ฮาราคีรี!ซามูไรยิงตัวเอง2เม็ดพ่ายสิงโต2-1
อังกฤษเอาชนะญี่ปุ่นไปได้หน้าตาเฉย ทั้งที่ไม่ได้ทำเลยแม้แต่ประตูเดียว เพราะแข้งซามูไรเป็นดันยิงประตูตัวเอง 2 ลูกทำให้โดนอังกฤษพลิกแซงเอาชนะไปได้ 2-1 โดยในเกมนี้แฟรงค์ แลมพาร์ดยิงจุดโทษพลาดด้วย
เกมอุ่นเครื่องก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษาคม 2553
ญี่ปุ่น 1 - 2 อังกฤษ
ประตู : 1-0 มาคุส ทูลิโอ ทานากะ น.7,1-1 มาคุส ทูลิโอ ทานากะ(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.72,1-2 ยูจิ นากาซาว่า(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.82
ครึ่งแรก
สิงโตช็อก!โดนยิงนำก่อนอย่างไว
เริ่มเกมไปได้แค่ 7 นาทีเท่านั้น ทีมชาติอังกฤษก็มาเสียประตูให้กับญี่ปุ่น จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา บอลพุ่งต่ำมา ทำให้ทานากะวิ่งเข้าไปยิงเข้าไปตุงตาข่าย ขุนพลซามูไรชิงนำไปก่อน 1-0
เกมสิงโตยังไม่ดีขึ้น
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีแรกของเกม ทีมชาติอังกฤษยังคงเล่นเกมที่ตนเองถนัดไม่ได้ และเหมือนว่าจะยังคงตัน ๆ อยู่ในการทำเกมรุก ทำให้ฟาบิโอ คาเปลโล่กุนซือของทีมต้องออกมายืนกระตุ้นนักเตะอยู่ขางสนามยกใหญ่
เลนน่อนยิงแต่ติดเซฟ
นาทีที่ 18 น่าจะเป็นประตูตีเสมอของทางอังกฤษ จากจังหวะที่เวย์น รูนี่ย์จ่ายบอลน้ำหนักสวยโคตรให้กับอารอน เลนน่อนได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ เจ้าตัวตัดสินใจซัดด้วยซ้ายจังหวะแรกทันที แต่คาวาชิม่าผู้รักษาประตูของญี่ปุ่นเซฟเอาไว้ได้
สิงโตบุกกระหน่ำ
เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 40 ทีมชาติอังกฤษทำเกมได้ดีขึ้น และมีโอกาสยิงหลายครั้ง จากทุกระยะไม่ว่าจะใน หรือนอกกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูตีเสมอญี่ปุ่นได้
จบ 45 นาทีแรก ญี่ปุ่นช็อกแฟนบอลอังกฤษทั่วโลกด้วยการนำไปก่อน 1-0 จากการทำประตูของมาคุส ทูลิโอ ทานากะ
ครึ่งหลัง
อังกฤษเปลี่ยนตัวนักเตะทีเดียว 5 คนรวดโดยเริ่มจากโจ ฮาร์ท แทนเดวิด เจมส์, คาร์ราเกอร์ แทนเกล็น จอห์นสัน, เจอร์ราร์ด แทนฮัดเดิลสตั๊น, ไรท์ ฟิลลิปส์ แทนวัลค็อตต์ และโจ โคล แทนเบนท์
สิงโตได้จุดโทษ-แลมพ์ซัดติดเซฟ!!
นาทีที่ 55 ทีมชาติอังกฤษได้จุดโทษจากจังหวะที่แฟรงค์ แลมพาร์ดยิงฟรีคิกแล้วไปโดนมือผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่น ทำให้ผู้ตัดสินเ่ป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่แลมพาร์ดจะรับหน้าที่สังหารเอง แต่ยิงไปติดเซฟของคาวาชิม่า ที่พุ่งเปิดลูกยิงเลียดของแลมพาร์ดเอาไว้ได้ทัน
ทำคะแนน!ฮาร์ทเซฟสุดสวย
นาทีที่ 67 ญี่ปุ่นเกือบทำประตูทิ้งห่าง 2-0 ได้ จากจังหวะที่ทำเกมสวนกลับ โยนบอลยาวไปหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่แข้งซามูไรจะมีโอกาสได้ซัดเหน่ง ๆ ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ยิงหักไปที่เสาแรก แต่โจ ฮาร์ทโคตรไวดีดตัวปัดบอลเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
ทานากะยิงอีกเม็ด!แต่เข้าประตูตัวเอง
นาทีที่ 72 ทานากะผู้ทำประตูขึ้นนำให้แก่ทีมชาติญี่ปุ่น กลับมายิงประตูตัวเองซะอย่างนั้น จากจังหวะที่โจ โคลได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดบอลเข้าไปที่เสาแรก ทานากะเจตนาดีหวังจะพุ่งโหม่งให้บอลออกหลัง แต่กลับกลายเป็นการโหม่งตอร์ปิโดเข้าไปตุงตาข่ายแบบช็อกแฟนซามูไรกันหมด อังกฤษได้ประตูตีเสมอ 1-1 หน้าตาเฉย
ทำไปได้!ซามูไรยิงตัวเองอีกเม็ด
นาทีที่ 82 ญี่ปุ่นต้องมาชอกช้ำระกำใจอย่างแรง เพราะดันมาเสียประตูเพราะผู้เล่นของตัวเองเป็นประตูที่ 2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของยูจิ นากาซาว่า ทำให้ทีมชาติอังกฤษขึ้นนำ 2-1 ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนยิงเองเลยสักลูกเดียว
จบ 90 นาทีทีมชาติอังกฤษเอาชนะญี่ปุ่นไปได้ 2-1 แบบน่าเชื่อนิด ๆ ตรงนักเตะญี่ปุ่นเป็นคนยิงเองทั้ง 3 ลูกเลย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ญี่ปุ่น : ไอจิ คาวาชิม่า,ยูกิ อาเบะ,ยูจิ นากาซาว่า,ยาซุยูกิ คอนโน่,ยูโตะ นากาโตโม่,ยาซูฮิโตะ เอนโด(ทามาดะ น.86),มาโกโตะ ฮาเซเบ้,ไกซูเกะ ฮอนดะ,มาคุส ทูลิโอ ทานากะ,ชินจิ โอกาซากิ(โมริโมโตะ น.65),โยชิโตะ โอคูโบะ(มัตซูย น.71)
อังกฤษ : เดวิด เจมส์(ฮาร์ท น.45),จอห์น เทอร์รี่,ริโอ เฟอร์ดินานด์,แอชลี่ย์ โคล,เกล็น จอห์นสัน(คาร์ราเกอร์ น.45),แฟรงค์ แลมพาร์ด,ทอม ฮัดเดิลสตั้น(เจอราร์ด น.45),อารอน เลนน่อน(เฮสกีย์ น.77),ธีโอ วัลค็อตต์(ไรท์ ฟิลลิปส์ น.45),เวย์น รูนี่ย์,ดาร์เรน เบนท์(โจ โคล น.45)
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####