จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ตกข่าวฉาวอีกครั้ง เมื่อ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ขับรถยนต์ แรนจ์ โรเวอร์ คันงามของตัวเอง ชนพนักงานรักษาความปลอดภัยจนขาหัก บริเวณข้างนอกสนาม หลังจากจบเกมที่ เชลซี แพ้ให้กับ อินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงศึกกัลโช่ เซเรีย อา 0-1 คารังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของ เว็บไซต์ โกลด็อตคอม
เว็บไซต์กีฬาชาวอังกฤษ เปิดเผยว่า จอห์น เทอร์รี่ ถูกตำรวจอังกฤษสอบสวน และ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ภายหลังจากที่ทีมเชลซี ตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า เกิดอุบัติเหตุขึ้นในวันนี้ และ เมื่อไปถึง กัปตัน “เจที” ก็ไม่อยู่แล้ว หลังจากที่ขับรถชนเจ้าหน้าที่ของสโมสรจนบาดเจ็บ
” ทางตำรวจได้รับโทรศัพท์เมื่อเวลา 23.13 น. ในวันพุธที่ 16 มีนาคม จากสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์ และ คนที่เดินเท้า รถพยาบาลประจำกรุงลอนดอน พร้อมกับตำรวจ ไปถึงที่เกิดเหตุ และ เห็นชายวัย 35 ปีนอนบาดเจ็บบริเวณที่ เนื่องจากถูกรถยนต์คันใหญ่ พุ่งชนถึงขั้นขาหัก ก่อนที่ ชายคนดังกล่าว จะถูกนำส่งโรงพยาบาลทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ซึ่งตอนนี้อาการของเขาดีขึ้นแล้ว ส่วนคนขับเจ้าของรถขับเคลื่อนสี่ล้อสีดำนั้น จะยังไม่มีการเข้าจับกุมแม้จะมีการสืบสวนไปแล้วก็ตาม ” ตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าว.
ล่าสุด ฟิล ฮอลล์ โฆษกประจำตัวของ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง แต่ทาง เทอร์รี่ นั้นไม่ได้ตั้งใจให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่าง
” ตอนที่ เทอร์รี่ ขับรถออกจากที่จอดรถ เขาถูกรายล้อมไปด้วยบรรดานักข่าว หลังจากนั้น หน่วยรักษาความปลอดภัยก็โบกมือให้เขาขับรถผ่านไปได้ โดยตอนนั้นเขาไม่ได้ขับเร็วอะไรมาก โดยมีแฟนบอลบางกลุ่มที่ เข้ามาไล่พวกนักข่าวออกไปให้พ้นทาง โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เทอร์รี่ มารู้เรื่องตอนที่ เขาได้รับโทรศัพท์จากสโมสรหลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเขาสมัครใจที่จะไปที่สถานีตำรวจทันที พร้อมกับ ถูกตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในช่วงเวลาราว 1.30 น.” ฟิล ฮอลล์ กล่าว.
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันพุธ จอห์น เทอร์รี่ ได้โทรศัพท์ไปขอโทษเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว