วันของโปรตุเกส by..แจ๊คกี้
อั้นมานานได้โอกาสปล่อย...ซะทีก็พรั่งพรูออกมาเช่นนี้
อีกหนึ่งทีมที่เล่นรอบคัดเลือกแบบกระเสือกกระสนแต่พอขึ้นเวทีของจริงกลับมีของดีมาปล่อยให้ชาวโลกได้เห็น อย่างน้อยที่สุดไม่ว่าใครจะมองอะไรแต่ทีมฝอยทองโชว์ลีลาขย่มประตูทีมที่บราซิลทำอะไรไม่ได้ตั้ง 55 นาที.....
วันนี้จึงมีเรื่องมาสนทนากันอย่างครึกครื้นกับทีมที่คนไทยหรือพวกเราเรียกกันเล่นๆว่า “ฝอยทอง” ที่กำลัง ออน ฟอร์ม ไล่ถล่มเกาหลีเหนือเละเทะ 7-0 ต่อเนื่องจาก อาร์เจนติน่า 2006 ที่ถล่มเซอร์เบียแอนด์ มอนเตเนโกร 6-0 แต่ไม่แซง เยอรมันซึ่งถล่ม ซาอุดิอาระเบีย 8-0 เมื่อ 8 ปีก่อน
ชัยชนะอันท่วมท้นทำให้สถานการณ์อันน่าอึดอัดใจของแฟนบอลโปรตุกีส....คลี่คลายลงไปพอสมควร
ว่ากันถึงเกมประวัติศาสตร์ โปรตุเกส กับ เกาหลีเหนือ....เที่ยวที่สอง
ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอยเดิมระหว่าง โปรตุเกส กับ เกาหลีเหนือ นักเตะที่ถูกมองว่าเป็น unknown quality แถมยังซุกนักเตะสำรอง 4 คนเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง
ย้อนรอยปี 1966 เมื่อ เกาหลีเหนือสร้างปรากฏการณ์โลกตะลึงด้วยการล้มอิตาลี และเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศพบกับ โปรตุเกส เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อ 23 มิ.ย. ณ สนาม กูดิสัน ปาร์ค ของเอฟเวอร์ตัน ทีมโสมแดงนำห่าง 3-0 ใน 25 นาทีแรกก่อนที่ ยูเซบิโอ เจ้าของฉายาเสือดำแห่งโมซัมบิกซัลโว 4 ประตูทวงคืนก่อนนำโปรตุเกสชนะ 5-3 เข้าไปตัดเชือก ก่อนได้อันดับสามอันเป็นตัวเลขที่สวยงามที่สุดในประเทศชาติโปรตุเกสเมื่อคิดถึงบอลโลก
ทีมนี้เป็นทีมที่เล่นบอลได้สวยงามไม่แตกต่างจากสเปน แต่พวกเขาไม่มีวาสนาได้ใกล้ถ้วยจูลิเมต์ ดั้งเดิมและฟีฟา เวิลด์ คัพ ในปัจจุบัน แย่กว่านั้นคือโปรตุเกสเป็นสมาชิกเวิลด์ คัพแบบนับครั้งได้
5 ครั้งรวมแอฟริกาใต้ 2010 ....
เที่ยวแรกๆไม่ผ่านคัดเลือก พอเข้าครั้งแรกก็ดังระเบิดได้อันดับสามในปี 1966 ตำนาน “เสือดำแห่งโมซัมบิก” บังเกิดขึ้น จากนั้นก็อีหรอบเดิม มาๆหายๆ เป็นสมาชิกเวิลด์คัพแบบขาจร....พึ่งจะมีก็สามครั้งหลังสุดนับตั้งแต่ปี 2002 นี่แหละที่ผ่านคัดเลือกเข้ามาได้
กระนั้นก็เถอะเที่ยวล่าสุดมาแบบงงๆเหมือนกัน ต้องลุ้นเพลย์ออฟเกือบตาย
อย่างไรก็ตามช่วงเวลา 8 ปีนับจากบอลโลกที่เอเชีย ทีมโปรตุเกสถ่ายเลือดจากรุ่น ฟิโก มาเป็น โรนัลโด้ การเปลี่ยนผ่านของพวกเขาย่อมใช้เวลาสร้างและแน่นอนถือว่า ฟิโก้ เป็นต้นแบบให้เด็กรุ่นหลังได้เก่งกาจกันมากขึ้น กลายเป็นสมาชิกบอลโลกแบบถี่ขึ้น อย่างน้อย 3 ครั้งหลังคือ 12 ปีพวกเขามาตลอด
โดยเฉพาะ 4 ปีก่อนถึงขนาดเป็นทีมที่ถูกจับตามองในตอนเริ่มต้นในระดับไม่แตกต่างกับ อาร์เจนติน่า, บราซิล, เยอรมัน เจ้าภาพ เลยทีเดียว
โดยภายใต้การนำทีมของ หลุยส์ เฟลิเป สโกลารี คือหนึ่งในทีมที่ถูกจัดให้เป็นทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์กับเขาด้วย พวกเขาสมบูรณ์และแน่นกว่าสเปน เนื่องจากปี 2004 โปรตุเกสพลาดถ้วยยูโร ทั้งที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพแถมได้ชิงชนะเลิศ ซึ่งปรากฏว่าแพ้กรีซทั้งเปิดและปิด
2 ปีต่อมา สโกลารี พยายามอย่างยิ่งที่ปั้นทีมชุดนี้ให้มันต่อเนื่อง ด้วยผลงานอันโดดเด่น โปรตุเกส เป็นหนึ่งในทีมถูกมองว่ามีลุ้น...อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่เป็นไปตามเป้าพวกเขาแพ้ทีเด็ด ซีเนอดีน ซีดานและพวกพ้อง การชิงที่สามเหมือนรางวัลที่ไม่น่าปลอบใจในบอลโลก แต่ฟีฟาก็อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในเวิลด์ คัพ ด้วยสปิริตแห่งเกมที่แม้พลาดหวัง แต่ทุกคนก็ยังได้โอกาสปิดฉากบอลโลกของตัวเองอย่างน้อยชึ้นชื่อว่ามีอันดับติดตัวกลับบ้าน
วันนี้จาก สโกลารี มาเป็น คาร์ลอส เคยรอช โค้ชผู้สร้างที่เคยปั้น “Golden GEN” ยุคทองของบอลโปรตุกีสนับจากหมด ยูเซบิโอ โดยเฉพาะตำแหน่งแชมป์เยาวชนโลกในปี 1989 , 1991 พร้อมนักเตะชื่อดังอย่าง หลุยส์ ฟิโก, รุย คอสต้า, เฟร์นานโด เคาโต
ถามว่าทีมชุดนี้มีอะไรเชื่อมโยงกับ ยูเซบิโอ เจ้าของที่สามในบอลโลก 1966 คำตอบคือ “เชื้อชาติ”
อะไรคือ “เชื้อชาติ” ยูเซบิโอ คือโมซัมบิก ที่แปลงสัญชาติเป็นโปรตุเกส เช่นเดียวกันกับ เคยรอช ผู้มีความเป็นโมซัมบิกชัดเจน
สำหรับสื่อมวลชนโปรตุกีสพวกเขารู้สึกถึงการเชื่อมโยง แต่เราคนนอกอาจมองว่าโปรตุเกสกำลังเป็นที่สนอกสนใจกับบรรดาทีมต่างๆในครั้งนี้หลังจาก โชว์ฟอร์มไม่ดีนัดแรกแต่พวกเขากลับปล่อยของเต็มพิกัดในเกมที่สอง ด้วยการถล่ม เกาหลีเหนือแบบหมดทางสู้ 1-0 ในครึ่งแรก
