สิ้นอินทรีดำนักเตะทีมชาติไทยรุ่นใหญ่เจอหลายโรครุ้มเร้า

"อินทรีดำ"ศุภกิจ มีลาภกิจ อดีตนักเตะ-กุนซือ-ผู้จัดการทีม ทหารอากาศ และทีมชาติไทย สิ้นลมที่โรงพยาบาลภูมิพล เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ด้วยภาวะเส้นโลหิตฝอยในสมองแตก หลังจากที่เจ้าตัวต้องต่อสู้กับสารพันโรคร้ายที่รุมเร้าทั้งเบาหวาน, ตับ, ไต  ทางญาติ เตรียมนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ในวันพุธที่ 26 พฤษภาคมนี้ กำหนดรดน้ำศพ 16.00 น.จากนั้นเป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ส่วนกำหนดวันฌาปณกิจรอทำเรื่องขอพระราชทานเพลิงศพจะแจ้งในภายหลัง

“อินทรีดำ” น.อ.ศุภกิจ มีลาภกิจ จากสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย บันทึกเอาไว้ว่า

 เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2488 เป็นชาวลพบุรีเล่นในตำแหน่งกองหลัง ให้กับสโมสรฟุตบอลทหารอากาศ เคยชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก ใน พ.ศ.2510,ชนะเลิศถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ พ.ศ.2513-2517เคยติดทีมชาติไทย ระหว่าง พ.ศ.2512-2518 ยิงได้ 2 ประตู เป็นนักเตะในรุ่นราวคราวเดียวกับ สราวุธ ประทีปากรชัย, สุชิน กสิวัตร, อำนาจ เฉลิมชวลิต, จุฑา ติงศภัทิย์, ชัชชัย พหลแพทย์, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ฯลฯ ได้รับฉายาว่า “สำลีเม็ดใน” เพราะมีผิวเข้ม และเป็น 1 ใน 22 คน ทีมชาติไทยชุดแรก ที่ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หรือ ปรี-เวิลด์คัพ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2516 ที่ประเทศเกาหลีใต้

อีกทั้งยังได้รับเกียรติเป็น 11 นักเตะยอดเยี่ยมของฟุตบอลเอเชียนคัพ ภาคพื้นตะวันออก ในปี พ.ศ.2515 ต่อมาเมื่อขึ้นเป็นโค้ชให้กับสโมสรทหารอากาศ จึงได้รับฉายาอินทรีดำำ และสามารถพาสโมสรทหารอากาศ ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยพระราชทาน ก รวม 2 สมัย พ.ศ.2530, 2539 และฟุตบอลควีนส์คัพ 1 สมัย พ.ศ.2525 นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยชุดชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 21 พ.ศ.2533