เจิดฮีโร่ส่งบอลให้ดร็อกบาเปิดซิงก่อนเช็กบิลง่ายๆ 2-0

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2553

ลิเวอร์พูล 0-2 เชลซี

ประตู : 0-1 ดร็อกบา น.33,0-2 แลมพาร์ด น.54

ราฟาเอล เบนิเตซยังให้ฮาเวียร์ มาสเคราโน่เล่นเป็นแบ็คขวาแต่งวดนี้ให้ดาเนี่ยล แอกเกอร์ยืนแบ็คซ้ายส่วนแดนกลางยังใช้อัลแบร์โต้ อาควิลานี่กับลูคัส เลว่าในขณะที่เดิร์ก เคาท์ยืนหน้าแม้ไม่ฟิตเต็มร้อยก็ตาม

ด้านเชลซีวันนี้มาเปิดเกมรุกสู้ด้วยระบบ 4-3-3 โดยดิดิเยร์ ดร็อกบา,อเนลก้าและมาลูด้ามากันครบสูตร

ครึ่งแรก

แลมพ์ส่องไกลทักทาย
เริ่มมา 40 วินาทีเจอร์ราร์ดจับบอลลั่นถูกอเนลก้าฉกแล้วล้นไปถึงแลมพาร์ดที่แตะไปยิงไกล 25 หลาบอลปลิ้นหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียวเล็กน้อย

มาลูด้ายิงหลุดเสา
เชลซีมาคะนองมากเพราะต่อบอลทำชิ่งเข้าทำป้วนเปี้ยนอยู่หน้าเขตโทษลิเวอร์พูลจนแบ็คโฟว์ต้องวิ่งไล่แย่งกันเป็นพัลวันเลยทีเดียวและนาทีที่ 7 มาลูด้ารับลูกทุ่มจากปีกขวาแล้วกระชากพาทัวร์มาถึงหน้าเขตโทษก่อนส่องบอลบดออกข้างเสานิดเดียว

อาควิยิงไกลแฉลบคาน
นาทีที่ 10 อาควิลานี่รับบอลจากเจอร์ราร์ดก่อนง้างเกือกยิงเต็มตีน 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดผ่านมือเช็กที่พุ่งปัดไม่ถึงแฉลบชนคานนิดนึง เล่นเอาเดอะค็อปร้องกันระงมทั่วแอนฟิลด์

หงส์เริ่มสู่ดีขึ้น
เกมกลับมาสูสีหลังนักเตะเจ้าถิ่นวิ่งไล่ในแดนกลางหนักข้อขึ้นเรื่อยๆทำให้บอลมาป้วนเปี้ยแถวๆระยะอันตรายเชลซีมากขึ้นแต่ก็ยังไม่น่ากลัวเนื่องจากจังหวะสุดท้ายยังเสียกันเองซะเยอะ

ลูคัสยิงเลอะเทอะ
นาที 27 ลูคัสได้บอลเก็บตกที่เพื่อนจ่ายมาให้ตรงระยะ 30 หลาก่อนลากด้วยความมั่นใจแล้วยิงไกลเต็มๆแล้วก็ไกลจริงๆเพราะบอลออกนอกกรอบแล้วก็ห่างไปเยอะ

อาควิหลุดเดี่ยวแต่ช้า
อีกนาทีเดียวต่อมาเจ้าถิ่นต่อบอลกันสวยและมักซี่ดีดบอลข้ามหัวเซนเตอร์ทะลุช่องให้อาควิหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่จังหวะจะยิงมันเข้าเท้าซ้ายเลยถูกอิวาโนวิชมาตั้นเบียดล้มลงกรรมการไม่ว่าอะไรเพราะไหล่ชนไหล่

หัวขิงช็อกถวายพานเชลซีนำ 1-0
แต่บอลที่ไม่มีอะไรนาที 33 ลิเวอร์พูลพลาดกันเองเจอร์ราร์ดคืนหลังไมดีกลายเป็นแทงทะลุให้ดร็อกบาวิ่งไปตัดบอลหลบเรน่าก่อนยิงเข้าไปโล่งๆ 1-0

หงส์เละเทะเกือบโดน
พอนำแล้วทีนี้ลิเวอร์พูลหลังลอยและอีก 3 นาทีต่อมาแอชลีย์ โคลหลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนไหลให้แลมพ์วิ่งมารับตรงระยะ 20 หลาแล้วเอียงตัวยิงเลิอกมุมเหน่งๆแต่กลับหลุดเสาออกไปเหลือเชื่อ

คีย์เกียกอสช่วยชีวิต
ตอนนี้ลิเวอร์พูลสเปะสปะแล้วอีกนาทีเดียวมาสช์เสียบอลทำให้เชลซีได้ต่อบอลเข้าเขตโทษแล้วอเนลก้ากำลังจะง้างยิงโล่งๆล่อเป้าเรน่าสองต่อสองแต่คีย์เกียกอสสไลด์ช่วยชีวิตเอาไว้ได้

เชลซีโวยไม่ได้จุดโทษ
ทดเจ็บนาทีแรกเจอร์ราร์ดทำบอลเสียอีกแล้วทำให้กาลูแตะหนีคาร์ราเกอร์หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษโดยมีลูคัสพัวพันจากด้านหลังแล้วไปขัดแข้งขัดขากันเองจนล้มลงแล้วอลัน ไวลีย์ทำมือให้เล่นต่อ เล่นเอาคาร์โล่ อันเชล็อตติและสต๊าฟลุกฮือไม่พอใจเป็นการใหญ่ ดูตามทรงแล้วให้ได้เลยถือว่าโชคดีไปสำหรับหงส์แดง

พอไวลีย์เป่านกหวีดหมดครึ่งแรกนักเตะเชลซีมารุมทันทีเพราะไม่พอใจว่าไม่ได้จุดโทษได้อย่างไร

ครึ่งหลัง

นิโก้ยิงวืดชวดเม็ดสอง
เล่นมา 5 นาทีลิเวอร์พูลเกือบโดนอีกหลังกระชากหนีมาสช์ตรงเส้นหลังเข้าเขตโทษแล้วไหลให้อเนลก้าแปวืดตรงระยะ 2 หลา แค่สะกิดโดนมีเฮลูกสองแน่นอน

ช่วงนี้เชลซีพับสนามเกือบๆข้างเดียวและเน้นเจาะทางมาสเคราโน่ที่ตอนนี้ดวลกับกาลูเอาไม่อยู่แล้ว

แลมพ์ปิดเกม 2-0
และนาที 54 เชลซีมาได้ลูก 2-0 จากการทำชิ่งกัน 3 คนของอิวาโนวิช+ดร็อกบาและเป็นนิโก้หลุดขึ้นมาทางริมกรอบโทษฝั่งขวาก่อนแปมาที่จุดนัดพบให้แลมพ์เข้าฮอร์ตสไลด์ยิงเข้าไปง่ายๆ เรน่าโวยแนวรับด้วยความโมโหส่วนคาร์ราเกอร์ตระคริวกินไม่ได้ตามแลมพ์สุดท้ายเศร้ากันไป

เดอะค็อปเงียบกริบ
ตอนนี้เดอะค็อปไม่สนุกแล้วเพราะเล่นสู้ไม่ได้และเป็นเชลซีที่ต่อบอลทำเกมอย่างมั่นใจ ภาพจับไปที่เฟร์นานโด ตอร์เรสนั่งหน้าเซ็งๆ

เรน่างานชุก
นาที 66 ลิเวอร์พูลเกือบเสียง่ายๆจากจังหวะที่มาลูด้าเปิดบอลจากปีกซ้ายบอลตกพื้นเลยไปเสาสองและเป็นอเนลก้าที่วิ่งมาแปยิงยังดีที่เรน่าออกมาปิดมุมเลยถูกขาออกหลังไป

จากนั้นไม่นานเรน่าต้องช่วยชีวิตทีมอีกครั้งหลังพุ่งปัดลูกยิงไกลนอกเขตโทษที่พุ่งกระเด้งพื้นเสียบมุมของมาลูด้าอีกหน

เรน่าชกฟรีคิกบัลลัค
นาที 79 บัลลัคซัดฟรีคิก 25 หลาข้ามกำแพงตรงตัวเรน่าที่ประสานมือชกทิ้งรอดตายไปอีกมื้อ

หงส์หลังลอยเกือบโดนเม็ด 3
หงส์แดงจะยิงประตูเอาใจแฟนทำให้ก่อนหมดเวลา 9 นาทีเกือบโดนลูกสามหลังบุกมาเป็นแผง 4 รุม 3 ก่อนที่อเนลก้าจะลากขึ้นมาเรื่อยๆแล้วยิงไกลเลียดทะลุแข้งเจ้าถิ่นเรน่าต้องล้มปัดบอลปลิ้นไปอยู่ข้างๆเสาดร็อกบาวิ่งมาซ้ำแต่ก็ยังติดเซฟจอมหนึบทีมชาติสเปนอีก

จบเกมลิเวอร์พูลแพ้แบบหมดรูปสู้ไม่ได้ 2-0 โอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีกยุติลงแล้วและอันดับที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้คือที่ 6 เท่านั้นส่วนเชลซีกำลังจะเป็นแชมป์ขอแค่นัดหน้าชนะวีแกนโดยไม่ต้องสนใจคู่แมนฯยูไนเต็ดให้เสียเวลาแถมยังทำสถิติชนะบิ๊กโฟว์ในฤดูกาลนี้ 6 นัดรวดส่วนหงส์แดงแพ้ 5 นัดชนะนัดเดียว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ,โซติริออส คีย์เกียกอส,เจมี่ คาร์ราเกอร์ (อยาล่า น.57),ดาเนี่ยล แอกเกอร์,ลูคัส เลว่า,อัลแบร์โต้ อาควิลานี่(เอ็นก็อก น.77),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มักซี่ โรดริเกซ(บาเบิ้ล น.42),ยอสซี่ เบนายูน,เดิร์ก เคาท์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,จอห์น เทอร์รี่,อเล็กซ์,แอชลีย์ โคล,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,มิชาเอล บัลลัค ,ฟลอร็องต์ มาลูด้า ,โซลามง กาลู(เชอร์คอฟ น.88),ดิดิเยร์ ดร็อกบา,นิโกลาส์ อเนลก้า(จ.โคล น.90)