผมคิดว่าถ้าหาก เชลซี อยากจะประัสบความสำเร็จแบบมีสไตล์พร้่อมสร้างการตลาดไปทั่วโลกดั่งที่เสี่ยหมีหวังไว้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านี้..

นั่นก็คือการ ซื้อ และสร้างทีมใหม่ขึ้นมาโดยไม่จำเป็นว่าต้องรวดเร็ว ทันใจ เพราะของแบบนี้ต้องใช้เวลาเนื่องจากรากเก่าๆ เริ่มจะเสื่อมคลายไปแล้ว หากรีบร้อนเกินไปมีแต่เสียแล้วก็เสีย

อันเชล็อตติ เคยพูดไว้ว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อทำให้มีวันที่ทุกคนต้องจำ เชลซี โฉมใหม่ภายใต้แบรนด์ของเขาที่ปลุกปั้นขึ้นมาเอง

ถึงวันนั้นเมื่อไหร่ สิงบลูตัวนี้จะติดปีกทยานฟ้าได้อย่างเต็มตัวโดยเก็บชื่อของ โชเซ่ มูรินโญ่ ไว้ในเพียงความทรงจำเท่านั้น...



Petrboat
_________________