อัซซูรี่เต็งกลุ่มเอฟ-อีก3ชาติสอดแทรกสุดสูสี

สําหรับสายเอฟ แม้จะไม่ใช่สายแข็งมากนัก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาทุกคู่จะต้องจับจ้องมาที่กลุ่มนี้ เพราะเป็นสายของแชมป์เก่าอย่างอิตาลี โดยมี ปารากวัย, นิวซีแลนด์ และสโลวะเกีย ร่วมอยู่ด้วย

1.อิตาลี

โค้ช - มาร์เซโล่ ลิปปี้ (อิตาลี)

ผ่านเข้ารอบในฐานะ - แชมป์กลุ่ม 8

จำนวนที่เข้ารอบสุดท้าย - 17 ครั้ง

ผลงานที่ดีที่สุด - แชมป์โลก 4 สมัย (1934, 1938, 1982, 2006)

"แชมป์เก่า"อิตาลี ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าในศึกยูโร 2008 ทำให้ต้องดึงกุนซือจอมเก๋าอย่างมาร์เซโล่ ลิปปี้ กลับมากู้ศรัทธาจากแฟนบอลคืนอีกครั้ง ซึ่งก็ส่งผลให้ทีมชุดนี้มีนักเตะจากชุดแชมป์โลกเมื่อ 4 ปีก่อนร่วมทัพด้วย 9 คน แต่ลิปปี้ก็ใจถึงพอที่จะให้โอกาสนักเตะใหม่ได้ลงโชว์ฝีเท้า โดยมี อันเดรีย ปิร์โล่ มิดฟิลด์สารพัดประ โยชน์ยืนบัญชาเกมในแดนกลางเช่นเดิม

อิตาลีขึ้นชื่อเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่นมาโดยตลอด แต่ปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของทีมก็คือ ขาดแคลนกองหน้าที่ไว้ใจได้ เมื่อรวมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ผลงานมักกระท่อนกระแท่นในรอบแรกก็น่าจะทำให้แฟนบอลทีม "อัซซูรี่" ต้องลุ้นกันหนักเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม หากนักเตะหน้าใหม่และขาประจำเล่นได้เข้าขากัน

โอกาสจะป้องกันแชมป์เอาไว้ ก็ไม่ไกลจนเกินเอื้อม

2.ปารากวัย

โค้ช - เกราร์โด้ มาร์ติโน่ (อาร์เจนตินา)

ผ่านเข้ารอบในฐานะ - อันดับ 3 โซนอเมริกาใต้

จำนวนที่เข้ารอบสุดท้าย - 8 ครั้ง

ผลงานที่ดีที่สุด - รอบ 16 ทีมสุดท้าย (1986, 1998, 2002)

ปารากวัยแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใต้การคุมทัพของเกราร์โด้ มาร์ติโน่ พวกเขาชนะถึง 7 ใน 10 เกมในการเล่นรอบคัดเลือก รวมถึงการเฉือนชนะยอดทีมอย่างบราซิล 1-0

ปารากวัยมีกองหน้าที่ฝากความหวังเอาไว้ได้ร่วมทัพด้วยหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เนลสัน วัลเดซ, ออสการ์ คาร์โดโซ่ และ โรเก้ ซานตา ครูซ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซานตา ครูซ ที่แม้ว่าผลงานกับทีมแมนฯ ซิตี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อาจจะยังไม่โดดเด่นเพราะมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ทุกครั้งที่ได้ลงสนาม ซานตา ครูซ ก็ทำผลงานได้ดีเสมอมา ในทัวร์นาเมนต์นี้ก็เช่นกัน ดาวยิงวัย 28 ปีน่าจะเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้

แม้ว่าโอกาสจะไม่ง่ายนักก็ตาม


3.นิวซีแลนด์

โค้ช - ริกกี้ เฮอร์เบิร์ต (นิวซีแลนด์)

ผ่านเข้ารอบในฐานะ - ผู้ชนะการเพลย์ออฟ (โซนออสเตรเลีย กับโซนเอเชีย)

จำนวนที่เข้ารอบสุดท้าย - 2 ครั้ง

ผลงานที่ดีที่สุด - รอบแบ่งกลุ่ม (1982)

นิวซีแลนด์คว้าแชมป์โซนโอเชียเนีย อย่างง่ายดายจากการเก็บชัย 5 เกมแรก ก่อนจะส่งตัวสำรองลงเล่นเกมสุดท้ายกับฟิจิ หลังจากนั้นทีม "ออลล์ ไวต์" โชว์ความแข็งแกร่งด้วยการเอาชนะบาห์เรน ทีมอันดับ 5 ของโซนเอเชีย ในการเพลย์ออฟ คว้าตั๋วฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ

จุดเด่นของนิวซีแลนด์อยู่ที่ความเป็นทีมเวิร์ก ริกกี้ เฮอร์เบิร์ต กุนซือของทีม ผู้เคยเป็นหนึ่งในขุนพลชุดฟุตบอลโลกปี 1982 กุมหัวใจของนักเตะทุกคนเอาไว้ได้หมด แถมยังมีกัปตันทีมจอมแกร่งอย่างไรอัน นีลเซ่น กองหลังจากแบล็ก เบิร์น คอยตะโกนกระตุ้นลูกทีมตลอดทั้งเกม ทำให้นักเตะ "ออลล์ ไวต์" ทีมนี้จะวิ่งสู้ฟัดกันตลอดทั้ง 90 นาทีอย่างแน่นอน

แต่ถึงกระนั้น นิวซีแลนด์ก็คงต้องลุ้นเหนื่อยแน่หากหวังจะสอดแทรกเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

4.สโลวะเกีย

โค้ช - วลาดิเมียร์ วีสส์ (สโลวะเกีย)

ผ่านเข้ารอบในฐานะ - แชมป์กลุ่ม 3

จำนวนที่เข้ารอบสุดท้าย - 9 ครั้ง (ในชื่อของเช็กโกสโลวะเกีย แต่เป็นครั้งแรกในชื่อของสโลวะเกีย)

ผลงานที่ดีที่สุด - รองแชมป์โลก (1934, 1962)

สโลวะเกียอาจจะทำผลงานในรอบคัดเลือกได้ไม่โดดเด่นนัก พวกเขาต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายกว่าจะคว้าตั๋วฟุตบอลโลกมาครองได้ ทีมชุดนี้มีนักเตะที่แฟนบอลบ้านเรารู้จักกันเป็นอย่างดีร่วมทีมหลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน สเคอร์เทล ปราการหลังร่างยักษ์จากลิเวอร์พูล, มาเร็ก ฮัมซิก กองกลางจอมลุยของนาโปลี และ สตานิสลาฟ เซสตัก ดาวยิงประจำทีม

สโลวะเกียถูกเรียกว่าเป็นทีมน้องใหม่ของศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้ลูกทีมของวลาดิเมียร์ วีสส์ จะไม่ใช่แกะน้อยในฝูงหมาป่าอย่างแน่นอน

ถ้าไม่โชคร้ายจนเกินไป 16 ทีมสุดท้ายก็น่าจะมีชื่อของสโลวะเกียรวมอยู่ด้วย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์