กลายเป็นบอลแพ้ทางไปซะแล้วเมื่อหงส์แดงลิเวอร์พูลต้านทานเกมรุกของอาร์เซนอลไว้ได้ 62 นาทีก่อนเจอดิยาบี้โขกตุงเอาชนะ 1-0 ปลดล็อก 3 แต้มแรกในรอบ 4 นัดตามหลังเชลซีที่แพ้พลิกล็อกแค่ 6 แต้มเท่านั้น
พรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553
อาร์เซนอล 1-0 ลิเวอร์พูล
ประตู : 1-0 ดิยาบี้ น.62
ครึ่งแรก
ทีมเยือนเริ่มดีมีชัย
ลิเวอร์พูลเริ่มเกมดีกว่าตามสไตล์อีกแล้วเพราะเคาะบอลทำชิ่งในแดนอาร์เซนอลในช่วง 3-4 นาทีแรกและน่าจะคลายจังหวะกลายมาเป็นฝ่ายตั้งรับในเร็วๆนี้เหมือนเคย
หงส์-ปืนแลกหมัดฟรีคิก
นาทีที่ 5 มักซี่เจอเฟอร์มาเลนเข้าจากด้านหลังลูกกลางอากาศเลยเสียฟรีคิกตรงปีกขวาแล้วเป็นเจอร์ราร์ดปั่นครอสเข้ามาในฝูงแข้งทั้งสองทีมที่ยืนออกันอยู่ตรงระยะ 7-8 หลาเป็นเอ็นก็อกหวดจั่วลมบอลลอยละลิ่วจนอัลมูเนียบินคว้ารอดตัวกันไป
แต่นาทีเดียวต่อมาเอบูเอ้เจอมักซี่สอยตรงปีกขวาบ้างคราวนี้เป็นเชสก์ปั่นให้กัลลาส์โขกเต็มๆกบาลตรงระยะ 8 หลาบอลลอยโด่งข้ามคานเสียวกันทั้งสนาม
อาร์ชาวินย่ำลูคัสแต่ไม่เจ็บ
นาที 14 อาร์ชาวินเข้าบอลช้ากว่าลูคัสเลยย่ำเปิดปุ่มใส่ข้อเท้าจนแข้งทีมชาติบราซิลอ้าปากร้องโหยหวนแต่แป๊บเดียวก็ลุกมาเล่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หงส์รับมือปืนอยู่หมัด
ผ่านมาแล้ว 20 นาทีแม้อาร์เซนอลเริ่มเก็บบอลครองบอลได้มากขึ้นแต่เกมรับของหงส์แดงยังเอาอยู่ทุกกระบวนท่าและดูเหมือนลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์กำลังมึนๆเพราะเจอเชลซีและแมนฯยูไนเต็ดเจอสวนเป็นเข้าแต่คราวนี้ระมัดระวังตัวประกอบกับแนวรุกของทีมเยือนไม่น่ากลัวนักทำให้โอกาสของเกมนี้แทบไม่มีกันเลยทีเดียว
หัวขิงหงุดหงิดโวยลูกทีม
เจอร์ราร์ดดูท่าไม่ค่อยสบอารมณ์เพราะจังหวะที่สวนกลับยกมือขอบอลแต่มักซี่ดันจะไปให้เอ็นก็อกเลยติดบล็อกอีกครั้งเป็นตอนที่ชี้ให้เคาท์ค่อยๆเคาะตอนสวนแต่แข้งไตรกีฬาดันจ่ายขนานเส้นปีกขวาแล้วเจอร์ราร์ดไม่ได้วิ่งเลยโวยแหลก
เบนด์เนอร์เกือบปลดล็อก
นาที 26 อาร์ชาวินล้มลุกคลุกคลานก่อนจิ้มบอลให้เบนด์เนอร์วิ่งมาซัดเต็มๆในกรอบบอลติดไซด์ปลิ้นข้ามคานออกไปแบบน่าเข้าสุดๆ
มักซี่หวิดยิงลูกแรกให้หงส์
อีก 4 นาทีต่อมาหงส์แดงน่าขึ้นนำสุดๆหลังลูกบอมบ์ยาวเข้าในเขตโทษเป็นแนวรับอาร์เซนอลสกัดไม่ดีมาเข้าทางมักซี่ที่วิ่งมาซัดเต็มข้อบอลแฉลบตัว+แขนเฟอร์มาเลนเฉี่ยวคานจนแข้งอาร์เจนไตน์ชูมือจะเอาจุดโทษแต่ได้แค่เตะมุมเท่านั้น
เกมชวนง่วงสุดๆ
เกมอึดอัดน่าเบื่อสุดๆเพราะลิเวอร์พูลไม่ได้โหมบุกอะไรมากทำให้ตอนอาร์เซนอลสวนนี่เจอแต่ตัวรับทั้งนั้นทำให้เกมครึ่งแรกแทบไม่มีอะไรให้น่าจดจำแม้แต่นิดเดียว
สวนแล้ว!เชสก์ลากเดี่ยวยิงติดเซฟ
นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลได้บอลบุกอยู่ดีๆเคาท์ทำเสียตรงปีกขวาก่อนเจอฉกแล้วเชสก์ลากโซโล่เดี่ยวจากแดนตัวเองพาทัวร์ 2-3 คนก่อนซัดหน้าเขตโทษบอลเลียดเข้ามุมแต่ไม่แรงมากทำให้เรน่าล้มตัวรับติดหนึบ หมดครึ่งแรกเสมอกันแบบขรึมๆ 0-0
ครึ่งหลัง
นี่มันคลิปลูคัสตอนอยู่เกรมิโอชัดๆ!!!
เล่นมา 3 นาทีทีมเยือนได้ลุ้นสุดๆจากจังหวะที่คลิชี่ตัดบอลตรงหน้าเขตโทษแล้วล็อกหนีมักซี่แล้วติดใจจะหลอกเจอร์ราร์ดอีกคนเลยถูกตัดก่อนที่เดิร์ก เคาท์จะมาเก็บตกแล้วไหลด้วยข้างเท้าให้ลูคัสวิ่งเติมแตะกระชากเข้าเขตโทษหนีดิยาบี้ที่สไลด์จั่วลมก่อนตะบันเต็มตีนในกรอบบอลพุ่งข้ามคานออกไป ถ้าเข้านี่รับรององครักษ์ทั้งหลายเอาไปโม้ 7 วัน7 คืนข่มแน่นอน
ก็อกหลุดเดี่ยวยิงไม่เข้า
นาที 53 ลูกสวนกลับเกือบทำอาร์เซนอลพังหลังเจอร์ราร์ดพาบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองก่อนไหลทะลุฝ่าคู่เซนเตอร์ให้เอ็นก็อกกระชากหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงช้าเฉื่อยทำให้ซัดไปติดขากัลลาส์ที่วิ่งสไลด์บล็อกมาจากด้านหลัง จังหวะนี้อย่างน้อยต้องมียิงให้อัลมูเนียเซฟแล้ว
เกมสนุกแล้วเบนด์เนอร์เกือบซัดนำ
อีก 2 นาทีต่อมาเจ้าถิ่นน่าจะขึ้นนำเหลือเกินหลังเบนด์เนอร์กระชากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วพยายามแยงบอลทะลุให้เพื่อนแต่ไปถูกขาแอกเกอร์กลายเป็นทำชิ่ง 1-2 เลยหลุดเข้าเขตไปยิงสวนเรน่าที่ปรี่ออกมาปิดมุมยังดีที่บอลติดแขนแล้วแอกเกอร์มาตามเคลียร์ทิ้งออกข้างไปก่อน
แป้งซัดเกือบหาย
นาที 65 ลิเวอร์พูลเกือบพังหลังคลิชี่เปิดบอลเลียดจากกรอบโทษฝั่งซ้ายให้อาร์ชาวินที่จับไม่ดีโดนส้นบอลปลิ้นไปเข้าทางเบนด์เนอร์ที่หันหลังอยู่เล่นไม่ได้เลยไหลตั้งให้โรซิคกี้วิ่งมาซัดเต็มๆบอลข้ามคานน่าเข้าสุดๆ
ปืนเริ่มขึงเกมแล้ว
ตอนนี้เกมเป็นของอาร์เซนอลเกือบๆข้างเดียวโดยเปอร์เซนต์การครองบอลอยู่ที่ 85-15 เลยทีเดียวและนาที 67 อาร์แซน เวนกอร์ส่งวัลค็อตต์มาแทนอาร์ชาวินที่วันนี้แทบไม่มีบทบาทกับเกมเลย สงสัยกะใช้ความเร็วเจาะริมเส้นเพราะเห็นจุดอ่อนอะไรบางอย่างของฝั่งลิเวอร์พูล
ดิยาบี้โขกเหน่งๆไม่เหลือ 1-0
แต่แล้วนาที 72 อาร์เซนอลซึ่งพยายามเปิดบอลจากด้านข้างมาตลอดก็าเร็จผลคราวนี้เป็นเบนด์เนอร์ที่ถ่ายออกริมกรอบโทษให้โรซิคกี้วิ่งมาเปิดจังหวะเดียวเป็นดิยาบี้วิ่งสอดมาโขกคนเดียวไร้ตัวประกบแค่ 6 หลาตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 1-0 แล้ว
หงส์ลุยแหลก
พอเสียประตูราฟาเปลี่ยนเอาบาเบิ้ลมาแทนเลว่าทันทีโดยดันเคาท์ไปเล่นหน้าคู่เอ็นก็อกแล้วให้มักซี่มาเล่นปีกขวาและเกมของหงส์แดงหันมาบุกลุยเต็มสูบจนเวนเกอร์ต้องส่งซาญ่ามาแทนเบนด์เนอร์ในช่วง 8 นาทีสุดท้าย
บาเบิ้ลยิงไกลถูกปัด
ก่อนหมดเวลา 4 นาทีบาเบิ้ลเกือบกลายเป็นซูเปอร์ซับหลังพลิกบอลที่เพื่อนจ่ายมาให้ตรงหน้าเขตโทษก่อนตะบันเต็มๆบอลกำลังจะเข้าอยู่แล้วแต่อัลมูเนียบินปัดปลายมือข้ามคานสุดอลังการงานสร้าง
มักซี่ได้ซัดแต่เบา
นาที 88 ลูกเตะมุมของทีมเยือนถูกเคลียร์ทิ้งออกมาก่อนที่สเคอร์เทลจะสาดมาที่เสาสองก็ยังถูกสกัดอีกแต่คราวนี้มาเข้าทางมักซี่ที่พลิกตัวหมุนยิงในกรอบแต่บอลโดนไม่เต็มเลยเข้ามืออัลมูเนียซะงั้น
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้,โธมัส เฟอร์มาเลน,กาเอล คลิชี่,เชสก์ ฟาเบรกัส,อเล็กซานเดอร์ ซง,วาสซิริกิ ดิยาบี้,ซาเมียร์ นาสรี่(โรซิคกี้ น.34),นิคลาส เบนด์เนอร์(ซาญ่า น.82),อังเดร อาร์ชาวิน(วัลค็อตต์ น.67)
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์(เดเก้น น.54),มาร์ติน สเคอร์เทล,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว,ลูคัส เลว่า(บาเบิ้ล น.78),ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มักซี่ โรดริเกซ,ดาวิด เอ็นก็อก













ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว