ตามต่อ!ราชันอัดนกแก้วดิ้น3-0สบายๆ
ทั้งเกมส์แทบจะนับครั้งที่เห็นหน้าคาซิยาสได้ เพราะเรอัล มาดริดบุกอยู่ข้างเดียว ก่อนที่จะเอาชนะเอสปันญ่อลไปได้อย่างไม่ยากเย็น 3-0 กลับมาตามจ่าฝูงบาร์ซ่าเหลือ 5 แต้มเท่าเดิม
ลาลีกา
วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553
เรอัล มาดริด 3 - 0 เอสปันญ่อล
ประตู : 1-0 รามอส น.5,2-0 กาก้า น.30,3-0 ฮิกวาอิน น.90
ทางราชันชุดขาวยังคงขาดตัวหลักของทีมอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่ยังคงติดโทษแบนอยู่เช่นเดิม จากสถานการณ์ที่บาร์ซ่าเก็บ 3 คะแนนไปได้แล้วก่อนพวกเขา ทำให้มาดริดจะต้องเน้นชัยชนะเท่านั้นในเกมส์นี้ หากไม่อยากโดนทิ้งห่างในการลุ้นคว้าแชมป์
ครึ่งแรก
นำแล้วจ้า
เริ่มเกมส์ได้ไม่ถึง 5 นาที เรอัล มาดริดก็ออกนำไปก่อนอย่างสบายแฮ หลังจากได้ฟรีคิกทางฝั่งขวาของสนาม กราเนโร่รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามา เจ้าตัวตั้งสมาธิจ้องเขม็งไปที่รามอสที่รออยู่ในกรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงปั่นด้วยขวา รามอสเหมือนรู้งานวิ่งไปโฉบโหม่งบอลก่อนที่กองหลังของทีมเยือนจะสกัดได้ทัน บอลพุ่งไปเสาสองหมดสิทธิ์ที่กาเมนี่จะเซฟได้ ชุดขาวออกนำตั้งแต่ไก่โห่ 1-0
เจ้าถิ่นกดดันต่อเนื่อง
แม้จะได้ประตูขึ้นนำแล้ว แต่ทางมาดริดยังวางใจไม่ได้ ยังคงทำเกมส์บุกใส่เอสปันญ่อลอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้ แม้จะพาบอลไปถึงหน้าประตูของทีมเยือนอยู่เนือง ๆ ก็ตาม
เกมส์ข้างเดียว
เล่นกันจนลืมคาซิยาสกันไปเลย เพราะมาดริดแทบจะบุกข้างเดียว แต่ก็ยังไม่สามาถยิงประตูเพิ่มได้ โดยโอกาสล่าสุดก็มาจากรามอสคนเดิมที่ได้เทคตัวขึ้นโหม่งในจังหวะเหมือนกับที่ได้ประตูแรกเป๊ะ แต่คราวนี้ทิศทางไม่เฉียบเหมือนตอนแรกทำให้บอลออกข้างไป
กาก้า้มาแว้ววววววววววว
จะไส้เลื่อนหรืออะไรก็ช่าง แต่คราวนี้กาก้าไม่มีพลาด หลังกราเนโร่โชว์การเปิดอีกครั้ง โยนบอลเข้าหัวราอูลที่รออยู่ตรงกลางกรอบเขตโทษ โหม่งเล่นทางไปฝั่งซ้านมือของกาเมนี่ แต่มือกาวเอสปันญ่อลโคตรไว กระโดดปัดออกไปได้ แต่ยังไม่พ้นเพราะกาก้าวิ่งตามเข้ามากระโดดวอลเล่ย์แม้จะไม่เต็มเท้าเท่าไร แต่บอลก็พุ่งข้าเสาสองไป เรอัล มาดริดออกนำห่าง 2-0 แล้ว
กาเมนี่อยากตาย
กลางกับหลังยิ่งเล่นยิ่งเละ ทำเอาผู้รักษาประตูของเอสปันญ่อล กาเมนี่ต้องออกมาโวยเพื่อนหลายครั้งหลายครา แต่เหมือนโวยไปก็เท่่านั้น เพราะโวยได้ไม่ต้องเท่า เจ้าตัวก็ต้องเป็นคนออกมาเคลียร์บอลที่เพื่อนร่วมทีมปล่อยให้หลุดเข้ามาง่าย ๆ ซะอย่างนั้น
ราอูลขวิดเสียว
เกือบบวกประตูที่ 3 ให้ทีมแล้วสำหรับกัปตันทีมราอูล หลังได้โหม่งเต็ม ๆ จากลูกเปิดของกาก้าทางฝั่งขวา บอลกำลังจะเสียบใต้คาน แต่กาเมนี่เหินปัดออกหลังไปได้อย่างสวยงาม และเหมือนก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ลุกมาโวยเพื่อนอีกว่าทำไมถึงทำให้งานเข้าเยอะขนาดนี้
กาเมนี่ตลอดศก
กระโดดเซฟจนสีข้างถลอกหมดแล้วสำหรับกาเมนี่ โดยเริ่มจากจังหวะแรกที่กราเนโร่ ฟรีคิกจากระยะ 25 หลา บอลโค้งเข้ากรอบ กาเมนี่พุ่งปัดออกหลังไปได้
ต่อเนื่องด้วยการเปิดเตะมุมเข้ามาของกูตี ผู้เล่นมาดริดโฉบไปโหม่งที่เสาแรก บอลพุ่งแรงกำลังจะเสียบเสาสอง แต่กาเมนี่จะเซฟพรุ่งปัดออกไปได้อีก ก่อนที่เบนเซม่าจะซ้ำข้ามคานออกไป เหนื่อยใจแทนผู้รักษาประตูนกแก้วคนนี้ไม่น้อย
จบ 45 นาีที เรอัล มาดริดพับสนามบุกข้างเดียว ออกนำเอสปันญ่อลไป 2-0 โดยมีโอกาสเพียบในครึ่งแรก แต่ไม่ผ่านมือกาเมนี่ไปได้
ครึ่งหลัง
นกแก้วไ้ด้ลุ้นบ้าง
นึกว่าจะไม่ได้ลุ้นทำประตูบ้างซะแล้วสำหรับทางทีมเยือน โดยได้โอกาสจากอีบัน อลอนโซ่ที่ได้โอกาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย ดวลเดี่ยวกับคาซิยาส แต่ยิงไปติดเซฟของมือกาวทีมชาติสเปน
กาก้าซัดชนเสา
เกือบได้ประตูที่ 3 อีกครั้งสำหรับทางเรอัล มาดริด หลังกาก้าได้บอลในกรอบเขตโทษ แม้จะจับยาวไปนิด แต่ก็ยิงหักข้อไปเสาแรกได้ กาเมนี่โดนบังอยู่่ทำให้พุ่งไปเซฟไม่ทันแน่นอน แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาเด้งออกมา ก่อนที่กองหลังของเอสปันญ่อลจะเคลียร์ออกไปได้ น่าเสียดายแทนกาก้าไม่น้อย
ราชันล้ำหน้าบ่อยเว่อร์
ไม่รู้จะพูดว่ากองหลังของเอสปันญ่อลเช็คล้ำหน้าดี หรือแนวรุกของมาดริดไม่ดูให้ดีกันแน่ เพราะช่วงนาทีที่ 60 กว่า ๆ มาดริดบุกขึ้นไปทีไร เป็นต้องล้ำหน้าทุกที โดยจังหวะล่าสุดเป็นกาก้าที่ล้ำหน้า แต่คราวนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเบนเซม่าที่จ่ายช้า ทำเอาเพลเมกเกอร์บราซิลเลี่ยนทำหน้าเซ็งโลกเลยทีเดียว
รามอสเกือบบวก
เฉียดได้ประตูที่ 3 หลายครั้งสำหรับทางเจ้าถิ่น แต่ก็ไม่สามารถทำได้สักที โดยมีโอกาสอีกครั้งจากลูกเตะมุมของกราเนโร่ บอลลอยโค้งเหมือนจะข้ามหัวราอูลและกองหลังไปเข้าทางรามอสที่ตั้งท่ารออยู่คนเดียว แต่ในจังหวะที่กองหลังของเอสปันญ่อลจะล้มลง ยังอุตส่าห์เอาหัวสะกิดบอลเอาไว้ได้นิดหนึ่ง ทำให้รามอสเข้าไม่ถูกจังหวะ บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย แม้ฮิกวาอินจะเก็บตกได้ แต่ก็ยิงเบิร์ดข้ามคานไปไกล
กาก้าได้ซัดไกล
ลองยิงใกล้ ๆ ไม่ได้ เลยลองส่องไกลดูบ้านสำหรับกาก้า โดยได้บอลนอกกรอบเขตโทษก่อนะจะซัดไกล น้ำหนักบอลใช้ได้ แต่ตรงตัวของกาเมนี่ที่วันนี้งานเข้าตลอด
อิกวาอินนนนนนนนนนนนนน
แม้จะมีเวลาอยู่ในสนามไม่นาน แต่ความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยมของเขาขอแค่ได้มีโอกาสก็พอ หลังอิกวาอินรับบอลจากการสวนกลับ โดยดูดบอลลงในกรอบเขตโทษ พลิกหลบกองหลังไปได้อย่างสวยงาม ก่อนที่จะแตะหลบกาเมนี่ แล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างง่ายดาย มาดริดทิ้งเอสปันญ่อล 3-0
จบเกมส์เรอัล มาดริดเิปิดบ้านเอาชนะเอสปันญ่อลไปได้ 3-0 รักษาสถิติหรูด้วยการชนะรวด 11 นัดในบ้านของตัวเอง มี 50 คะแนนตามหลังบาร์เซโลน่าอยู่ 5 คะแนนเท่าเดิม ส่วนเอสปันญ่อลมี 23 คะแนนอยู่อันดับที่ 14 ไม่ขยับไปไหน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : คาซิยาส,อัลบิโอล,รามอส,มาร์เซโล่,อเบลัว,อลอนโซ่,กูตี(ลาส น.69),เบนเซม่า(อิกวาอิน น.72),ราอูล(ฟาน เดอ ฟาร์ท น.84),กาก้า,กราเนโร่
เอสปันญ่อล : กาเมนี่,รุยส์,ปาเรค่า(อามาท น.72),ดาวิด การ์เซีย,รอนคาเลีย,มาร์เกซ,แบน่า,ออสวัลโด้,เวอร์ดู,โคโร(อีบัน อลอนโซ่ น.45),หลุยส์ การ์เซีย(มาเกเซ น.62)
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####
Hightlight
ตามต่อ!ราชันอัดนกแก้วดิ้น3-0สบายๆ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!