มารู้จักกับนักเตะทีมชาติอิตาลีที่เคยได้รับเลือกให้ติดทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังของทีมชาติอิตาลีกันนะครับ
คอลูกหนังอิตาลีเข้ามาเลย.....^^
ทำเนียบนักเตะทีมชาติอิตาลี
อันดับ 1 (ยังเล่นอยู่)ฟาบิโอ คันนาวาโร่ 130 เกม
กองหลังจากยูเวนตุสวัย 36 ปีคือกัปตันทีมชาติอิตาลีคนปัจจุบันที่พาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ได้เป็นชาติแรกในยุโรป ติดทีมชาติอิตาลีทั้งหมด 130 จบบอลโลก 2010 คงประกาศอำลาทีมชาติแน่นอน
2. เปาโล มัลดินี่ 126 เกม
กัปตันมิลานและกัปตันของทีมชาติอิตาลี นักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดกับเอซีมิลาน แต่ไม่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติเสียทีที่ใกล้เคียงที่สุดของเปาโลคือการได้เล่นนัดชิงบอลโลกปี 94 และนัดชิงแชมป์ยูโรปี 2000 แต่กับมิลานเขาคว้าแชมป์ถ้วยหูโตถึง 5 สมัยแชมป์ลีค 7 สมัยและสโมสรโลกอีก 4 สมัย
3. ดิโน่ ซอฟฟ์ 112 เกม
นายทวารกัปตันทีมชาติอิตาลีผู้นี้ พาทีมคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ให้อิตาลีได้เร็จซ้ำยังเป็นผู้ที่แก่ที่สุดที่ติดทีมชาติอิตาลีด้วยวัย 42 ปี
4.จานลุยจิ บุฟฟ่อน (ยังเล่นอยู่)99 เกม
ผู้รักษาประตูระดับอิจฉริยะลงเล่นตัวจริงให้ทีมปาร์ม่าด้วยวัย 17 ปีและยังคงเป็นนายประตูที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อย้ายจากปาร์ม่ามายูเวนตุสด้วยค่าตัว 27.5 ล้านปอนด์ พาอิตาลีคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ในปี 2006 ด้วยสถิติสุดเหนียวหนึบเสียไปเพียง 2 ประตูใน 7 เกมจากลูกเข้าประตูตัวเองแบบสุดเฟอะของซัคคาร์โด้และจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศของซีดาน
5. จาชินโต้ ฟัคเค็ตติ 94 เกม
สุดยอดแบ็คซ้ายของอิตาลีและเป็นกัปตันทีมชาติอิตาลีด้วย เป็นเหมือนกับเปาโล มัลดินี่ของอินเตอร์คือไม่ย้ายไปไหนเป็นเดกฝึกหัดของอินเตอร์และเล่นจนแขวนสตั๊ดไปกับอินเตอร์ด้วย เกือบพาอิตาลีเป็นแชมป์โลกในปี 70 แต่ในนัดชิงทานเกมรุกของบราซิลที่มีเปเล่ไม่ได้แพ้ไป 1-4 เคยดำรงตำแหน่งประธานอินเตอร์ปัจจุบันเสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง
6. จานลูก้า ซามบร็อตต้า(ยังเล่นอยู่) 91 เกม
วิงแบ็คที่เล่นเป็นปีกมาก่อน ปัจจุบันสังกัดสโมสรเอซีมิลานคนนี้ เป็นแบ็คที่อิตาลีชุดแชมป์โลก 2006 ขาดไม่ได้เล่นได้ดีเติมเกมรุกเฉียบขาดยิงจากแถวสองได้ดี สถิติของซัมบร็อตต้าคงยังไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอนเมื่อปัจจุบันเขายังคงโชว์ฟอร์มและทำผลงานคงเส้นคงวากับต้นสังกัดสโมสรเอซี มิลานอยู่
7. อเลสซานโดร เดลปิเอโร่ (ยังเล่นอยู่) 91 เกม
อาเล่ เดลปิเอโร่มีส่วนช่วยอิตาลีคว้าแชมป์โลก 2006 เมื่อรับบทตัวสำรองของต็อตติแล้วเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อลงมาจัดการกับเยอรมันด้วยประตูที่สุดสวยและในนัดชิงเขาก็สังหารจุดโทษไม่พลาดในนัดกับทีมชาติฝรั่งเศสส่งผลให้อิตาลีเอาชนะและคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 จนได้