ปีศาจแดงถมช่องว่างจากการเสีย โรนัลโด้-เตเวซ ด้วยทีมเวิร์ก นักเตะช่วยกันเล่นช่วยกันทำ ใช้ลูกแม่นกับความเร็วจู่โจมตามสไตล์ถนัด ซึ่งดูแล้วแม้จะเหมือน "ไม่ขาด" แต่ก็ยังไม่มีอะไรพิเศษอีกเหมือนกัน
นานี่ที่ยิงประตูได้ก่อนจะไหล่หลุดโดนเปลี่ยนออกยังดีแค่เกมรุก เกมรับเคยขาดยังไงก็ยังขาดอยู่อย่างนั้น ลูกแรกที่โดนตีเสมอ ต้องรับผิดชอบเต็มๆ ที่ไม่ได้ประกบ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จนปล่อยให้พุ่งโหม่งเข้าไปง่ายๆ
ถ้า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใช้นานี่เล่นฝั่งเดียวกับ ปาตริซ เอฟร่า แฟนๆ คงเสียวหน่อยเพราะถนัดลุยไปข้างหน้าแต่รับไม่ชัวร์พอๆ กัน ยิ่งกว่านั้นยังขี้ยัวะอีกต่างหาก โดยเฉพาะคนหลังนี่ฟิวส์ขาดง่ายสุดสุด
ส่วนตัวใหม่อย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย-ไมเคิล โอเว่น ก็ยังไม่ได้โชว์ของดีซักเท่าไหร่ เรื่องที่เคยหวังว่าจะมีบทบาทเพิ่มเขี้ยวเล็บให้ทีมอาจจะต้องลดความคาดหวังลงมาบ้าง
ตัวเด่นของแมนฯยูยังเป็นหน้าเดิมๆ อย่าง เบอร์บาตอฟ โอเช เฟลทเชอร์ แม้กระทั่งประตูดาวรุ่งอย่าง เบน ฟอสเตอร์ ที่แววดีมาก เอาเข้าจริงก็ยังวางใจไม่ได้เท่าพวกรุ่นพี่ๆ ปีศาจแดงฤดูกาลใหม่คงป้องกันแชมป์อย่างเหน็ดเหนื่อยและต้องแก้ปัญหามากกว่าทุกปี
ยิ่งเทียบกับเชลซีก็ยิ่งเห็นชัดว่า สิงโตน้ำเงินครามได้เปรียบในภาพรวมอยู่พอสมควร
คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นกุนซือที่น่าอิจฉาเพราะตุนนักเตะแจ่มๆ ฝีเท้าไล่เลี่ยกันไว้มากมาย แต่ละตำแหน่งมีตัวสแตนด์บายพร้อม ความฟิตกับความมุ่งมั่นก็เต็มร้อย
เชลซีอาจต้องปรับตัวเข้ากับแทคติคใหม่ของอันเชล็อตติอยู่บ้าง แต่ผมว่าไม่น่ามีปัญหา พวกนี้เก๋าออกจะตาย เล่นได้หลายรูปแบบหลายตำแหน่ง มีของครบๆ อย่างนี้ กุนซือก็ทำงานสนุกกันเท่านั้น
ทีมอย่างเชลซีถ้านักเตะมีไฟ อยากเล่น เรื่องอื่นก็แทบจะไม่สำคัญ เท่าที่ดู อันเชล็อตติน่าจะเอาอยู่นะครับ ขนาดพวกที่เกือบจะย้ายอย่าง จอห์น เทอร์รี่, คาร์วัลโญ่, เดโก้ หรือ ซาโลมง กาลู มันก็ยังลงไปลุยอย่างคึกคัก ไม่เบ้ไม่เบื่อ ยิ่งหัวโจกแบบ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ด้วยยิ่งวิ่งเป็นม้า
"คาร์เลตโต้" ออกสตาร์ตได้สวย แต่ที่เหลือยิ่งน่าตื่นเต้นกว่ามาก