พลพรรคแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกู้หน้ากลับมาทันควันหลังเปิดบ้านที่เพิ่งแพ้แอสตัน วิลล่าไล่ต้อนวูลฟ์แฮมป์ตันไส้ไหล 3-0 จากประตูของรูนีย์,วีดิชและวาเลนเซียขึ้นมานำฝูงร่วมคู่เชลซีที่ 37 แต้มแต่เตะมากกว่าหนึ่งนัด
พรีเมียร์ลีก
วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2552
แมนฯยูฯ 3-0 วูลฟ์แฮมป์ตัน
ประตู : 1-0 รูนีย์ น.30(จุดโทษ),2-0 วิดิช น.43,3-0 วาเลนเซีย น.66
ครึ่งแรก
แฟนผีเซ็ง...หมูยิงจ่อๆไม่เข้า
แค่นาทีที่ 3 ยูไนเต็ดน่าจะขึ้นนำอย่างที่สุดหลังกิ๊บสันได้ยิงไกลนอกเขตบอลไปติดบล็อกกองหลังทีมเยือนแล้วมาหยุดตรงหน้ารูนีย์ที่ได้ซัดล่อเป้าเหน่งๆ 10 หลาแต่ซัดติดเซฟฮาห์เนมันน์ที่ล้มตัวปัดเหลือเชื่อ หมูพลิ้วออกอาการล่กเพราะตกใจไม่คิดว่าหลุดเดี่ยวมาขนาดนี้แถมบอลใกล้เท้าด้วย
หมูซัดเผาขนติดเซฟอีก
วูลฟ์ตั้งรับหัวปั่นเพราะเจอแข้งผีขึงอย่างหนักแต่ตอนนี้ปัญหาคือเจ้าถิ่นหาทางเจาะยากเนื่องแนวรับน้องใหม่ลงไปขึงกันเยอะมากและนาที 12 เกือบมีประตูเมื่อเอวร่าเปิดบอลเลียดจากริมกรอบโทษฝั่งซ้ายให้รูนีย์วิ่งมาแยงบอลที่จุดนัดพบเสาแรก 6 หลาแต่ฮาห์เนมันน์อ่านทางปรี่ออกมาบล็อกเกือบๆที่เท้าทำให้ลูกยิงชนตัวรอดพ้นการเสียประตูสุดๆ
หมาป่าเกือบเฮ
แต่นาที 19 ทีมเยือนเกือบช็อกยูไนเต็ดหลังลูกทุ่มไกลเป็นไมเออร์โฮเฟอร์ที่สูงโย่งเกือบสองเมตรโขกเช็ดบอลตกมาเข้าทางเฟร็นด์ที่ได้หวดเหน่งๆ 8-9 หลายังดีบอลเหินข้ามคาน ไม่งั้นตาข่ายขาดแน่นอน
ผีเสียว 2 หนติด
เกมของวูลฟ์เหมือนจะดีขึ้นโดยใช้ความสูงของไมเออร์โฮเฟอร์แต่นาที 24 เจ้าถิ่นเกือบขึ้นนำหลังเอวร่าเปิดบอลจากริมกรอบโทษให้รูนีย์ตรงระยะ 7 หลาแต่หันหลังมีกองหลังประกบอยู่เลยต้อพลิกยิงเดี๋ยวนั้นบอลแฉลบถากข้างเสาออกไป
และจังหวะเตะมุมโหม่งกันตกมาที่กิ๊บสันที่แหย่เท้าตั้งให้วิดิชได้วอลเลย์เต็มตีนแม่ยายในกรอบตรงระยะ 10 หลาแต่บอลเด้งพอดีเลยข้ามคาน เล่นเอาเฟอร์กี้ผุดลุกผุดนั่งกันเลยทีเดียว
หมูซัดจุดโทษ 1-0
แต่นาที 29 วูลฟ์มาตายง่ายๆหลังลูกเตะมุมย้อยมาซูบาร์ไม่รู้คิดอะไรอยู่ถึงกระโดดเอามืดปัด ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันทีก่อนที่รูนีย์จะรับหน้าที่สังหารเน้นแรงบอลพุ่งผ่านมือฮาห์เนมันน์ที่พุ่งไปทางขวามือตัวเองถูกทางแล้วแต่เอาไม่อยู่ ปีศาจแดงนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 12 ของหมูพลิ้วแล้ว
ชิวๆ!!วิด้าโขกหาย
เกมของยูไนเต็ดแม้จะเพลาการรุกลงหลังขึ้นนำแต่ก่อนหมดเวลา 2 นาทีก็มาได้ลูกที่สองจากจังหวะเตะมุมเป็นวิดิชวิ่งหนีสองตัวประกบที่กว่าจะรู้ตัวก็ถูกกระโดดโขกตัดหน้าตรงระยะ 6 หลาบอลพุ่งแฉลบมือฮาห์เนมันน์ที่พยายามล้มตัวปัดแต่โดนเฉี่ยวๆบอลค่อยๆกลิ้งผ่านข้างเสาซุกหน้าต่างอย่างอบอุ่น 2-0 แล้ว
อบต.ใจยักษ์ยิงเองไม่เข้า
ทดเจ็บนาทีแรกปีศาจแดงน่าจะเข้าห้องแต่งตัวด้วยสกอร์ 3-0 หลังโอแบร์ต็องโชว์ดีดส้นให้เอวร่าที่แตะยาวแล้วจะไปเล่นเองแต่อบต.วิ่งกระขากบอลเข้าข้างเขตโทษแล้วแทนที่จะไหลตั้งให้เบอร์บาตอฟที่ยืนโล่งๆตรงระยะ 7-8 หลาแต่อดีตแข้งบอร์กโดซ์กลับเลือกยิงมุมแคบติดเซฟฮาห์เนมันน์หมดเวลาเซ็งกันไป เบอร์บาตอฟก็ยกมือบอกทำไมไม่ส่งแต่ก็ไม่อยากว่าอะไรน้องมันมาก
ครึ่งหลัง
เกมเนือยๆเพราะยูไนเต็ดไม่มีความจำเป็นต้องบ้าลุยแหลกและเหมือนจะค่อยๆดึงเช็งล่อให้หมาป่าหลังลอยแถมตอนนี้มิค แม็คคาธีย์เปลี่ยนเอาไมเออร์โฮเฟอร์หอกร่างโย่งออกหลังเล่นไปได้ 9 นาทีแล้วทำให้วิดิชเจอกับงานสบายหน่อย
เซนเตอร์ผีเกลี้ยง
นาที 60 ป๋าตัดสินใจเปลี่ยนวิดิชออกแล้วส่งเฟลทเชอร์มาแทน เหมือนจะเป็นการพักตัวเพราะหวั่นๆเจ็บแล้วจะเสียหายระยะยาว
ผีทำเกมเพลินตา
นาที 64 ยูไนเต็ดเล่นบอลกันสวยเริ่มจากเดอ ลาทฉกบอลกลางสนามแล้วกระชากขึ้นมาก่อนเปิดยาวเปลี่ยนแกนมาเปีกซ้ายให้โอแบร์ต็องวิ่งมาดูดลงอย่างเทพก่อนวิ่งมาล้วงตรงเส้นหลังแล้วโชว์เลื่อยหลอกตัวงประกบแล้วก็ไหลให้เอวร่าก่อนไปถึงกิ๊บสันที่แฟนบอลผีตะโกนร้องชู้ท ชู้ทพี่แกเลยจัดให้ยิงเต็มข้อบอลตกพื้นเข้าซองฮาห์เนมันน์
รถด่วนซัดตุง 3-0
อีก 2 นาทีต่อมาปีศาจแดงมากดเม็ด 3 จากความสามารถเฉพาะตัวของเบอร์บาตอฟที่วิ่งมาเอาบอลในกรอบฝั่งขวาแล้วหันหลังบังเอลโลโคบี้ก่อนกระดกข้ามหัวกลับหลังให้วาเลนเซียวิ่งมาดีดยิงแบบไซด์ก้อยตรงระยะ 10 หลาแสกหน้าฮาห์เนมันน์ตุงตาข่ายไม่เหลือ
ป๋าทยอยเปลี่ยนตัวเพื่อให้เคาะสนิมโดยทั่วถึงกันไม่ว่าจะเป็นเวลเบ็คแทนโอแบร์ต็องและโอเว่นแทนรูนีย์โดยฝ่ายหลังนี่พอโดนเปลี่ยนออกก็ส่ายหน้าไม่พอใจ
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีเจ้าถิ่นเกือบได้อีกลูกหลังเอวร่าหลุดเข้าเขตโทษเยื้องฝั่งซ้ายก่อนกระชากเข้ามุมแคบแล้วซัดเต็มๆบอลติดเซฟฮาห์เนมันน์ก่อนที่กองหลังจะช่วยกันเคลียร์ทิ้ง
ช่วงเวลาที่เหลือผีแดงได้ลุ้นเปิดบอลจากริมเส้นแต่ไม่ค่อยเน้นเลยลูกสี่ไม่มาซักที จบเกมเอาชนะ 3-0 คว้าชัยชนะในบ้านนัดที่ 7 จาก 9 นัดและลบฝันร้ายหลังแพ้แอสตัน วิลล่าคาบ้านก่อนขึ้นมาจ่าฝูงร่วมกับเชลซีมี 37 แต้มเท่ากันแต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งนัด
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯยูฯ : โทมัส คูสแซ็ค,ริทชี่ เด ลาท,เนมันย่า วิดิช(เฟลทเชอร์ น.60),ไมเคิ่ล คาร์ริค,ปาทริซ เอวร่า,พอล สโคลส์,ดาร์รอน กิ๊บสัน ,กาเบรียล โอแบร์ต็อง(เวลเบ็ค น.71),อันโตนิโอ วาเลนเซีย,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,เวย์น รูนีย์(โอเว่น น.76)
วูลฟ์แฮมป์ตัน : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์,จอร์จ เอโลโคบี้,ไมเคิ่ล มานเซียนน์,แมทธิว ฮิลล์,โรนัลด์ ซูบาร์,เควิน โฟลีย์,อันดรูว เซอร์แมน,เซกุนโด้ คาสติญโญ่ ,จอร์จ เฟร็นด์(ยาร์วิส น.61),เกร็ก ฮัลฟอร์ด,สเตฟาน ไมเออร์โฮเฟอร์(อีเวลูโม่ น.54)
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพเนื้อดีโดย ccersuck