โควต้านักเตะต่างชาติ5คนไทยลีกคิดดีแล้วหรือ?

ช่วงนี้ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกของไทยหยุดพักแข่งขัน และหลายทีมเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้าทั้งการเก็บตัวเล่นกระชับมิตรกับทีมต่างๆ แต่ทางไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2010 จะอนุญาตให้แต่ละสโมสรใช้โควต้านักเตะต่างชาติลงเล่นได้เพิ่มเป็น 5 คน จากเดิม 3 คนที่ใช้กันมาก่อนหน้านี้ และที่สำคัญนั้นสามารถลงทะเบียนได้มากถึง 7 คนอีกด้วย


ว่ากันว่ากฏนี้หลายสโมสรเห็นด้วยโดยเฉพาะทีมใหญ่ที่มีกำลังทุนมหาศาล และพวกเขาจะได้เปรียบที่สามารถซื้อนักเตะต่างชาติดีๆมาร่วมทีม และจะเป็นการผูกขาดของทีมไม่กี่ทีมหรือไม่ประการใด


เหตุผลที่ไทยพรีเมียร์ลีกอ้างมานั้นว่าต้องการพัฒนานักเตะไทยให้ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเป็นตัวจริงในทีมให้ได้หาไม่แล้วจะไม่ได้เล่น แน่นอนเหตุผลนี้ทุกคนทราบ


แต่ในทางกลับกันมันจะเป็นการปิดกั้นโอกาสของนักเตะเยาวชนไทยไม่สามารถเกิดได้เลยเพราะพวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้แสดงผลงานด้วยซ้ำ


ฟุตบอลเล่นกัน 11 คน นั่นหมายความว่าเมื่อเปิดโอกาสให้แต่ละทีมใช้นักเตะต่างชาติลงเล่นได้ 5 คนจะทำให้นักเตะมีโอกาสอีกแค่ 6 คนเท่านั้นเอง สมมุติว่าทุกทีมส่งผู้เล่นต่างชาติลงเล่นครบ 5 คนทุกนัดแสดงว่านักเตะไทยก็จะได้เล่นแค่ 96 คนจากทั้งหมด 176 คน


ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไทยพรีเมียร์ลีกคิดอะไรอยู่เพราะว่านโยบายของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติเอเซีย (เอเอฟซี) พยายามที่จะพัฒนานักเตะเอเซียจนกระทั่งมีกฏ 3+1 (นักเตะต่างชาติลงเล่นได้ 3 คน และอีก 1 คือนักเตะเอเซีย) นั่นหมายความว่าอนุญาตให้นักเตะต่างชาติลงเล่นในสนามได้ 3 คนแต่หากทีมไหนมีนักเตะเอเซียอยู่ด้วยก็สามารถส่งลงได้อีก 1 คนรวมเป็นแล้วสูงสุดถึง 4 คน


เจตนาของเอเอฟซีเพื่อต้องการให้นักเตะเอเซียเล่นอยู่ในลีกของประเทศต่างๆในเอเซียด้วยกันจะเป็นการช่วยพัฒนานักฟุตบอลเอเซียนั่นเองเรียกว่าให้แต่ละทีมอย่างน้อยก็ซื้อนักเตะเอเซียไปอยู่ในทีม


ดูเหมือนว่ากฏนี้สโมสรต่างๆในลีกที่เจริญแล้วต่างก็เห็นด้วยทั้งนั้นเลย และขานรับทำตามนโยบาย ดังกล่าวแม้กระทั่งคิว-ลีก ของกาตาร์ หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลีก ซึ่งเคยใช้โควต้านักเตะต่างชาติ 5 คนในทีมเพราะยุคหนึ่งสมัยหนึ่งพวกเขามองว่าจะพัฒนานักฟุตบอลลีกพวกเขาให้ก้าวหน้าต่อไปส่งผลดีต่อทีมชาติตัวเองด้วย แต่ในที่สุดไม่ใช่ตอบตอบทีมชาติพวกเขาถอยหลังก็กลับมาเห็นด้วยในแนวทางของเอเอฟซี


ไม่ต้องพูดถึงเจ-ลีก ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นลีกนำร่องของลีกเอเซียทั้งมวล และเป็นเพียงแค่ลีกเดียวในเอเซียที่ผ่านกฏเกณฑ์ของเอเอฟซีทุกข้อได้คะแนนเต็ม 100 ในการประเมินการปฏิรูปโครงสร้างระบบสโมสรลีกอาชีพในเอเซียเมื่อสองปีที่ผ่านมาก็เป็นลีกแรกที่คิดค้นกฏ 3+1 ออกมาใช้ในลีกของตัวเองก่อนที่เอเอฟซีจะคิดด้วยซ้ำไป


ทางเค-ลีก เกาหลีใต้ก็เช่นกัน หรือแม้แต่ไชน่าซูเปอร์ลีกของจีนมีวิธีการของตัวเองเพิ่มเข้ามาอีกคือทุกทีมต้องส่งนักเตะอายุไม่เกิน 20 ปีลงเล่นอย่างน้อย 2 คนในแต่ละนัด และไม่อนุญาตเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูชาวต่างชาติมาร่วมทีมด้วยเพราะพวกเขาต้องการพัฒนาผู้รักษาประตูของตัวนั่นคือผลที่พวกเขาจะได้ในทีมชาติเต็มๆจึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้รักษาประตูของพวกเขาเก่งไม่เป็นประตูน้ำเหมือนอย่างทีมชาติบางชาติ


เอ-ลีก ออสเตรเลียใช้นโยบาย 4+1 (นักเตะต่างชาติ 3 และ นักเตะเอเซีย 1 พร้อมกับนักเตะรับเชิญ 1 ) โดยนักเตะรับเชิญจะเซ็นสัญญาร่วมทีมได้แต่ต้องเล่นไม่เกิน 9 นัดเท่านั้น


หรือแม้แต่ในลีกอาชีพของชาติใหญ่ๆแถบตะวันออกกลางทั้งซาอุดิ อาระเบีย ไปสู่อิหร่าน หรือ อูซเบกิถานในเอเซียกลางต่างก็สร้างผลงานดีในเวทีระดับเอเซีย หรือแม้แต่ระดับโลกที่ตัวแทนจากแชมป์เอเซียไปคว้าอันดับสามสโมสรโลกมาสามปีติดต่อกันแล้วล่าสุดคือโพฮัง สตีลเลอร์ส จากเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง


และชาติอาเซี่ยนด้วยกันกับไทยเราอย่างเวียดนามก็เป็นเหมือนกับชาติอื่นๆแต่พวกเขาได้เปรียบตรงประเทศพวกเขาเพิ่งเปลี่ยนกฏหมายการถือสองสัญชาติได้เมื่อปลายปีที่แล้วและนำมาบังคับใช้เมื่อต้นปีนี้ดังนั้นแต่ละสโมสรจะใช้วิธีการดึงเอานักเตะไปถือสัญชาติเวียดนามอีกสัญชาติเพื่อจะได้เล่นได้ในโควต้าของนักเตะเวียดนามเต็มๆอย่างเช่นกรณีสโมสรฮอง อันห์ ยาลาย ที่ให้นิรุต สุระเสียง กับ ศักดา เจิมดี ถือสัญชาติเวียดทำให้สองคนนี้ไม่ใช่นักเตะต่างชาติ แต่ไทยทำไม่ได้เพราะกฏหมายว่าด้วยสัญชาติของไทยบุคคลใดที่ถือสองสัญชาติขึ้นไปเมื่ออายุ 20 ปีบริบูรณ์ต้องเลือกสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง


ถามว่านักเตะทีมชาติของประเทศเหล่านี้เก่งไหม ดีกว่าไทยมากไหมหรือล้าหลังกว่าเรา คำตอบมันประจักษ์แน่ชัดลองกลับไปคิดให้ดีนะว่าสิ่งที่กำลังทำนี้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนานักฟุตบอลไทยหรือไม่หากคิดว่าดีแล้วก็ทำไปเถอะเพราะไม่มีใครยกเลิกลีกของท่านได้หรอกยกเว้นสปอนเซอร์ และศรัทธาของแฟนบอล



แต่ศรัทธาของแฟนบอลจะมีพลังยิ่งใหญ่เหนื่อสิ่งอื่นใด


ขอบคุณคอลัมน์ คุณภาพจาก siamsport.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์