แชมป์โลก อิตาลี่

ผลการแข่งขันของทีมชาติอิตาลี ในฟุตบอลโลก 2006

รายชื่อทีมชาติอิตาลี ตามหมายเลขที่ใช้ในการแข่งขัน

1 BUFFON Gianluigi (GK)
2 ZACCARDO Cristian
3 GROSSO Fabio
4 DE ROSSI Daniele
5 CANNAVARO Fabio
6 BARZAGLI Andrea
7 DEL PIERO Alessandro
8 GATTUSO Gennaro
9 TONI Luca
10 TOTTI Francesco
11 GILARDINO Alberto
12 PERUZZI Angelo (GK)
13 NESTA Alessandro
14 AMELIA Marco (GK)
15 IAQUINTA Vincenzo
16 CAMORANESI Mauro
17 BARONE Simone
18 INZAGHI Filippo
19 ZAMBROTTA Gianluca
20 PERROTTA Simone
21 PIRLO Andrea
22 ODDO Massimo

อังเดร ปีเลห์ ซัดประตูแรกให้อิตาลี

อิตาลี 2 : 0 กานา

   จะว่าไปหน้านี้ออกจะเป็นเรื่องส่วนตัวไปซักหน่อย เพราะผมเชียร์อิตาลีมานานแล้วก็ขอทำไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะครับ หลังจากที่ฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว อิตาลีพ่ายเกาหลีใต้ในช่วงต่อเวลาทำให้อิตาลีอับอายเป็นอย่างมาก แต่ในเปิดสนามปีนี้อิตาลีพบกับกานา ทีมจากทวีปแอฟาริกา อิตาลีมีโอกาสหลายครั้งพอสมควรแต่ยิงไม่ได้จึงต้องเปลี่ยนมายิงจากระยะไกลดูบ้าง อังเดร ปีโลห์ กองกลางจากมิลานก็ทำได้ในช่วงท้ายครึ่งแรกทำให้อิตาลีเล่นได้ง่ายขึ้น..

วิเซนโซ่ ยาควินต้า ในจังหวะหลุดเดี่ยวซัดประตูที่สองให้อิตาลี

อิตาลี 2 : 0 กานา

   ช่วงท้ายครึ่งหลัง  ยาควินต้า กองหน้าจากอูดิเนเซ่ ยิงปิดท้าย อิตาลีเก็บ 3 แต้ม นัดต่อไปพบ อเมริกา ที่แพ้เชกมา 3 - 0 ถ้าไม่ประมาณเกินไปอิตาลีน่าจะผ่านได้ไม่ยาก

เด รอสซี ถูกใบแดงในช่วงท้ายครึ่งแรก

อิตาลี 1 : 1 อเมริกา

   เป็นอีกเกมที่แจกใบเหลืองใบแดงกันวุ่นวาย อิตาลีขึ้นนำไปก่อนจากการยิงของจิลาดิโน่ ดูว่าอิตาลีจะสบายแล้ว แต่ซัคคาโด่ ดันยิงเข้าประตูตัวเอง และ เด รอสซีถูกใบแดงในช่วงท้ายครึ่งแรก ครึ่งหลังอิตาลีเริ่มด้วยการเล่น 10 คน แต่ครึ่งหลังเล่นไปได้ 4 นาที อเมริกาก็โดนไล่ออกบ้าง รูปเกมยังเป็นอย่างรุ่นแรง อเมริกามาเสียใบแดงอีกคน ช่วงกลางของครึ่งหลัง อิตาลีกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบบ้าง แต่ก็ทำอะไรอเมริกาไม่ได้ เสมอกันไปแบบเจ็บตัวกันไปตามๆกัน นัดสุดท้ายต้องไปเอาชนะเชกให้ได้เพื่อเป็นอันดับที่ 1 ของสาย

มาร์โก มาเตรัชซี ยิงประตูแรกในชีวิตในนามทีมชาติอิตาลี

อิตาลี 2 : 0 เชก

   เป็นเกมที่อิตาลีพลาดไม่ได้ ต้องเสมอเป็นอย่างน้อย ถ้าแพ้ตกรอบทันที รูปใกล้เคียงก่อนที่ มาร์โก มาเตรัชซี กองหลังจากอิเตอร์มิลาน โขกประตูแรกให้อิตาลีขึ้นนำ หมดครึ่งแรก อิตาลีนำ 1 ลูก

ฟิลิปโป้ อินซากี้ ศูนย์หน้าจากเอซีมิลาน ยิงดับฝันเชก

อิตาลี 2 : 0 เชก

   เชกต้องพยายามตีเสมอเพื่อโอกาสที่จะเข้ารอบ เชกมีโอกาสอีกหลายครั้ง อิตาลีส่วนใหญ่เป็นฝ่ายตั้งรับ รอโต้กลับและก็ทำได้สำเร็จจากตัวสำรอง อินซากี้ ในนาทีที่ 87 ทำให้อิตาลีชนะไปได้ 2 - 0 เข้าเป็นที่ 1 ในสายได้สำเร็จไม่ต้องไปพบกับบราซิลในรอบที่สอง

ฟรานเชกโก้ ต็อตตี้ กับท่าดีใจสุดกวน

อิตาลี 1 : 0 ออสเตเรีย

   รอบ 16 ทีมสุดท้ายอิตาลีพบออสเตเรีย ทีมจากโซนโอซีเนีย เป็นนัดที่อิตาลีเล่นได้แย่มาก ออสเตเรียบุกแทบตลอดทั้งเกม อิตาลีมีจังหวะยิงน้อยมาก แถมยังต้องมาเสียใบแดงอีกครั้ง มาร์โก มาเตรัชซี โดนไล่ออกในช่วงต้นครึ่งหลัง อิตาลียังต้องฝ่ายตั้งรับตลอด แต่ออสเตเรียก็ไม่สามารถจบสกอร์ได้ แต่แล้วอิตาลีก็มาได้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 93 ต๊อตตี้ ยิงเข้า และหมดเวลาทันที เป็นเกมที่ไม่ยุติธรรมสำหรับชาวออสเตเรียที่ไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย ส่วนอิตาลีต้องบอกว่า รอดมาได้ไง...

จิอันลูก้า ซามบร็อตต้า สับไกยิงลูกแรก

อิตาลี 3 : 0 ยูเครน

   รอบ 8 ทีมสุดท้าย อิตาลีมาพบกับทีมยูเครน นำทีมโดยเชฟเชนโก จากมิลาน ยูเครนผ่านสวิสเซอร์แลนด์มาในรอบที่แล้ว แต่การพบกับอิตาลีต้องบอกว่าประสบการ์ณต่างๆกันคนชั้นเลย อิตาลีเล่นได้ดีมาก คุมเกมได้แต่ก็ยิงประตูแรกได้จาก ซามบร็อตต้า กองกลางริมเส็นจากยูเวนตุส ที่ยิงไกล 25 หลาอย่างสุดสวยทำให้อิตาลีคลายความกดดัน และเล่นได้ง่ายขึ้นมาก

ลูก้า โทนี นัดนี่ยิงไป 2 ลูก

อิตาลี 3 : 0 ยูเครน

   หลังจากขึ้นนำอิตาลีคุมเกมได้หมด โดยเล่นเกมรับแบบรัดกุม แล้วใช้ลูกโต้กลับและก็ทำได้อีก 2 ประตู จากลูก้าโทนี่ ที่ยังยิงประตูไม่ได้เลยในฟุตบอลโลก ทำให้อิตาลีชนะยูเครนไปอย่างสบายๆ ไปพบเยอรมัน เจ้าภาพที่เอาชนะอาร์เจนติน่าในการดวลลูกโทษ..

ฟาบิโอ กรอซโซ่ กับประตูที่ต้องจำไปชั่วชีวิต

อิตาลี 2 : 0 เยอรมัน

   เป็นเกมระดับคุณภาพอย่างแท้จริง ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างน่าชื่นชม อิตาลีพยายามใช้การต่อบอลสั้นสลับยาว และมีโอกาสหลายครั้ง แต่ทำไม่ได้ เยอรมันก็มีโอกาสจากความผิดพลาดของกองหลังอิตาลี แต่ก็ยิงออกไปหมด จนในที่สุดต้องต่อเวลากันออกไปจนนาทีที่ 118 ปีโล่ห์ จ่ายบอลทะลุช่องให้กรอซโซ่ยิงด้วยเท้าซ้าย ให้อิตาลีขึ้นนำก่อนหมดเวลา 2 นาที

เดล ปิเอโล่ ยิงประตูปิดท้ายให้อิตาลี

อิตาลี 2 : 0 เยอรมัน

   เยอรมันต้องบุกในอีก 2 นาทีที่เหลือ ลุยกันขึ้นมาทั้ง 10 คน คันนาวาโร่ สกัดได้รีบโต้กลับ แล้วเป็น เดล ปิเอโร่ หลุดเข้าไปยิงประตูปิดท้ายฝังเจ้าภาพแบบแน่นอน อิตาลีได้เข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกในรอบ 12 ปี หลังจากที่ครั้งสุดท้าย เข้าชิงกับบราซิลที่อเมริกา 94 แต่ต้องแพ้ในการดวลลูกจุดโทษ...

กัปตันทีมของคู่ชิงชนะเลิส  คันนาวาโร่ ของอิตาลี และ ซีดาน ของฝรั่งเศส ในสนามกรุงเบอร์ลิน

อิตาลี พบ ฝรั่งเศส คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006

จากการพบกัน ในฟุตบอลโลก ปี 1998 ทั้งคู่พบกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เสมอกันในเวลา 120 นาที และเป็นอิตาลีที่พ่ายการดวลจุดโทษ  ท้ายสุดฝรั่งเศสก็เป็นแชมป์โลก  และในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2000 ทั้งคู่มาพบกันอีกในรอบชิงชนะเลิศ อิตาลีนำ 1 - 0 จนถึงนาทีที่ 88 แต่ถูกฝรั่งเศสยิงตีเสมอ ต้องต่อเวลากันออกไป ช่วงต่อเวลาแบบโกลเดนโกล เดวิด เทเซเก้ ก็ยิงประตูชัยให้ฝรั่งเศสกลับมาคว้าแชมป์หน้าตาเฉย นัดนี้จึงเป็นการล้างตาของอิตาลีว่าจะทำได้ไหม...

มาเตรัชซี่ โขกประตูตีเสมอให้อิตาลี

อิตาลี 1 : 1 ฝรั่งเศส

เริ่มต้นเกมไปได้ไม่กี่นาที อิตาลีต้องเสียลูกที่จุดโทษ จากการเข้าบอลผิดจังหวะของ มาเตรัชซี่ และเป็น ซีดาน ยิงให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ อิตาลีเปิดเกมบุกแลก แต่มาตีเสมอได้สำเร็จจากการโหม่งของมาเตรัชซี่ ตีเสมอให้อิตาลี แก้ตัวได้สำเร็จ ในครึ่งแรกอิตาลีเล่นได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ครึ่งหลังฝรั่งเศสแก้เกมได้ดีมาก ฝรั่งเศสบุกมากกว่าแต่ก็ไม่สามารถยิงอิตาลีได้ ในที่สุดต้องต่อเวลากันออกไป ...

ซีดานไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ใช้หัวโขกมาเตรัชซี่

จุดจบที่แสนเศร้าของ ซีดาน

ซีดานประกาศไว่แล้วว่าจะแขวนรองเท้าเลิกเล่นหลังจบฟุตบอลโลกในครั้งนี้ไม่ว่าจะตกรอบไหนก็ตาม แต่ก็เป็นซีดานที่โชว์ฟอร์มสุดยอดพาฝรั่งเศสเข้าชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง แต่ในนัดสุดท้ายของชีวิต ชีดานกลับไม่สามารถคุมอารมณ์ตนเองจากการยั่วยุของมาเตรัชซี่ได้ ใช้หัวโขกกลางหน้าอก โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม สิ้นสุดตำนานของตนเองแบบแสนเศร้าจริงๆ  หลังจากจบเกมนี้ ฟีฟ่ากำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าใครเป็นฝ่ายผิดกันแน่ ระหว่าง มาเตรัชซี่ กับ ซีดาน แต่ภาพเหตุการณ์นี้เราคงจะได้เห็นทุกครั้งก่อนฟุตบอลในครั้งต่อๆไป ...

วินาทีที่กรอซโซ่ยิงลูกจุดโทษสุดท้ายเข้าไป ให้อิตาลีเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 4

อิตาลี ชนะการดวลจุดโทษ ฝรั่งเศส 5 : 3

ช่วงต่อเวลาเมื่อไม่สามารถทำอะไรกันได้ ก็ต้องยิงลูกโทษ มีหลายคนบอกว่า ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกไม่น่าจะใช้วิธีการดวลลูกโทษ แต่ทางฟีฟ่าก็ยังไม่สามารถคิดวิธีที่ดีดว่านี้ได้ในตอนนี้ การยิงลูกโทษครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบชิงชนะเลิศ โดยครั้งแรก บราซิล ดวลจุดโทษชนะอิตาลี เมื่อปี 1994 แต่ในครั้งนี้อิตาลีได้แสดงให้เห็นมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ยิงเข้าทั้ง 5 คน ฝรั่งเศส ยิงไม่เข้าคนเดียวจาก เดวิด เทเซเก้ คนที่ยิงประตูชัยดับอิตาลีเมื่อยูโร 2000 นั้นเอง ...

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กัปตันทีม  บรรจงจูบถ้วยแชมป์โลก

อิตาลีแชมป์โลก สมัยที่ 4

เป็นหน้าใหม่สำหรับวงการฟุตบอล เนื่องจากทีมที่ได้แชมป์โลกนั้นจะต้องมีนักเตะที่โดดเด่น 1 คนเป็นนำทัพ แต่อิตาลีทีมนี่ไม่มี ทุกคนมีความสามารถใกล้เคียงกัน ดูได้จากการยิงประตู 12 ลูก จากผู้เล่น 10 เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี จึงเป็นทีมแชมป์โลกที่มาจากทีมเวิร์กอย่างแท้จริง แต่ถ้าจะให้ผมเลือกนักเตะที่ดีที่สุดต้องยกให้คันนาวาโร่ ที่เล่นได้เหนียวแน่สุดยอด เพราะประตูที่อิตาลีเสียไป 2 ลูก นัดเจอ อเมริกาซักคาโด้เตะเข้าประตูตัวเอง และ นัดชิง เสียจากลูกจุดโทษ เท่ากับว่า คันนาวาโร่ไม่เสียประตูในการเล่นปกติเลย สุดยอดจริงๆ...

มาเซโร่ ลิปปี้ กับถ้วยแชมป์โลก

จะมีอะไรให้ท้าทายอีกละ

หลังจากจบฟุตบอลโลก ลิปปี้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่คุมทีมชาติอิตาลีต่อไป เนื่องจากมาถึงจุดสูงสุดในอาชีพแล้ว สมัยคุมทีมยูเว่ ก็คว้ามาหมดแล้ว ทั้งแชมป์กัลโช่ โคป้าอิตาเลีย และ ยูฝ่าแชมป์เปี้ยนลีก นี้ได้แชมป์โลกอีก โดยที่ลิปปี้บอกว่ายังไม่ได้วางแผนว่าจะทำอะไรต่อไป แต่ผมก็ได้แต่หวังว่าจะยังอยู่ในวงการฟุตบอลอิตาลีนะครับ ...