'ฟรีคิกลวงตา' ของจูนินโญ่ทำงานอย่างไร !?
เวลาคอบอลอย่างเรา ๆ ดูคลิปการยิงฟรีคิกของตัวเตะระดับจอมเทพก็ได้อรรถรถและความเพลิดเพลินไม่แพ้การทำประตูในรูปแบบอื่น ๆ เลยนะครับ
ปฏิเสธไม่ได้ซะด้วยสิว่าหลายต่อหลายครั้ง, หลายต่อหลายแมตช์ลูกเซ็ตพีซโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'ลูกสังหารฟรีคิก' ได้กลายเป็นพระเอกรูปหล่อขี่ม้าขาวมาช่วยให้ทีม 'ได้รับชัยชนะ' หรือ 'รอดพ้นวิกฤติ' ไปได้
แต่จะว่าอย่างนั้นก็คงไม่ถูกซะทีเดียว หากนับถือ 'ลูกยิงฟรีคิก' เป็นพระเอกแล้ว คนที่ยิงมันออกมานั่นล่ะสมควรได้รับการยกย่องว่าเป็น 'พระเอกตัวจริง' !!! ฮ่า ๆ บอกได้เลยว่าสิ่งนี้เป็น 'ออปชั่นเสริม' ให้นักเตะคนนึงดูมีเสน่ห์และมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมา
จอมสังหารฟรีคิกระดับฮีโร่มีมากหน้าหลายตาในโลกาแห่งนี้ แต่จะมีซักกี่คนกันที่มี 'ลักษณะลูกยิง' พิเศษไปกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้า ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนที่ยิงได้ราวกับเป็นตัวละครที่ออกมาจากหนังสือการ์ตูน
วันนี้ผมขออาสาไขความลับลูกฟรีคิกสุดพิสดารของจูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่เจ้าพ่อลูกนิ่งระดับท็อปทรีของวงการลูกหนังยุคปัจจุบันซักหน่อย
ท่านที่ทราบอย่างถ่องแท้แล้วผ่านไปเลยนะครับ เอามาฝากสำหรับท่านที่สนใจหรือท่านที่อยากนำไปขัดเกลาฝึกฝนเพื่อเพิ่มอานุภาพการสังหารลูกนิ่งของตัวเอง
ปกติทั่วไป...เวลาคนเราเตะบอล แนววาดวงสวิงขากระทบลูกบอลมักเป็นไปตามธรรมชาติของสรีระมนุษย์ คนเตะด้วยขวาก็สวิงไปทางซ้าย คนเตะด้วยซ้ายก็สวิงไปทางขวาโดยอัตโนมัติ
แต่การยิงลูก 'นัคเคิ่ลชู้ต' (knuckle shoot) แบบจูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่หรือคริสติอาโน่ โรนัลโด้นั้นต่างกัน !!!
หลักการง่าย ๆ แต่ปฏิบัติจริงไม่ง่ายยังวนเวียนอยู่ที่ลักษณะการวาดวงสวิงขานี่ล่ะ จุดที่เท้ากระทบลูกได้กลายเ็ป็นปัจจัยรองลงไป เท้าส่วนที่ contact หรือสัมผัสปะทะลูกกลม ๆ ไม่ได้ต่างไปจากการยิงแบบปกติเท่าไรนัก
ลูกชู้ตมายานี้จะสมบูรณ์และมีอำนาจทำลายล้างสมใจจอมตะบันได้ก็ด้วยขั้นตอนสำคัญหลังจากที่หลังเท้ากระทบลูกไปแล้วที่เรียกว่า 'ฟอลโล่ว์ ทรู' (follow through) หรือ 'การส่งแรงขับ' นั่นเอง
ดังที่ได้เรียนไปแล้วว่าวงสวิงตามธรรมชาติของขาคนเรานั้นมักปัดไปในทิศทางของขาข้างที่ไม่ถนัด ซึ่งเป็นหลักการเตะบอลทั่วไป แน่นอน 100 % ว่า 'ฟอลโล่ว์ ทรู' ย่อมมีหลักการเหวี่ยงตามแรงขับเคลื่อนธรรมชาตินี้เช่นกัน แต่สำหรับลูกนัคเคิ่ลชู้ตนี้เราต้องมีการ 'ฝืนธรรมชาติ' ของฟอลโล่ว ทรูกันซักเล็กน้อย
คีย์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในหลักการยิงฟรีคิกทุกรูปแบบคือ 'การวิ่งเพื่อสร้างแรงส่ง' อันนี้ทุกท่านทราบกันดี และไอ้เจ้าลูกนัคเคิ่ลชู้ตนี้ก็ไม่ต่างกัน
เคล็ดลับการวิ่งสร้างแรงส่งของลูกชู้ตเริ่มที่ 'ตำแหน่งยืน' ที่ต้องเน้นถอยออกห่างจากลูกบอลไปทางด้านหลังใน 'แนวตรง' เป็นพิเศษ มันดูแตกต่างออกไปเมื่อคุณมองดูการวิ่งมาปั่นไซด์โค้งจากด้านข้างแบบซินิซ่า มิไฮโลวิชหรือเดวิด เบ็คแค่มอยู่บ่อย ๆ ใช่มั้ยล่ะ ? ฮ่า ๆ
มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงเริ่มร้องอ๋อกันแล้วสินะ...แน่นอนครับ การวิ่งเข้าหาลูกบอลซึ่งสร้างแรงส่งจากตำแหน่งสตาร์ทที่ 'จอมสังหาร' ยืนอยู่ในตอนแรกย่อมเป็น 'การส่งแรงขับ' ในแนวตรงซึ่งส่งผลช่วยไปถึงการวาดวงสวิงเป็นแนวตรงในขั้นตอนต่อมา
และที่ขาดไม่ได้ การ 'ฟอลโล่ว์ ทรู' หลังจากที่ 'หลังเท้า' กระทบกลางลูกตลอดจนทะยานออกจากการควบคุมแล้วก็ต้องเป็นแนวตรงเช่นกัน ก่อนสังหารลูกนัคเคิ่ลต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าถ้าวงสวิงขาปัดไปด้านขาหลักที่ประทับอยู่ข้างลูกบอลเมื่อไหร่ความล้มเหลวก็ดำเนินไปกว่าครึ่ง นอกจากนี้ประสิทธิภาพพลังทำลายล้างขึ้นอยู่กับ 'กำลังขา' +ความแกร่งของ 'ข้อเท้า' เป็นสำคัญด้วย
ลูกยิงลักษณะนี้เรียกว่า non-spin ball หรือ 'บอลที่ไม่มีการหมุนปั่น' บอลจะพุ่งฝ่าอากาศและส่ายสะบัดไปมาเนื่องจากมันพุ่งปะทะชั้นบรรยากาศของโลกและรับอากาศไว้อย่างเต็มที่ นับเป็นฝันร้ายที่นายทวารทุกคนไม่อยากเจอะเจอ หากชกพลาดรับพลาดไปแม้แต่องศาเดียวอาจแฉลบปลิ้นเข้าประตูไปชนิดที่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวตอนเดินออกจากสนาม มันสร้างความเสียหายใหญ่หลวงทั้งในเชิง 'การเสียประตู' และ 'การสูญเสียความมั่นใจของผู้รักษาประตู' โดยแท้จริง
เมื่อรวมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตลูกหนังสมัยใหม่ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบาลงเข้าไปด้วยแล้วบรรดาจอมสังหารต่างพากันลูบปากเป็นแถวเลยทีเดียว
ท่านใดอยากยิงได้อย่างจูนินโญ่...ท่องเอาไว้สั้น ๆ ง่าย ๆ 'วิ่งเข้าหาบอลให้ตรง' 'วาดวงสวิงขาให้ตรง' 'ฟอลโล่ว์ ทรูให้ตรง' 'ซัดให้โดนตรงกลางลูก' เท่านั้นเอง ผมรู้คุณทำได้ !!!
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
