โจ กองหน้าเอฟเวอร์ตัน |
โจ ที่เริ่มต้นการค้าแข้งในเมืองผู้ดีกับแมนฯซิตี้ ก่อนจะย้ายมาเล่นให้ทีม ทอฟฟี่สีน้ำเงินเอฟเวอร์ตั้นด้วยสัญญายืมตัว เล่าถึงชีวิตของตัวเองให้นิวส์ ออฟ เดอะ เวิร์ลด์ ฟังอย่างหมดเปลือกว่าต้องเติบโตขึ้นมาในเมืองบราซิเลีย เมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและความรุนแรง มีการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ไม่เว้นแต่ละวัน ยังไม่นับปัญหาเรื่องยาเสพติดที่ปราบปรามเท่าไหร่ก็ไม่หมด
ความยากจนทำให้พ่อของเขาต้องขับเท็กซี่ควงกะ วันละไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง และผู้เป็นแม่ต้องทำงานเป็นแม่บ้านทั้งสุขภาพไม่ดี โจที่กลายเป็นความหวังของครอบครัว หลังจากที่พี่ชายคนโตประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตเมื่อ 7 ปีก่อน จึงต้องพยายามทุ่มเทให้กับการเล่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้เซ็นสัญญากับทีมดีๆ ซึ่งก็หมายถึงเงินค่าเหนื่อยที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ผมต้องการเล่นฟุตบอลเพราะครอบครัวของผมต้องพึ่งผม ผมต้องการเงินจากการเซ็นสัญญาดีๆ เพื่อให้แม่ผมได้พัก เธอเองก็ไม่อยากจะทำงานเป็นแม่บ้านแล้วเหมือนกัน เพราะเธอเจ็บที่หน้าอกมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนพ่อ ผมก็ไม่อยากให้ทำงานเหมือนกัน ผมอยากจะซื้อบ้านให้พวกท่านในวันหนึ่ง ทุกวันนี้ผมจึงพยายามทำงานอย่างหนักมาก เพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ ผมอยากให้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปเสียที
พ่อดีใจมากที่ผมได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนกับโครินเธียนส์ เพราะพ่อเองก็เคยเล่นโครินเธียนส์มาก่อน แต่พ่อไม่ประสบความสำเร็จ เพราะในตอนนั้นพ่อหนีเที่ยว พ่อจึงสนับสนุนผมอย่างเต็มที่และอบรมสั่งสอนผมเสมอ พ่อไม่อยากให้ผมเป็นแบบพ่อ ดาวยิงวัย 22 ปี ซึ่งต้องพลาดโอกาสเซ็นสัญญากับยอดทีมอย่างแมนฯยูเมื่อหลายปีก่อน เพราะสโมสรโครินเธียนส์ ต้นสังกัดในขณะนั้นปฏิเสธการปล่อยตัว
ทุกวันนี้โจต้องส่งเงินค่าเหนื่อยที่ได้จากเอฟเวอร์ตั้นเกือบทั้งหมดให้กับครอบครัว เหลือไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเพียงเล็กน้อยน้อยเท่านั้น ไม่สามารถจะใช้เงินฟุ่มเฟือยได้เหมือนกับที่เหล่าบรรดาแข้งชื่อดังทำได้ แต่เขาก็ยืนยันมีความสุขดีกับชีวิตที่ไม่หรูหราเช่นนี้
เพราะไม่มีอะไรจะทำให้เขาได้มีความสุขไปกว่าการได้เล่นฟุตบอลที่เขารักและได้เห็นรอยยิ้มของครอบครัวในเวลาเดียวกัน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด