อูเซน โบลท์ (Usein Bolt) เทพเจ้า100เมตร ผลผลิตจากประเทศจาไมก้า ไปหาคำตอบว่าทำไมคนประเทศนี้วิ่งเร็วที่สุดในโลก
ปี 1968 หรือ พ.ศ. 2511 เป็นปีแรกที่จิม ไฮนส์ นักวิ่ง US วิ่ง 100 เมตรได้เร็วกว่า 10 วินาที หลังจากนั้นมีการทำลายสถิติเรื่อยมาจนถึงยุคของอูเซน โบลท์ (9.72 วินาที พค.52 > 9.69 วินาที สค. 52)
นักวิเคราะห์เชื่อว่า โบลท์จะทำเวลาได้ถึง 9.4 วินาทีอย่างที่เจ้าตัวประมาณการณ์ไว้ โบลท์วิ่งเร็วมากตั้งแต่ออกสตาร์ท และจะชะลอความเร็วในช่วงสุดท้ายของการวิ่งเมื่อรู้ว่า ชนะคู่แข่งมากพอแล้วเสมอ ไม่เหมือนนักวิ่งหลายๆ คนที่เน้นความเร็วในช่วงสุดท้าย
กลไกที่ทำให้โบลท์วิ่งเร็วมีผู้วิเคราะห์ไว้ดังต่อไปนี้
(1). ความสูง
โบลท์สูง 1.96 เมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ยนักวิ่งโอลิมปิก ซึ่งสูง 1.75-1.9 ม. ทำให้ก้าว (stride) ยาวกว่าคนอื่น [ BBC ]
(2). อาหาร
โบลท์หนัก 86 กก. สูตรอาหารประจำเป็นสูตร '6-60' ได้แก่ 6 มื้อ โปรตีน 60% ตามด้วยคาร์บ (แป้ง-น้ำตาล) 30%, ไขมัน 10% [ motleyhealth ] อาหารที่กินหลักๆ มีไก่ หมู ปลา ไม่ได้ใช้อาหารเสริมอะไร ยกเว้นวิตามิน C, โบลท์ให้สัมภาษณ์ว่า เขากินมันฝรั่งหวานคล้ายๆ มันสำปะหลังยักษ์ (ยาวเกือบ 1 เมตร) ที่ชื่อ "แยมส์ (yams)" ซึ่งคนอาฟริกาตะวันตก และหมู่เกาะแคริบเบียนส์กินกันเป็นอาหารเสริม ช่วยย่อย ช่วยระบบขับถ่าย
(3). ความใฝ่ฝัน
จาไมกาเป็นประเทศที่ยากจน และเด็กที่นั่นใฝ่ฝันที่จะเป็นแชมป์วิ่งให้ได้คล้ายกับเคนยา ต่างกันตรงที่นักวิ่งเคนยาเน้นการวิ่งมาราธอน นักวิ่งจาไมกาเน้นการวิ่งระยะสั้น กล่าวกันว่า สิ่งที่เด็กๆ จะต้องทำกันเสมอ คือ วิ่งแข่งกันขึ้นเนินตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้โบลท์ยังคงวิ่งขึ้นบันไดอย่างเร็วพร้อมถือตุ้มน้ำหนัก (explosive step ups with weighted barbell) เพียงแต่เปลี่ยนจากวิ่งขึ้นเนินมาเป็นวิ่งขึ้นบันไดอย่างเร็ว และใช้ตุ้มน้ำหนักช่วย
(4). การฝึก
โบลท์ใช้วิธีการฝึกหลากหลาย ไม่ได้ฝึกวิ่งอย่างเดียว เล่นเวทด้วย เน้นการฝึกกล้ามเนื้อขาท่อนบน (squat, lunges), pylometric (เน้นการเคลื่อนไหวอย่างเร็วสลับกับใช้แรง มักจะมีท่ากระโดดลอยเหนือพื้นปนอยู่ด้วย), การฝึกกล้ามเนื้อโครงสร้าง (กล้ามเนื้อรอบๆ ท้อง-หลังที่ใช้พยุงกระดูกสันหลัง-เชิงกราน ทำให้เคลื่อนไหวได้แรง-เร็ว), การฝึกเคลื่อนไหวรอบทิศอย่างเร็ว (flexibility), สปริ๊นท์เร็วหลายรูปแบบ (sprint drills) โบลท์ฝึกหนักวันละ 3 ชั่วโมง คิดเป็นเวลาน้อยกว่านักวิ่งคนอื่นๆ ตามด้วยการนวดและพักผ่อน และให้สัมภาษณ์ว่า ความสำเร็จของเขามาจากการฝึกหนัก แม้ว่าตอนเด็กๆ จะขี้เกียจมากไปหน่อยก็ตาม
(5). พันธุกรรม
ศ.เอร์รอล มอร์ริซัน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี คิงส์ทัน ร่วมกับทีมจากมหาวิทยาลัยเวสท์ อิสดีส และกลาสโกว์ UK ทำการศึกษานักกีฬาที่มาจากอาฟริกาตะวันตกพบว่า นักวิ่งที่วิ่งเร็วมีสาร 'Actinen A' ในกล้ามเนื้อชนิดหดตัวเร็วมาก ทำให้วิ่งได้เร็ว
คนจาไมกามีสารนี้ 70% มากกว่ากลุ่มควบคุมชาวออสเตรเลียที่มี 30% ซึ่งช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมนักกีฬาจาไมกาที่ "ส่งออก" ไปยังประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา, UK ฯลฯ วิ่งเร็วมาก ทำให้สัดส่วนแชมเปี้ยนที่มาจากจาไมกาสูงมาก ทั้งๆ ที่ประเทศนี้มีประชากรน้อยกว่า 2.8 ล้านคน
ถ้าเราเชื่อเรื่องความสูง... เราคงต้องส่งเสริมโภชนาการ โดยเฉพาะแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ฯลฯ ให้คนรุ่นใหม่ ขอให้นอนมากพอด้วยจึงจะสูง
ถ้าเราเชื่อเรื่องความใฝ่ฝัน... เราคงต้องทำพิพิธภัณฑ์กีฬาทั้งแบบหอสมุดชั้นดี แบบที่ 'TK park' ทำ และห้องสมุดออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต เพื่อให้คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันมุ่งมั่นที่จะทำอะไรดีๆ
ถ้าเราเชื่อเรื่องอาหารเสริมมันฝรั่งหวาน "แยมส์" คงต้องไปขอพันธุ์จากจาไมกามาปลูก และวิจัยว่ามีอะไรในนั้นหรือไม่
ถ้าเราเชื่อเรื่องพันธุกรรม... ตรงนี้ยากหน่อย เพราะอาจต้องขอให้ชาวจาไมกาเก่งๆ ย้ายมาอยู่เมืองไทย หรือเป็นโค้ชเมืองไทย "มากๆ หน่อย"