โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือวีแกน "โม" ทีมตัวเองอีท่าไหนไม่รู้ นักเตะแต่ละคนลงไปสู้ด้วยมาดฮีโร่ กล้าเล่น กล้าหลอก จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นทีมเดียวกับที่โดน อาร์เซน่อล ถล่มยับมาหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ขณะที่วีแกนเก่งผิดหูผิดตา เชลซีเองกลับผิดฟอร์มน่าเกลียด โดยเฉพาะเกมรับที่เสียทั้ง 3 ลูกแบบหมดสภาพ
มันก็ถูกที่จุดเปลี่ยนคือ การเสียจุดโทษและ ปีเตอร์ เช็ก โดนไล่ออก แต่ผมว่าเชลซีคงไม่กล้าบ่นอะไรมาก เพราะตัวเองก็เล่นไม่ดีจริงๆ นั่นแหละ
แพ้นัดนี้เสียหายนะครับ แค่ทำแต้มหกอย่างเดียวยังไม่เท่าไหร่ แต่ดันโดน แมนฯยู แย่งจ่าฝูงด้วย แถมนัดหน้าเชลซียังต้องตัดแต้มกันเองกับลิเวอร์พูลอีกต่างหาก
เห็นโจทย์ก็คงรู้ใช่ไหมว่าใครได้กำไรไปเต็มๆ
แมนฯยูไนเต็ดแตกต่างจากทีมอื่นตรงการเป็นจอมฉวยโอกาสชั้นยอด ยิ่งปีนี้เล่นสบาย ไม่ค่อยมีใครคาดหวังมากเพราะมัวไปปลื้มกับเชลซีแทน ปีศาจแดงก็ยิ่งแฮปปี้ ก้มหน้าก้มตา รอสอยแต้มลูกเดียว
แมนฯยูอันตรายเพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าไม่น่าจะอันตราย ไม่น่าได้แชมป์อีก ที่ไหนได้ ยิ่งเรตติ้งตก ลูกน้องเซอร์อเล็กซ์ยิ่งเล่นเป็นพระเอก
อีกทีมที่ได้ประโยชน์จากสภาพปลอดความกดดันชั่วคราวคือ ลิเวอร์พูล
พอแพ้ถึงสองจากสามนัดแรก เครดิตของหงส์แดงหายไปกว่าครึ่ง จากที่เคยเป็นเต็งจ๋าก่อนเปิดฤดูกาลก็แทบเปลี่ยนเป็นเต็งหาม หาคนเชื่อมือได้น้อยมาก
แต่ทีมชั้นยอดย่อมไม่ตายง่ายๆ ลิเวอร์พูลก็เหมือนแมนฯยูคือ อาจจะเซบ้าง แต่ด้วยมาตรฐานที่สูงส่ง บวกความเป็นนักสู้ และนักล่า ทำให้หาทางพลิกสถานการณ์กลับมาได้เสมอ
สำหรับหงส์แดง ถ้ามี เฟร์นานโด ตอร์เรส อยู่ในสนาม ทุกอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
เกมถล่มฮัลล์ 6-1 บอกตามตรงว่า พากย์บอลมาสิบกว่าปี ผมยังไม่เคยเห็นกองหลังทีมไหนโดนฆาตรกรรมด้วยฝีเท้านักเตะคนเดียวอย่างที่ตอร์เรสทำมาก่อน
มันเหมือนบอลคนละคลาส หลอกกันหัวโต อยากยิงเมื่อไหร่ก็ยิง ทำอะไรได้อย่างใจเกือบทุกอย่าง
ทุกวันนี้ตอร์เรสก็คือ ลิเวอร์พูล, ว่าไหมครับ