ผมจำช่วงเวลาที่แน่นอนไม่ได้แต่ก็หลายปีน่าจะซัก 4 ปีขึ้นที่ผมเคยเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับบอลไทยจนมีแฟนพันธ์แท้บอลไทยเข้ามาตอบปะทะคารมกันอยู่หลายยก
ประเด็นของผมสรุปคร่าวๆยกให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้แฟนบอลหันมาเชียร์อย่างจริงๆจังๆเริ่มจากยกเลิกพวกทีมยาสูบหรือธนาคารทั้งหลายแหล่เพราะมันไม่สามารถสร้างความรักหรือภักดีใดๆขึ้นมาได้เลย
การชิงโชคหรือเอาตลกมาล่อแฟนบอลให้เข้าสนามเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มันไม่ใช่อยู่ตรงนั้น
ผมทิ้งท้ายเอาไว้ในคอลัมน์นั้นว่าของดีจริงคนเราจะถวิลหาเองไม่จำเป็นต้องให้ใครมายัดเยียด
แต่แฟนคนนั้นเหมือนจะที่นี่ดอทคอมไทยจนเลือดขึ้นหน้าด่าผมกลับบอกอ้าวไม่ไปดูบอลที่สนามแล้วจะนักเตะจะมีกำลังใจเล่นยังไง ไม่มีเงินบอลไทยไม่พัฒนา บลา บลา
ถ้าระบบยังยืนหยัดที่ห้างร้านองค์กรแข่งขันกันเองในกรุงเทพแล้วมาบังคับให้ผมไปนั่งดูก็เหมือนผมเสียเงินฟรีใช่ม๊ะครับ เท่ากับพวกแฟนบอลที่ไปดูเห็นด้วยกับระบบนี้ สุดท้ายมันจะวกเข้าไปยังคำที่ว่าของดีจริงคนเราจะถวิลหาเองไม่จำเป็นต้องให้ใครมายัดเยียด
สปอนเซอร์เสียเงินให้ฟุตบอลไทยระบบเก่าไปหลายร้อยล้านบาทตั้งแต่ผมยังเรียนนู่นเลยมัธยม
ตอนนั้นสมาคมเคยใช้วิธีหลอกแฟนบอลด้วยการเปลี่ยนชื่อถ้วย ก.หรือลีกสูงสุดของไทยเป็นเซมิ โปรลีกที่มีความหมายเป็นกึ่งอาชีพ
นัดเปิดสนามผมจำได้ลางๆเป็นทหารอากาศทีมในขวัญใจของแฟนบอลไทยในยุคนั้นกับทีมอะไรซักทีมที่สนามศุภชลาศัย แฟนบอลหนาตาเพราะถูกเกณฑ์มากันเพียบ มีการเอามาสค็อตมาโชว์
หมดนัดเปิดสนามทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ นัดต่อๆมาคนดูโหรงเหรงเพราะบอลมันเตะสนามกลาง ทีมก็ไม่ใช่ทีมในท้องถิ่น จะไปตากแดดแหกปากเชียร์จนเสียงแหบมันก็ใช่เรื่อง
แต่บอลไทยยุคนี้มันไม่ใช่แล้วครับ ผมขอเป็นตัวแทนแฟนบอลไทยทุกคนกราบเท้า AFC สหพันธ์ฟุตบอลเอเชียที่ออกกฏข้อบังคับให้สโมสรในไทยต้องจดทะเบียนและมีสนามเป็นของตัวเองหาไม่แล้วหมดสิทธิ์ลงแข่งขันในรายการของ AFC (ส่วนสีสันของกองเชียร์ต้องยกนิ้วให้ชลบุรีที่ทำไว้เป็นตัวอย่างทีมแรก)
บอลลีกไทยบูมจนหลายชาติให้การจับตามองไม่ใช่เพราะฝีมือของสมาคมไทยนะครับ อย่าลืม โปรดจำเอาไว้เพื่อบอกต่อให้ลูกหลานเราฟังด้วยเพราะระบบง่ายๆเบสิกโคตรๆอย่างการตั้งสโมสรในแต่ละจังหวัดของตัวเองที่หมาแมวยังรู้แต่ท่านวิจิตร เกตุแก้วอดีตนายกฯคิดไม่ได้หรือคิดได้แต่ไม่ยอมทำ
ปล่อยเวลาผ่านมา 10 ปี 20 ปีนักฟุตบอลในตำนานหลายคนแก่หง่อมไม่เคยได้สัมผัสกับฟุตบอลในระดับสโมสรของไทยอย่างถึงพริกถึงขิงเหมือนทุกวันนี้
วันพุธที่ 24 มีนาคม 2553 คือวันแรกที่ผมได้สัมผัสกับเกมฟุตบอลลีกระดับสโมสรในเมืองไทยหลังก่อนหน้านั้นตามเชียร์ทีมชาติบ้างเป็นครั้งคราวและลงท้ายด้วยชัยชนะของบางกอก กล้าสเหนืออินทรีเพื่อนตำรวจ 1-0
บรรยากาศในสนามไม่ต้องพูดถึงนะครับ คนละเรื่องกับสมัยตอนผมยังเรียนอยู่มาก บอลอาชีพนี่แหละครับผมว่าสร้างอาชีพได้อีกมากมายมหาศาลไล่ตั้งแต่พนักงานทำความสะอาด,พนักงานขายตั๋ว,รปภ.,โอเปอร์เรเตอร์,คนดูแลสนาม,สต๊าฟทีมฟุตบอลและเมนหลักเลยคืออาชีพนักฟุตบอลที่ทำให้คนไม่ต้องตกงานนับร้อยๆเพราะพวกเขาเหล่านี้ผันมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แฟนบอลจ่ายค่าตั๋วซื้อของที่ระลึก สโมสรเอาเงินพวกนี้มาจ่ายเงินเดือนกลายเป็นห่วงลูกโซ่
ก่อนหน้านี้ผมชั่งใจหาทีมเชียร์อยู่ 1 ฤดูกาล มองหาจุดเปลี่ยนหาเหตุผลให้ตัวเองแล้วค่อยๆตัดออกทีละสโมสร
ปีก่อนผมมีตัวเลือกอยู่ 3 คือเมืองทอง,ทีโอทีและบางกอก กล้าส แต่ละทีมที่กล่าวมาอยู่ในย่านแถวบ้านผมทั้งหมดมี BG ที่อยู่ไกลออกมาด้านนอกเมืองในขณะที่กิเลนผมใช้เวลาเดินทางถึงสนามแค่ 10 นาที
เพื่อนผมในย่านนั้นเชียร์เมืองทองกันหมดแต่ผมตัดชื่อกิเลนทิ้งทีมแรกเพราะเป็นเหตุผลที่ส่วนตัวเอามากๆนั่นคือมีคุณระวิซึ่งเป็นค่ายสยามกีฬาเป็นเจ้าของ แฟนๆเมืองทองฟังแล้วอย่าหมั่นไส้ผมนะครับ ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ หุหุ
ผมจึงเลือกเชียร์ทีโอที(แต่เชียร์แค่ผลการแข่งขัน ไม่ได้ตามข่าว) แต่จากความไม่แน่นอนของทีมที่มีข่าวจะย้ายไปนู่นไปนี่ประกอบกับยังไม่มีสนามหรืออะไรก็ตามที่ที่แสดงออกถึงจุดขายในทีมทำให้ผมยังไม่เทใจให้
จนท้ายที่สุดมาตามข่าว BG ที่สมาชิกมาโพสต์ในบอร์ด SS ทั้งภาพสนามลีโอ สเตเดียมและความเคลื่อนไหวไล่ตั้งแต่ปูหญ้าเทียม,ไฟสนาม,ป้ายโฆษณา LCD,อัฒจันทร์ 3 ชั้น
แถมท่านปวิณเจ้าของทีมบอกถ้ากระแสฤดูกาลนี้ดีจะสร้างอีกฝั่ง ผมได้ยินแล้วนี่มันอากู๋โรมัน อับราโมวิชชัดๆ
แต่ละสโมสรพัฒนาแล้วผมก็อยากฝากถึงสมาคมฟุตบอลว่าควรวิ่งตามให้ทันด่วนเลยนะครับ พวกกฏกติกาเขียนให้ครอบคลุมอย่ามาประกาศหลังเกิดเหตุการณ์หรือตัดสินลงโทษเป็นวันๆไป
ถ้าไม่คิดจะพัฒนาล่ะก็ยิ่งแต่ละสโมสรเป็นมืออาชีพมากแค่ไหนความเป็นมือสมัครเล่นของสมาคมจะโผล่ออกมาให้เห็นมากขึ้นเท่านั้น
ทีนี้ในส่วนของแฟนบอลไทยก็ควรเปลี่ยนทัศนะคิตกับคนดูบอลนอกเช่นกัน อย่าพยายามประชดประชันว่าคนพวกนี้ไม่รักชาติ อย่าไปด่าเค้าว่าบ้าของนอกไม่เหลียวแลของไทย
ผมมองตัวเองเป็นบรรทัดฐาน...ถ้าของดีจริงคนจะไขว่คว้าตามหามันเอง นำเสนอข้อมูลแล้วให้พวกเค้าตัดสินกันเอง ไปด่าไปประชดทำให้พวกเขาเหล่านี้รู้สึกแง่ลบเหมือนที่ผมเคยรู้สึกมาก่อนมันไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
ผมเองก็ไม่เคยคิดหรอกครับว่าชีวิตนี้จะเสียเงินให้กับบอลระดับสโมสรของไทยแม้แต่บาทเดียว
แต่นี่โดนไปถึง 3,300 บาทเพื่อแลกกับตั๋วปีในเกมเหย้าแถมยังโดนไปอีกนับพันจากของที่ระลึกซึ่งทำออกมาล่อใจเด็กเพิ่งได้ของเล่นใหม่อย่างผมในวันเปิดสนามกับเพื่อนตำรวจอีก
ดึงคนมาดูบอลไทยด้วยแนวทางแห่งสันติวิธีดีกว่าครับผม...
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee