ก่อนหน้านี้ก็คว้ารางวัล "บัลลงดอร์" หรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรปมาครองได้ก่อนแล้ว
กองหน้าวัย 22 กลายเป็นผู้เล่นอาร์เจนไตน์คนแรก ที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าไปครอง และกลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินาต่อจาก ดีเอโก้ มาราโดน่า อีกด้วย
ผลงานพาบาร์ซ่า คว้าแชมป์รายการใหญ่ 4 ถ้วย ทั้งแชมป์ลา ลีกา, สแปนิช คิงส์คัพ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และแชมป์สโมสรโลก ไม่ใช่จะกระทำกันได้โดยง่าย
เมสซี่ เริ่มสร้างชื่อเสียงกับทีมนีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ ในบ้านเกิด แต่ตลอดเวลาความปรารถนาอันสูงสุดก็คือ การได้ย้ายมาเล่นให้กับบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นสโมสรโปรดมาตั้งแต่วัยเด็ก
ก่อนความฝันจะเป็นจริงเมื่อได้ย้ายมาเล่นให้ทีม "เจ้าบุญทุ่ม" ในปี 2000 ขณะมีอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น
"เขาอาจจะมีรูปร่างเล็ก แต่ความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จของเขามีมากอย่างเหลือเชื่อ" ฮอร์เก้ เมสซี่ พ่อของนักเตะคนดังให้สัมภาษณ์
เมสซี่ เป็นนักเตะที่หิวกระหายความสำเร็จ การเล่นของเขาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับเพื่อนร่วมทีม ในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาอยู่ในถิ่นคัมป์นู ในฤดูกาล 2004-2005 เขาพาอาร์เจนติ นาคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลก ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี
จากนั้นยังตามมาด้วยแชมป์ลา ลีกา และแชมเปียนส์ ลีก ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มสุดยอดในฤดูกาลที่ผ่านมา
"แต่ความสำเร็จทั้งหมดของผมที่ได้มา ไม่ได้เกิดขึ้นจากผมเพียงคนเดียว เพื่อนร่วมทีม โค้ช และแฟนบอล มีส่วนต่อความสำเร็จครั้งนี้ด้วยทั้งหมด" เมสซี่ กล่าวอย่างถ่อมตัว
ตอนนี้สิ่งที่ผู้คนอยากเห็นก็คือ ได้เห็นเมสซี่ก้าวขึ้นไปทาบความยิ่งใหญ่กับมาราโดน่า
ซึ่งจะทำได้อย่างนั้นก็คือ การคว้าแชมป์โลกเท่านั้น
ในบาร์ซ่า เมสซี่ คือ จอมทัพ ผู้กำกับเกม จอมถล่มประตู แต่สำหรับในทีมชาติแล้วยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลย
"ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ผม พยายามที่จะทุ่มเทในการเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินาเหมือนที่เล่นให้กับบาร์เซโลน่า แต่อย่าลืมว่าเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มักเป็นเรื่องยากเสมอ เพราะเป้าหมายของเราก็คือเล่นให้ชนะ และผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายให้ได้"
แต่เมื่อฟุตบอลโลก 2010 เปิดฉากขึ้น ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้
เมสซี่ ต้องการพา "ฟ้าขาว" คว้าแชมป์โลกเหมือนอย่างที่ดีเอโก้ มาราโดน่า ทำสำเร็จมาแล้ว
ติดตามเส้นทางของ ลิโอเนล เมสซี่ ต่อไป