7 นาทีระหว่าง น.52-59 อีก 3 ลูก เท่ากับว่า 60 นาทีแรกโปรตุเกสปิดเกมเกาหลีเหนือเรียบร้อย ถึงขนาดที่บราซิลยังทำไม่ได้
ทีมชุดนี้มีทีเด็ดอะไร...คงไม่ใช่ขนาดนั้นแต่มันเป็นจังหวะที่ลงตัวมากเมื่อ เคยรอช ตัดสินใจเสี่ยงเปลี่ยนตัว 4 คนตั้งแต่หลังจนถึงข้างหน้า แบกขวาใช้ มิเกล จอมบุกจากแดนค้างคาว เอา แฟร์รารา ออก แดนกลางไม่มี เดโก เพราะเจ็บ ใช้ เตียโก้ แทน ขณะที่แดนหน้า ซิเมา ลงสนามแทน แดนนี และ ลีเอดสัน สำรองเมื่อ อัลเมย์ด้า มาค้ำแนวรับโสมแดง
ระบบเหมือนเดิม 4-3-3 แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือจังหวะการเล่นบอลที่ดูนิ่งขึ้น และไม่ผลีผลาม ลุกลี้ลุกลนเหมือนเกมแรกที่อยากไปข้างหน้าอย่างเดียว ด้วยเพราะพิษสงของโสมแดงที่ทำบราซิลสะอึกอยู่นาน ความนิ่ง ความช้า ทำให้โสมแดง ชะล่าใจ เปิดฉากลุยใส่ทันที
พื้นที่จึงเปิดกว้าง แนวหลัง...กับแดนกลางมีช่อง มีพื้นที่ ขณะที่โปรตุเกส ใช้ โรนัลโด เป็นตัวหลอกเพื่อดึงนักเตะโสมให้เคลื่อนที่จากนั้น ราอูล เมเรเรส ทะลุจากแถวสอง ประตูแรกทำให้โปรตุเกสเล่นง่ายขึ้น และเป็นเกาหลีเหนือที่รู้สึกว่าความยากมาเยือน
ผมนั่งตาม ทวิตเตอร์ของ อลัน แฮนเซน อดีตยอดกองหลังหงส์แดงที่ปล่อยเสียงวิพากษ์ผ่านโทรศัพท์ โดยวิเคราะห์เรื่องเกมรับ ซึ่งนั่นคือจุดแข็งของ แฮนเซน เขาบอกว่า วันนี้แนวรับเกาหลีเหนือหลวมกว่าวันที่เตะบราซิล เขาเกรงว่าจะโดนอีกสองสามลูก
แฮนเซน ทวิต ช่วง 2 นาทีก่อนหมดครึ่งแรก....
บางทีการเล่นดีมากกับบราซิล ทำให้พวกเขาย่ามใจจนเปิดแนวรับและไม่กระชับพื้นที่...พอเสียประตูที่สองทุกอย่างก็พังทลายลง...จากนั้นคือโบนัสให้ โปรตุเกสได้ใช้สอยกันอย่างสนุกเท้า
โปรตุเกสชุดนี้อาจไม่มีอะไรให้น่าติดตามนอกจาก โรนัลโด แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า “มีใจ” อย่างน้อยก็พยายามมากกว่าอังกฤษที่เอาแต่ป่วนกันไปมา โดยเฉพาะ อดีตกัปตันทีมชื่อ จอห์น เทอร์รี ทำตัวเหมือนเป็นผู้มีอิทธิพลนอกสนาม....
ตกรอบก็ดีจะได้หายบ้า....(สงสารก็แต่ เจอร์ราร์ด ของผม)
ในขณะที่อังกฤษผู้โชว์ฟอร์มเด็ดในรอบคัดเลือก กำลังเผชิญหน้ากับการ “กลับบ้านก่อน” โปรตุเกสผู้มาจากการเพลย์ออฟ ดิ้นรนสุดชีวิต กลับพบว่านัดสุดท้ายพวกเขาเล่นกับบราซิลในเกมที่ 1 คะแนนก็เพียงพอต่อการเข้ารอบนอคเอาต์
อะไรก็ไม่เด็ดเท่ากับโปรตุเกสกำลังเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่ในเวลานี้
JACKIE
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว