ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น เพราะมีหิมะตกมาอย่างหนักจนทำให้เกมลีกหลายคู่ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งหากเกมคู่นี้แข่งขันกำหนดไปตามเดิมเกมคงสนุกแน่ เพราะแมนฯซิตี้ในยุคของ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "กุหลาบไฟ"แบล็กเบิร์น
เล่นแลกหมัดสนุกแน่
จันทร์ที่ 11 ม.ค.53
พรีเมียร์ลีก
แมนฯซิตี้-แบล็กเบิร์น
"เรือใบสีฟ้า"ในยุคของโรแบร์โต้ มันชินี่ ถือว่าผลงานดีอย่างต่อเนื่อง แถมล่าสุดเพิ่งเซ็นสัญญาคว้าตัว "พาทริก วิเอร่า" มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสมาจากอินเตอร์ มิลาน มาเสริมความปึ้กในแดนกลาง ความเก๋าของอดีตกองกลางอาร์เซนอล รายนี้น่าจะช่วยทีมได้มาก
เกมนี้เล่นในบ้านก็จริง แต่แมนฯซิตี้มีปัญหาพอตัว เพราะจะไม่มี สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เนดุม โอนูโอฮา, ฌอน ไรต์-ฟิลลิปส์, โจลีออน เลสค็อตต์, ไมเคิล จอห์นสัน และเวย์น บริดจ์ ที่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนั้นแล้ว โคโล่ ตูเร่ และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 2 กำลังสำคัญก็ต้องกลับไปรับใช้ชาติในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์คัพ
ในขณะที่แผงห้องเครื่องนัดนี้ "วิเอร่า" น่าจะได้โอกาสลงคุมในแดนกลางทันที เพราะสภาพร่างกายไม่มีปัญหา แถมยังมีประสบการณ์ในพรีเมียร์ชิพอย่างโชกโชน ช่วยทั้งเกมรุก-รับได้ดีแน่นอน
นัดนี้เจ้าถิ่นเปิดเกมบุกแลกหมัดเข้าใส่แน่นอน ในแดนหน้า "เคร็ก เบลลามี่-คาร์ลอส เตเบซ" เข้ากันได้ดีเสียด้วย รวมทั้งยังมี "โรเก้ ซานตา ครูซ" เป็นตัวสอดแทรกชั้นดีอีกคน ได้วิเอร่า มาคุมจังหวะในแดนกลางคงทำให้กล้าเดินเกมลุยเต็มที่
ในขณะที่ผู้มาเยือนฟอร์มฤดูกาลนี้ไม่แน่นอนเสียเลย แถมมาเยือนเกมนี้อาจจะไม่มี "วินซ์ เกรลล่า" ที่ได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ กองหน้าเจ้าอารมณ์ก็ติดโทษแบน
นัดนี้ สภาพทีมของ "เรือใบสีฟ้า" ไม่แกร่งเหมือนเคย คงต้องเล่นระวังตัวกว่าเดิม แต่เมื่อได้วิเอร่า มา น่าจะทำให้งานของ "เกเร็ธ แบร์รี่" เบาขึ้นเยอะ ส่วนเกมรุกก็ยังวูบวาบเหมือนเดิม ในขณะที่ทีมเยือนต้องบี้เกมแดนกลางให้อยู่หมัด "มาร์ติน แกมส์ต พีเดอร์เซ่น" ฟอร์มแผ่วลงไป ทำให้เจสัน โรเบิร์ตส์ ต้องลงมาล้วงบอลในแดนกลางเอง
ดูแล้ว ถึงเกมจะไม่ห่างกันนัก แต่เจ้าถิ่นสภาพแวดล้อมได้เปรียบ ทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้ายก็เหนือกว่า หากไม่ประมาทในเกมรับ แมนฯซิตี้น่าบินสูงเก็บ 3 แต้มอีกนัด