เรอัล มาดริดตกม้าตายอีกแล้วหลังโชว์ฟอร์มพลิ้วไล่ยำเอซี มิลานอย่างสนุกสนานแต่จนแล้วจนรอดเจอทีเด็ดปาโต้ก่อนหมดเวลา 2 นาทีให้ทีมเยือนบุกมาคว่ำสุดระทึก 3-2
แชมเปี้ยนส์ลีก
วันพุธที่ 21 ตุลาคม 2552
เรอัล มาดริด 2-3 เอซี มิลาน
ประตู : 1-0 ราอูล น.19,1-1 ปิรโล่ น.62,1-2 ปาโต้ น.66,2-2 เดรนเธ้ น.76,2-3 ปาโต้ น.88
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมาไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาดริดลุยใส่มิลานที่พยายามเคาะบอลเล่นช้าโดยจังหวะรับลูกทีมของเลโอนาร์โด้คุมโซนไม่วิ่งไล่ในแดนเจ้าถิ่นมากนัก
ราชันไม่ได้จุดโทษ
อีก 2 นาทีต่อมาไม่รู้ว่ามิลานรอดพ้นเสียจุดโทษได้ยังไงหลังเบนเซม่าเลี้ยงหนีซัมบร็อตต้าในเขตเยื้องๆฝั่งขวาแล้วแข้งทีมชาติอิตาลีเข้าพรวดสไลด์เลาะจากด้านหลังไม่โดนบอลเลยแต่กรรมการใจแข็งไม่ให้อะไรทั้งนั้น
ดีด้าทำช็อกมิลานโดน 1-0
อย่างไรก็ตามนาที 19 ดีด้าทำเอางานกร่อยโคตรๆเมื่อกราโนโร่ยิงไกลนอกเขตบอลเบาเป็นก้อนเมฆจนดีด้ายืนรับสบายก่อนตบบอลลงพื้นแล้วรับเข้ามือแล้วจังหวะนี้เองที่เจ้าตัวทำเก๋าไม่มองบอลแต่ตามองตรงไปข้างหน้าคล้ายทำบัตรประชาชนทำให้บอลไปถูกน่องตัวเองกระฉอกแล้วทีนี้ทุรนทุรายล้มตัวจะคว้าจากขาราอูลที่วิ่งมาเก็บตกสุดท้ายแปโล่งๆเข้าไป ไม่เจอกันนานยังเหมือนเดิมสำหรับดีด้านายทวารระดับชาติคือไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า
อินซากี้พลาดโอกาสทอง
นาที 25 ปีศาจแดงดำน่าจะตีเสมอได้หลังซีดอร์ฟแงะบอลจากปีกซ้ายก่อนลากมาถึงหน้าเขตโทษแล้วเปิดย้อยให้อินซากี้วิ่งแลบส่วนกับไลน์ของแผงกองหลังมาดริดแต่ตอนล้มตัวแปเน้นๆ 6 หลาไร้ตัวประกบดันแป๊กบอลปลิ้นออกหลังอย่างน่าเสียดาย นี่ถ้าเอาลงคงได้ล่อเป้าเลือกมุมสบายๆแน่
มิลานขุนไม่ขึ้น
เกมของมิลานช็อตไปเลยเพราะเป็นมาดริดขึงเกมพาบอลเข้าใส่อยู่เกือบๆข้างเดียวและถ้ายังเล่นแบบนี้ก็เท่ากับรอวันเสียลูกสองอย่างเดียวเท่านั้น
แพมช่วงทดเจ็บนาทีแรกมิลานเกือบพังหลังมาร์เซโล่ากระชากสไตล์แซมบ้าหนี 2 นักเตะมิลานซึ่งรวมทั้งโรนัลดินโญ่ที่เข้ามาช่วยแต่เอาไม่อยู่ก่อนสับด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเป็นกระสวยนำวิถีตรงหน้ากรอบโทษแต่ดีด้าบินปัดสุดสวย หมดครึ่งแรกมาดริดนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
กาก้าเกือบยิงทีมเก่า
เริ่มมา 6 นาทีมิลานยังปล่อยให้มาดริดปูพรมเข้าใส่เหมือนเดิมและเกือบพังอีกหลังกาก้าลากจี้เอื่อยๆเข้าหาอ็อดโด้ในกรอบโทษด้านข้างก่อนลากเข้ามุมแคบแล้วยิงเร็วด้วยอีซ้ายยัดใส่ดีด้าที่ล้มตัวปัดบนเส้นเหลือเชื่อ
เกมรุกของปีศาจแดงดำน่าเหนื่อยหน่ายใจเหลือเกินเพราะตัวสนับสนุนปาโต้และอินซากี้มีน้อยเรียกว่าเจอรุมกินโต๊ะไปกันไม่เป็นเลยทีเดียว
ปิร์โล่ตะบันไกล 1-1
แต่แล้วเหตุการณ์ช็อกเกิดขึ้นในนาที 61 โดยมิลานที่รับมาตลอดกลับมาตีเสมอหน้าตาเฉยจากลูกยิงไกล 35 หลาของอันเดร ปิร์โล่บอลพุ่งต่ำเบียดเสาคาซิญาสพยายามพุ่งปัดแต่โดยปลายนิ้วบอลตุงตาข่ายเล่นเอาแฟนบอลในสนามนั่งมึนกันเป็นแถว แล้วท่ายิงของปืโร่ตอนปล่อยบอลต้องบอกสวยงามเหมือนคนกระโดดลอยจากฟ้ายกขากันเลยทีเดียว
จากนั้นอีก 2 นาทีซัมบร็อตต้ายิงไกลติดไซด์ก้อยบอลพุ่งปลิ้นถากเสาออกไปเล่นเอาคาซิญาสที่ยังหลอนอยูพุ่งสุดปลายมือไม่ทันแล้ว
ราชันช็อก!!มิลานพลิกนำ 2-1
ช็อกรอบสอง!! มิลานมาพลิกขึ้นนำในนาที 66 หรือ 5 นาทีหลังตีเสมออย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออัมโบรซินี่ตักบอลย้อยตรงกลางสนามให้ปาโต้วิ่งสอดไลน์ล้ำหน้าโดยมีกองหลังมาดริดสองคนวิ่งตีคู่มาแต่ตอนปล่อยบอลตกนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่คาซิญาสวิ่งออกมานอกเส้นแล้วกะผิดทำให้ปาโต้วิ่งไปแปโล่งๆเข้าไป มิลานนำแล้ว 2-1
เดรนเธ้ซูเปอร์ซับ 2-1
เกมของมาดริดมารอดตายหลังนาที 76 ลูกสูตรเตะมุมของราอูลที่ไม่เปิดเข้าเขตโทษแต่เลือกครอสออกมานอกกรอบให้เดรนเธ้จับหนึ่งทีก่อนตะบันด้วยอีซ้ายสวนตัวบอร์ริเอโร่ที่พยายามเข้ามาบล็อกตรงหน้าเขตโทษแต่บอลเลียดทะลุเบียดเสาหมดสิทธิ์ที่ดีด้าจะพุ่งทัน
เกือบมีมวยหมู่
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีมิลานเกือบทำแสบหลังปิรโร่ยิงไกลบอลแฉลบไปเข้าทางปาโต้ที่เก็บตกในกรอบโทษก่อนยิงเต็มๆติดเซฟขาคาซิญาสข้ามคานอย่างไม่น่าเชื่อ
และจากจังหวะเตะมุมนี้เองที่เกิดปัญหาชุลมุนเมื่อเธียควินโญ่สะบัดโขกที่เสาแรกเต็มๆตุงตาข่ายอย่างสวยงามแต่กรรมการไม่รู้มองยังไงเป่าเป็นลูกฟาว์ลทั้งๆมาดริดไปชนกันเองทีนี้นักเตะทีมเยือนมาประท้วงแฟร็งค์ เด บลีคเคลียร์จนผู้เล่นมาดริดก็เข้ามาขวางไม่ให้ประท้วงแถมโรนัลดินโญ่ไปฟาดแขนใส่ราอูลที่หันมาจะะอาคืนแล้วคราวนี้เนสต้ามาผลักอกราอูลจนวุ่นวาย
ปาโต้ซัดชัย 3-2
แต่แล้วนาที 88 มิลานมาเอาประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ซีดอร์ฟได้บอลในกรอบเขตโทษแล้วไม่รู้จะไปต่อยังไงเพราะตัวช่วยน้อยแต่กองหลังมาดริดมีส่วนช่วยทำให้ซีดอร์ฟมีเวลามองหาปาโต้ก่อนชิพข้ามไปเสาสองตรงระยะ 8-9 หลาสุดท้ายหอกแซมบ้าวิ่งมาแปยิงยัดเบียดเสาตรงช่องระหว่างคาซิญาสเข้าไป คราวนี้นักเตะมาดริดยกมือจะฟ้องเอาล้ำหน้าแต่ไม่เป็นผลแล้วมิลานเอาชนะไป 3-2 ชนิดหักปากาเซียนนำจ่าฝูงร่วมกับมาดริดมี 6 แต้ม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส,เปเป้,ราอูล อาบิออล,มาร์เซโล่,แซร์คิโอ รามอส,ชาบี้ อลอนโซ่,ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า,คาริม เบนเซม่า,ราอูล,กาก้า,เอสเตบัน กราเนโร่(เดรนเธ้ น.67)
เอซี มิลาน : ดีด้า,เทียควินโญ่,อเลสซานโดร เนสต้า,มัสซิโม อ็อดโด้,อันเดร ปิร์โล่,มาสซิโม อัมโบรซินี่,คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ,โรนัลดินโญ่(ฟลามินี่ น.92),ฟิลิปโป้ อินซากี้(บอร์ริเอโร่ น.60),ปาโต้
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee.