ฝ่าทางปืน

ยอมรับนะครับว่า ผมไม่ค่อยเชื่อน้ำยา แมนฯซิตี้ ของกุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส แม้จะลงทุนสร้างทีมใหม่ไปกว่าร้อยล้านปอนด์ แต่มันก็เหมือนจับฉ่ายกว่าจะปรับตัวเข้ากันได้น่าจะนานพอดู

เอาเข้าจริงกลับผิดคาด ซิตี้ออกสตาร์ตชนะมา 3 นัดรวด ยังไม่เสียสักประตูแถมตัวใหม่-ตัวเก่ายังจูนคลื่นกันได้เนียนกว่าที่คิด

มาร์ก ฮิวจ์ส เองก็สมควรได้รับเครดิตที่สามารถสร้างความคึก ความกระหายให้บรรดาซุปเปอร์สตาร์ ลงสนามไปเล่นอย่างทุ่มเท ไอ้ความขยันวิ่ง ขยันไล่บอลแบบไม่หวงตัวนี่แหละทำให้ผลงานออกมาดี ช่วยอุดช่องว่างเรื่องทีมเวิร์กที่อาจจะยังติดนิดติดหน่อยไปได้เยอะ

9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดยังลดความกดดันให้แมนฯซิตี้ด้วย เกมใหญ่ที่จะหวดกับ อาร์เซน่อล วันเสาร์นี้ ทีมของกุนซือฮิวจ์สจึงไม่มีอะไรต้องเกร็ง เริ่มปุ๊บก็ลุยได้แบบเต็มถังทันที

นักเตะเรือใบสีฟ้าปลอดโปร่งโล่งใจกว่าพวกปืนใหญ่แน่ อย่าลืมว่า อาร์เซน่อลเพิ่งแพ้ แมนฯยู ในนัดหลังสุดและแพ้แบบถูกมองซ้ำซากว่ายังไม่โตพอ ยังไม่เก๋าพอเหมือนเดิม ซึ่งเป็นเรื่องน่าเจ็บใจชะมัดสำหรับบิ๊กบอส อาร์แซน เวนเกอร์

อาร์เซน่อลอุตส่าห์ออกตัวจี๊ดจ๊าด ตัวรุ่งๆ อย่าง อาบู ดิอาบี้ ก็ทำฟอร์มว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวโจก ทุกอย่างคงจะก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ถูกกระชากกลับมาด้วยน้ำมือปีศาจแดงแบบนี้

เกมบุกถิ่นเรือใบ ไอ้ปืนใหญ่จึงแพ้ไม่ได้ และที่จริงควรทำฟอร์มกลับมาให้สวยด้วย ถ้าหวังจะลุ้นแชมป์กับคนอื่นเขา

ผมดูเกมอาร์เซน่อลมาหลายนัด ยังเชื่อว่ามีความนิ่ง แน่นอนกว่าแมนฯซิตี้ ยิ่งได้ เชสก์ ฟาเบรกาส ฟิตกลับมา แดนกลางยิ่งแน่นปั๋ง ตรงนี้ยังไงก็เหนือกว่า

แต่ปัญหาคือ บางช่วงของเกมนักเตะปืนใหญ่ชอบเสียสมาธิ เหม่อหรือเนือยเมื่อไหร่เป็นหลุดให้เห็น วันแพ้แมนฯยูก็เพราะจุดนี้คือ เล่นไม่ละเอียด ไปเปิดโอกาสให้เขาเอง สุดท้ายเกมก็พลิก

นั่นจะเป็นโอกาสของแมนฯซิตี้ ถ้าสู้กันด้วยเกมรวมๆ เรืออาจกินไม่ลง แต่ถ้าเป็นลูกฉาบฉวย อาศัยกึ๋นกับความสามารถเฉพาะตัวพลิกแพลงเอา ซิตี้มีเยอะ และเพียงพอจะสร้างจุดเปลี่ยนได้สบาย

เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่จะลงไปเจอทีมเก่าเป็นไฮไลต์ในสนามแน่ เสียดายที่ คาร์ลอส เตเวซ เจ็บ ไม่น่าลงไหว แต่พวกที่เหลืออย่าง เคร็ก เบลลามี่ โรบินโญ่ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ก็ยังร้ายกาจอยู่ดี

แมนฯซิตี้อยู่ในเงื่อนไขคล้ายๆ สเปอร์ส ที่จะหวดกับแมนฯยูในวันเดียวกันคือ ถ้าจะชนะหรือได้แต้มก็ต้องฉวยโอกาสดีๆ เจอจุดเปลี่ยนเมื่อไหร่ต้องคว้าไว้ไม่ให้พลาด

ทีมตราไก่จะแย่หน่อยตรงตัวเจ็บเยอะ โดยเฉพาะ ลูก้า โมดริช ที่เป็นหัวใจในแนวรุก นัดนี้ก็เลยหวังพึ่งความเร็วกับความคมของ อารอน เลนนอน และ เจอร์เมน เดโฟ เข้าว่า

สเปอร์สชนะมา 4 นัดรวด คงช่วยสร้างความมั่นใจได้ เรื่องใจนี่สำคัญนัก เพราะแฟนๆ ยังไม่ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลก่อนแน่นอน

จำได้ไหมครับ สเปอร์สเคยบุกไปนำแมนฯยู 2-0 แต่ครึ่งหลังเสีย 5 ประตูกลายเป็นแพ้ 2-5 แบบนี้จะเชื่อใจไก่ได้ไหมล่ะ?

โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ 12 ก.ย. ปอร์ทสมัธ-โบลตัน, แบล๊คเบิร์น-วูล์ฟ, วีแกน-เวสต์แฮม, ลิเวอร์พูล-เบิร์นลีย์, สโต๊ก-เชลซี, ซันเดอร์แลนด์-ฮัลล์, แมนฯซิตี้-อาร์เซน่อล, สเปอร์ส-แมนฯยู วันอาทิตย์ 13 ก.ย. เบอร์มิงแฮม-แอสตัน วิลล่า, ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน

โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์+ฟรีทีวี

คืนวันเสาร์ 12 ก.ย. เวลา 21.00 น. แบล๊คเบิร์น-วูล์ฟ (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 66), ลิเวอร์พูล-เบิร์นลีย์ (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107, แมนฯซิตี้-อาร์เซน่อล (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ ช่อง 110), ปอร์ทสมัธ-โบลตัน (ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67), สโต๊ก-เชลซี (ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับซี ช่อง 109), ซันเดอร์แลนด์-ฮัลล์ (คลับเอ็ม ช่อง 106), วีแกน-เวสต์แฮม (ทรูวิชั่นส์ 27) เวลา 22.15 น. ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับแอล ช่อง 107, คลับเอ) เวลา 23.30 น. สเปอร์ส-แมนฯยู (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับเอ็ม ช่อง 106) เวลา 01.00 น. เอสปันญ่อล-รีล มาดริด (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 01.45 น. ลาซิโอ-ยูเวนตุส (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 03.00 น. เซบีญ่า-ซาราโกซ่า (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)

คืนวันอาทิตย์ 13 ก.ย. เวลา 19.00 น. เบอร์มิงแฮม-แอสตัน วิลล่า (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับแอล, คลับซี) เวลา 20.00 น. อินเตอร์-ปาร์ม่า (ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, ฟรีทีวีช่องเอ็นบีที) เวลา 22.15 น. ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน (ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับแอล ช่อง 107, คลับเอ ช่อง 110)