เปิดศึกคอมมูนิตี้ชิลด์

คม-ชัด-ลึก

ศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ฟุตบอลนัดการกุศลซึ่งจัดเป็นประเพณี ได้ฤกษ์โม่แข้งคืนวันที่ 13 ส.ค. สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก เตรียมขนทัพใหญ่ ส่งสองซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ มิชาเอล บัลลัค กับ อังเดร เชฟเชนโก้ ลงสนาม แต่ไม่มี ปีเตอร์ เช็ก กับ โจ โคล ที่บาดเจ็บ ปะทะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์เอฟเอ คัพ ที่ขนตัวจริงลงเล่นนำโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด โดยช่อง 3 และยูบีซี 39 ถ่ายทอดสด 21.00 น.

หลังจากที่ศึกลูกหนังพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ปิดฤดูกาลพักแข้งไปเกือบ 3 เดือนเต็ม ในที่สุดก็จะกลับมาโม่แข้งกันอีกครั้ง ในคืนวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยจะประเดิมกันด้วยฟุตบอลนัดการกุศล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่มิลเลเนียม สเตเดี้ยม ระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยซ้อน จะพบกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์เอฟเอ คัพ โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 3 และยูบีซี 39 อีเอสพีเอ็น ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

สำหรับความพร้อมของทั้งสองทีมในเกมนัดนี้ ฝั่งเชลซี ซึ่งในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา คว้าตัวสองซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง มิชาเอล บัลลัค กองกลางทีมชาติเยอรมนี กับ อังเดร เชฟเชนโก้ ศูนย์หน้าทีมชาติยูเครน มาร่วมทีม โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ชาวโปรตุเกส ประกาศออกมาแล้วว่าทีมของเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคว้าชัยชนะสถานเดียวเท่านั้น

เราจะคว้าชัยชนะให้ได้ ผมจะไม่เล่นกับลิเวอร์พูล ในคอมมูนิตี้ชิลด์ เหมือนกับเกมที่เจอ เฟเยนูร์ด หรือ เซลติก ที่เราเปลี่ยนักเตะ 5-6 คนในช่วงพักครึ่ง, จับ บัลลัค กับ เชฟเชนโก้ เป็นตัวสำรอง หรือเอา จอห์น เทอร์รี นั่งข้างสนาม มูรินโญ่ กล่าว

โรโบ้เคร้าช์

อย่างไรก็ตามเกมนี้ มูรินโญ่ มีปัญหาเรื่องเกมรับพอสมควร เพราะจะไม่มี ปีเตอร์ เช็ก นายทวารตัวจริงที่เจ็บไหล่ลงเล่นไม่ได้ ขณะที่ วิลเลียม กัลลาส กองหลังชาวฝรั่งเศส ยังไม่ยอมมาซ้อม ขณะที่แผงกลาง โคลด มาเกเลเล มิดฟิลด์ตัวรับยังไม่ฟิต และ โจ โคล กองกลางจอมลีลาเจ็บเข่าเล่นไม่ได้

ส่วนนักเตะคนอื่นไม่มีปัญหา แฟรงค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน รวมถึง จอห์น เทอร์รี ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติคนใหม่ ลงสนามอย่างครบครัน ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกใช้การเล่นระบบ 4-3-3 ที่จะมี เชฟเชนโก้ เป็นหัวหอกเพียงคนเดียว หรือจะเป็น 4-4-2 ที่จะส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ลงมายืนเป็นศูนย์หน้าอีกคนเท่านั้น นอกจากนั้น จอน โอบี มิเกล กับ โซโลมอน คาลู ก็มีลุ้นได้ลงเล่นเกมนี้ด้วย

สำหรับ ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์รายการนี้ 13 ครั้ง ซึ่งเพิ่งเอาชนะ มัคคาบี ไฮฟา 2-1 ในการเตะศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือกรอบ 3 นัดแรก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่า ราฟาเอล เบนิเตซ จะส่งทัพใหญ่ลงรับมือชนิดเต็มอัตราศึก แต่จะไม่มี ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ หัวหอกตัวเก๋าที่เจ็บเข่า และ ฟาบิโอ ออเรลิโอ แบ็คซ้ายตัวใหม่ที่เจ็บน่อง

ขณะเดียวกัน ปีเตอร์ เคราช์ หัวหอกร่างโย่ง หรือ มาร์ค กอนซาเลซ ผู้ยิงประตูชัยในเกมก่อน ลงมายืนเป็นกองหน้าคู่กับ เครก เบลลามี เพื่อกดดันกองหลังเชลซีไม่ให้ดันเกมรุกขึ้นสูงก็ได้ โดยยังมี สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ ซาบี้ อลอนโซ คอยทำเกมแดนกลางเช่นเดิม

ส่วน ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เชื่อว่าลูกทีมของเขาจะสามารถสู้กับ เชลซี ได้แน่ แม้ว่าคู่แข่งจะมีซูเปอร์สตาร์มากมายก็ตาม

พวกเขาใช้เงินมากกว่าใครๆ กับการซื้อนักเตะในช่วงปิดฤดูกาล แต่เมื่อเราส่งนักเตะลงสนามพบกับเชลซี พวกเขาจะรู้ว่าเราสู้ได้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ได้ในการเล่นฟุตบอลถ้วยมา 2 หน นั่นแสดงให้เห็นว่าเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุด เมื่อในสนามมีนักเตะแค่ 11 คนลงเจอกัน ทำให้เรามีโอกาสชนะอยู่แล้ว เบนิเตซ กล่าว

คาร์วัลโญ่

สำหรับสถิติที่พบกันใน 2 ฤดูกาลหลังสุด เจอกันมาแล้วในทุกถ้วย 10 ครั้ง เชลซี ถือสถิติเหนือกว่าโดยเป็นฝ่ายชนะ 5 นัด เสมอ 3 นัด และแพ้เพียง 2 นัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม 2 นัดที่ลิเวอร์พูลชนะถือเป็นเกมที่มีความสำคัญ คือครั้งแรกเป็นชัยชนะในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ ที่พวกเขาก้าวไปคว้าแชมป์เมื่อ 2 ปีก่อน และในนัดตัดเชือกศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาลก่อน พวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้เช่นกัน

ขณะที่การพบกัน 4 นัดในศึกพรีเมียร์ชิพ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี เป็นฝ่ายชนะรวด

ส่วนบริษัทรับพนันในอังกฤษยกให้เชลซีเป็นต่อในเกมนี้ โดยตั้งอัตราต่อรองการเป็นผู้ชนะที่ 21-20 (แทง 20 ได้คืน 21 ไม่รวมทุน) เสมอกันที่ 2-1 และลิเวอร์พูล ชนะที่ 11-4 ขณะเดียวกันยังยกให้ อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าเชลซี เป็นเต็ง 1 ที่จะซัดลูกแรกของเกมนี้ ที่ 9-2 ตามด้วย ดิดิเยร์ ดร็อกบา ของเชลซี 6-1 และ เครก เบลลามี ของลิเวอร์พูล กับ โซโลมอน คาลู หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติไอวอรี โคสต์ ของเชลซี ที่ 7-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะได้ลงสนาม มีดังนี้

บัลลัค

เชลซี-ผู้รักษาประตู คาร์โล คูดิชินี, กองหลัง เปาโล แฟร์ไรรา, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี, เวย์น บริดจ์, กองกลาง มิกกาแอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน, กองหน้า อังเดร เชฟเชนโก้, ดิดิเยร์ ดร็อกบา

ลิเวอร์พูล-ผู้รักษาประตู โฆเซ่ เรนา, กองหลัง สตีฟ ฟินแนน, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน ริเซ, กองกลาง ซาบี้ อลอนโซ, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, สตีเวน เจอร์ราร์ด, หลุยส์ การ์เซีย, กองหน้า เครก เบลลามี, ปีเตอร์ เคราช์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์