เรอัล มาดริดไม่ปล่อยให้โอกาสลอยนวลหลังบุกมาถล่มโอลิมปิก มาร์กเซย์ถึงสต๊าด เวโลโดรมเน้นๆ 3-1 จากสองประตูของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ตบเท้าเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มส่วนโอแอ็มตกรอบสุดเศร้า
แชมเปี้ยนส์ลีก
วันอังคารที่ 8 ธันวาคม 2552
มาร์กเซย์ 1-3 เรอัล มาดริด
ประตู : 0-1 โรนัลโด้ น.5,1-1 ลูโช่ กอนซาเลซ น.11,1-2 อัลบิออล น.60,1-3 โรนัลโด้ น.80
ครึ่งแรก
โด้ซัดฟรีคิกตุง 1-0
ต้นเกมมาร์กเซย์พยายามใช้การเข้าบอลหนักเป็นอาวุธเล่นเอาเปเป้และฟาน เดอร์ ฟาร์ตหง่อมกันไปเลยทีเดียว
แต่นาทีที่ 5 ราชันชุดขาวกลับมาขึ้นนำหน้าตาเฉยจากโอกาสครั้งแรกเป็นฟรีคิก 25 หลาตรงกลางเป๊ะเป็นโรนัลโด้กางขาเก๊กหน้าแล้ววิ่งมายิงบอลข้ามกำแพงก่อนฮุบลงอย่างรวดเร็วมานดานด้าพุ่งปัดปลายมือแต่ก็ไม่ทันบอลตุงตาข่ายสวยงาม
โอแอ็มตีเจ๊าเร็ว
คู่นี้ท่าจะมันเพราะหลังมาร์กเซย์เสียประตูก็พยายามรับมือกับแนวรุกที่กำลังได้ใจของมาดริดแต่นาทีที่ 11 กลับมาตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะที่ทาอิโวลุยมาจากริมกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดย้อยมาเสาสองให้บรันโด้เกร็งคอโขกเผาขนแต่ติดบล็อกรามอสที่รีบเคลียร์แต่ดันไปเข้าทางลูโช่ กอนซาเลซที่พักอกแล้วตะบันเต็มๆตรงระยะจุดโทษบอลตุงตาข่ายไม่เหลือ
ราชันยิง 4 ทีรวดไม่เข้า
มาร์กเซย์รอดตัวจากการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อหลังได้ลูกเตะมุมเป็นโรนัลโด้ทะยานขวิดกลางอากาศบอลตกพื้นชนเสาแล้วอีกวาอินมาซ้ำเผาขนติดเซฟมานดานด้าบอลกระดอนมาเข้าทางเปเป้ที่วิ่งมาแป 3 หลายังติดเซฟอีกก่อนกระดอนมาเข้าทางรามอสที่กดเหน่งๆ 6-7 หลาแต่เอ็นเซ่บล็อกบอลแฉลบข้ามคานสุดช็อก
มาร์เซโล่เกือบโซโล่นำ
เกมสูสีสุดๆและช่วงทดเจ็บมาดริดน่าจะได้ลูกขึ้นนำหลังโรนัลโด้พิงบอลแล้วดีดส้นให้มาร์เซโล่ควบลากจี้ไปหน้าเขตโทษโดยมีอีกวาอินวิ่งทำทางดึงกองหลังไปสองตัวจนช่องตรงกลางเปิดโล่งเลยลุยต่อเข้าไปข้างในเกือบๆถึงจุดโทษแต่ตอนยิงดันเข้าขวาบอลแป๊กเศร้าออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
โด้ซัดฟรีคิกเสียววาบ
ทดเจ็บนาทีสุดท้ายมาดริดได้ฟรีคิกตรงเยื้องๆฝั่งซ้ายเป็นโด้จิ๋วรับหน้าที่ยิงบอลพุ่งตรงตัวมานดานเด้แต่บอลส่ายเลยต้องกำมือชกออกหลังหวิดม้วยกันแล้วจากนั้นกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาไปเลย
ครึ่งหลัง
ราชันได้เสียวแม้โอแอ็มมาดุ
โอแอ็มลงมาครึ่งหลังวูบวาบจ่ายบอลกันแน่นกว่าเดิมเยอะแต่เผลอแป๊บเดียวนาที เกือบโดนหลังมาร์โซโล่ได้สับไกลยิงนอกเขตโทษมานดานด้าพุ่งทุบสองมือบอลกระเด้งไปเข้าทางฟาน เดอร์ ฟาร์ตที่วอลเลย์สวนตูมบอลโด่งข้ามคานออกไปเลย
มาร์เซโล่โอกาสเพียบ
มาดริดเกือบได้อีกหนในนาที 59 หลังอีกวาอินวางยาวจากกลางสนามให้มาร์เซโล่วิ่งหนีล้ำหน้าตัดหลังเซนเตอร์ก่อนกระชากไปยิงในกรอบตรงเยื้องๆฝั่งขวาแต่มานดานด้ายืนตำแหน่งดีปัดสองมือข้ามคานนิดเดียว
อาบิออลซัด มาดริด 2-1
แต่แล้วจังหวะเตะมุมบอลย้อยมาตรงจุดนัดพบผู้เล่นเจ้าถิ่นโถมช่วยกันสกัดทั้งเปเป้และโรนัลโด้จนบอลปลิ้นมาเข้าทางอัลบิออลที่ยิงแบบหักข้อตัดหน้าฝ่ายตรงข้ามบอลเบียดเสาเข้ามุมสุดคม
โอแอ็มเซ็งยิงจุดโทษไม่เข้า
แต่แล้วจุดเปลี่ยนของเกมมาบังเกิดขึ้นหลังเนียงวิ่งไล่บนในกรอบโทษฝั่งขวาแต่คาซิญาสปรี่ออกมาสไลด์รวบเต็มๆกรรมการชี้ให้จุดโทษทันทีแต่ลูโช่ กอนซาเลซอัดเต็มตีนเตี่ยกาซิญาสพุ่งผิดทางแต่บอลชนคานดังสนั่นโดยก่อนหน้านั้นวิรศักดิ์ใช้วลีหากินคือชิงพูดก่อนบอลเข้าว่าไม่เหลือ...
โด้เบิ้ลราชันใสๆ 3-1
เกมของเจ้าถิ่นเน่าไปเลยหลังได้ลูกโทษแล้วยิงไม่เข้าจนต้องโหมบุกหนักแล้งหลังบ้านรั่วถูกโต้กลับเสียประตูที่สามก่อนหมดเวลา 10 นาทีจากจังหวะที่ลาสแทงบอลจากกลางสนามตรงปีกขวามาหน้าเขตโทษให้โรนัลโด้วิ่งควบมาเอาแล้วถูกกองหลังชนแถมเจอมานดานด้าออกนอกเส้นมาบวกนัวเนียอีกคนแต่อดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดล้มแล้วเด้งขึ้นมาแบบยิมนาสติกโคตรเทพทำให้หมุน 180 องศายิงนอกเขตแบบไมต้องมองบอลฉลุยกลางประตูโล่งๆเข้าไป 3-1
หมดเวลามาดริดเล่นเหนือชั้นปิดเกมเอาชนะ 3-1 คว้าแชมป์กลุ่มด้วยสถิติชนะ 4 จาก 6 เกมมี 13 แต้มส่วนมาร์กเซย์ได้ที่สามไปเล่นยูโรป้า ลีก
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
มาร์กเซย์ : สตีฟ มานดานด้า,กาเกบรียล เอ็นเซ่,ซูเลย์มาน เดียวาร่า,เอดูรด์ ซิสเซ่,ทาเย่ ทาอิโว่,โลร็องต์ บอนนาร์ต,ลูโช่ กอนซาเลซ,เบน็อต เชย์รู,ฟาบริซ อาเบรียล,มามาดู เนียง(วัลบูเอน่า น.71),บรันเดา(มอริเอนเตส น.77)
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส,ราอูล อัลบิออล,เปเป้,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,แซร์คิโอ รามอส,ชาบี้ อลอนโซ่(ม.ดิยาร์ร่า น.78),ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า,กอนซาโล่ อีกวาอิน(เบนเซม่า น.61),ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต(ราอูล น.72),มาร์เซโล่,คริสเตียอาโน่ โรนัลโด้












ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว