เอมมานูเอล อเดบายอร์ เด่นสุดสุด ในเกม แมนฯซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล น่าเสียดายที่ความเด่นที่ว่าดันมีทั้งด้านดีและด้านมืด แถมอย่างหลังทำท่าว่าจะแซงหน้าไปแล้วด้วยซ้ำ
อเดบายอร์ให้ใจ ทำทุกอย่างในนัดนี้ นอกจากพังประตูทีมเก่าได้สำเร็จ ยังขยันวิ่งทำเกม ไล่ตัดบอล เป็นทั้งตัวพักบอลในแดนหน้าและเผด็จศึกด้วยตัวเอง
ถ้าให้คะแนนจากฟอร์มการเล่นอย่างเดียว เขาน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 9 เต็ม 10
แต่ในความทุ่มเทของอเดบายอร์มันก็ใส่อารมณ์ร่วมแบบร้ายกาจ พอจะเห็นได้ว่า เล่นเพื่อเอาชนะและพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าแฟนบอลปืนใหญ่ รวมทั้งโจทก์เก่าบางคนที่เหม็นหน้ากันมาแต่ไหนแต่ไร
ภาพที่เขาเหยียบหน้า ฝากรอยปุ่มสตั๊ดใส่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับการวิ่งควบกลับไปดีใจเย้ยแฟนๆ อาร์เซน่อลหลังโหม่งพังประตูที่ 3 ให้แมนฯซิตี้คือ พฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ทั้งสองเรื่อง
ผมเองนั่งพากย์อยู่ยังตกใจว่ามันทำไปได้ยังไง (วะ)
เรื่องแรกว่าน่าเกลียดแล้ว เรื่องหลังยิ่งสุดโต่งและรับประกันได้เลยว่า โดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษลงโทษย้อนหลังอ่วมแหงๆ
นักเตะที่วิ่งไปฉลองประตูต่อหน้าแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม ถ้าไม่บ้าบิ่นสุดสุด ก็ต้องเมาแอ๋ เพราะถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงโดยตรง กรณีของอเดบายอร์ยังเฮงนะครับที่แฟนอาร์เซน่อลแค่ด่าเช็ดกับปาของลงมาโดนการ์ดโชคร้ายสลบไปแค่แป๊บเดียว
ถ้าไปทำที่อื่น อย่างในตุรกี หรือบางชาติในอเมริกาใต้ มีหวังโดนขาโจ๋กรูลงมารุมตื้บ เผลอๆ อาจบานปลายกลายเป็นจลาจลเอาง่ายๆ
แม้แต่บ้านเรา เกิดมีใครเลียนแบบอเดบายอร์ ผมก็ว่าเละเหมือนกันแหละ
เรื่องนี้ถึงเจ้าตัวจะออกมาขอโทษและยอมรับผิดแต่ก็หยุดสิ่งที่จะตามมาไม่ได้ คิดดูแล้วกัน ถ้าเขาออกไปเล่นนัดเยือนที่บ้านอาร์เซน่อลจะเกิดอะไรขึ้น ภาพพจน์นับจากนี้ก็ติดลบ รวมทั้งเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลทีมอื่นทุกทีม
แล้วถ้าโดนโทษแบนสถานหนัก แมนฯซิตี้ก็สะดุ้งเพราะอเดบายอร์คือ หัวใจในแนวรุก สำคัญถึงขนาดทำแต้มให้ทีมได้ด้วยตัวเองเพียวๆ
ซิตี้กำลังไปได้สวย นักเตะเขี้ยวมาก เล่นเอาคะแนนก็เก่ง ถ้าต้องสะดุดเพราะอรมณ์ชั่ววูบของเจ้าบายอร์ก็น่าเสียดายชะมัด