ยัดห่วงไทยกร้าวเบิ้ลทองซีเกมส์

คว้า 2 เหรียญทองจากซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา ปลายปีนี้ โดยทีมหญิงมั่นใจทางใส ยิ่งถ้าได้โค้ชนอกมาติวเข้ม รับรองถึงแชมป์ไม่ยาก

ส่วนทีมชายที่เคยหวังแค่เข้าชิง แต่หนนี้มีลุ้นหยิบเหรียญทอง เหตุคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ตากาล็อก ฟิลิปปินส์ ยังติดโทษแบน ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันแบบไร้กำหนดจากสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ

นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมยังไม่ได้เริ่มเก็บตัวนักกีฬาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะแข่งขันระหว่างวันที่ 6-15 ธันวาคม เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเก็บตัวนักกีฬา แต่ก็เตรียมจัดการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน ก เพื่อให้นักกีฬาทดสอบฝีมือ ขณะเดียวกันสมาคมก็จะใช้รายการนี้คัดตัวนักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ครั้งนี้ด้วย

นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งเป้าจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้า 2 เหรียญทองจากทีมชายและทีมหญิง ในส่วนของทีมชายนั้นเมื่อก่อนไทยตั้งเป้าแค่เข้าชิงชนะเลิศ เนื่องจากมีฟิลิปปินส์ เป็นคู่ปรับสำคัญแย่งเหรียญทอง แต่ครั้งนี้ทีมฟิลิปปินส์ไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะยังติดโทษแบนห้ามส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ สาเหตุจากปัญหาภายในประเทศที่ยังไม่เคลียร์กรณีมีสมาคมบาสเกตบอลถึง 2 สมาคมด้วยกันจนถึงปัจจุบัน

ทีมชาย เมื่อไม่มี ฟิลิปปินส์ เราก็น่าจะชิงกับ อินโดนีเซีย ส่วน มาเลเซีย เราไม่กลัวเขาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราสามารถชนะเขาทุกครั้ง

นายสุเทพ กล่าวว่า มั่นใจว่าถึงแชมป์ และยิ่งถ้าได้โค้ชชาวเกาหลีใต้ ซึ่งสมาคมทำเรื่องของบสนับสนุนเรื่องค่าจ้างจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มาคุมทีมไทย ยิ่งมั่นใจมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาทีมไทยยังอ่อนเรื่องการเปลี่ยนตัว เทคนิค และแก้เกมไม่เก่ง

โดยเฉพาะการแก้เกม ถ้าไทยแพ้ 1 หรือ 2 คะแนน แสดงว่าฝ่ายตรงข้ามแก้เกมเก่งกว่า เรื่องนี้สำคัญมากหากต้องการคว้าแชมป์และพัฒนานักกีฬาไทย ซึ่งขนาดทีมจีนยังจ้างโค้ชชาวรัสเซียมาคุมเลย

การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 8-18 สิงหาคม ว่าสมาคมยังไม่ได้รับนโยบายว่าจะให้เตรียมนักกีฬาเข้าร่วมด้วย แต่ถ้าให้สมาคมรับผิดชอบก็คงจะใช้นักกีฬาชุดเดียวกับซีเกมส์ ซึ่งมีไม่กี่คนที่ลงแข่งไม่ได้ แต่หากให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ สมาคมก็คงจะไม่ปล่อยตัวนักกีฬาไปแข่ง เพราะต้องการเก็บตัวนักกีฬาไว้สำหรับซีเกมส์ที่ใกล้แชมป์มากกว่า

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก