มีเกณฑ์รุ่ง...คอนเฟิร์ม!วิลเชียร์เบิ้ลปืนถลุง 3-0

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport มีเกณฑ์รุ่ง...คอนเฟิร์ม!วิลเชียร์เบิ้ลปืนถลุง 3-0

ปืนใหญ่อาร์เซนอลคว้าแชมป์เอมิเรสต์ คัพอย่างง่ายดายและยังกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของเจ้าหนูแจ็ค วิลเชียร์ที่โชว์ฟอร์มเทพเกินคำบรรยายก่อนเหมาสองนำทีมรักไล่ถล่มกลาสโกว์ เรนเจอร์สแบบสู้ไม่ได้ 3-0

เอมิเรสต์ คัพ

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2552

อาร์เซนอล 3-0 เรนเจอร์ส

ประตู : 1-0 วิลเชียร์ น.2,2-0 เอดูอาร์โด้ น.10,3-0วิลเชียร์ น.72

เตะสองวันติดกันทำให้อาร์แซน เวนเกอร์ปรับทัพเล็กน้อยโดยให้เชสก์ ฟาเบรกัสเป็นตัวจริงและแจ็ค วิลเชียร์ที่เล่นโคตรเด่นในเกมพบแอต.มาดริดฐานะตัวสำรองก็มีชื่อเป็นตัวจริงเช่นเดียวกับอังเดร อาร์ขาวินฮีโร่ลงยืนหอกคู่เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

ครึ่งแรก

เริ่มมาแค่ 2 นาทีปืนใหญขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการต่อบอลอันสวยงามจากริมเส้นขึ้นมาก่อนเมริด้าแทงบอลมาหน้ากรอบโทษให้วิลเชียร์วิ่งข้ามจนฟาเบรกัสวิ่งสอดและแทงแบบดีดๆให้อาร์ขาวินที่ยืนพิงกับแนวรับตรงระยะ 6-7 หลาแต่ถูกแยงสกัดมาเข้าทางวิลเชียร์ที่ซัดอัดด้วยอีซ้ายระยะเน้นๆ 10 หลาบอลเสียบตาข่ายเข้าไปไม่มีเหลือ เจ้าหนูวิลเชียร์นัดเจอแอต.มาดริดก็เล่นดีคาดว่าอาร์แซน เวนเกอร์ให้ลงเล่นฤดูกาลหน้าบ่อยแน่

แนวรับเรนเจอร์สยวบจริงๆเพราะแค่ 10 นาทีลูกสองก็มาอีกจากการวางยาวในแดนหลังของอาร์เซนอลเป็นอาร์ชาวินโผนโขกหน้าเขตโทษคืนตั้งให้เมริด้าที่เหลือบเห็นดูดู้วิ่งเลยแทงด้วยซ้ายหลุดเข้ากรอบก่อนที่หอกโครแอตจะเอี้ยวตัวแปด้วยอีซ้ายบอลเลียดพุ่งชนเสาไกลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

บอลมาเยือนอาร์เซนอลแล้วโดนนำเร็วแบบนี้มองไม่เห็นทางจะเอาชนะเลยเพราะลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์มีทีเด็ดในเกมสวนกลับอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ทีมที่เล่นหนักหรือเล่นลูกเซ็ตพีซเก่งๆสงสัยจะหมดหวังคัมแบ็ค

พอบอลนำเร็วนำสองลูกแบบนี้ปืนใหญ่ก็ไม่เร่งรืบอะไรมากแต่ก็ยังต่อบอลสั้นเข้าลุยใส่เรนเจอร์สอย่างต่อเนื่องแต่เหมือนโอกาสสวยๆจะลดน้อยลงเช่นกัน

นาที 30 ซงม้วนพลิกบอลตรงกลางสนามแล้วฝากต่อให้เมริด้าโชว์ลูกกล้ายิงไกล 30 หลาบอลพุ่งวาบถากเสาแบบน่าเข้าสุดๆ

ก่อนหมดเวลา 4 นาทีเรนเจอร์สเกือบคีไข่แตกหลังได้เตะมุมอัลมูเนียชกไปถูกผู้เล่นทีมเยือนก่อนมาเข้าทางบูเกร์ร่ากองหลังที่ยืนเสาสองยิงเผาขนแต่ติดบล็อกแข้งปืนใหญ่ก่อน

นาที 43 วิลเชียร์โชว์ทักษะน้องๆเมสซี่เมื่อกระดกบอลหลบสองผู้เล่นเรนเจอร์หน้ากรอบที่ดันเข้าพรวดหนึ่งในนั้นเป็นเมสเดสอดีตแข้งปอร์ทสมัธก่อนพาทัวร์มาถึงเกือบๆริมกรอบโทษพอเห็นฝูงแข้งเรนเจอร์สตามาเยอะและเหลือบมองแม็คเกรเกอร์เลยเส้นมานิดนึงเลยชิพกะหลอกยิงร้อนถึงนายทวารทีมเยือนบินปัดปลายมือสุดยอด ชักหลงรักวิลเชียร์เข้าไปทุกทีแล้ว

ครึ่งหลัง

เริ่มมา 4 นาทีเมริด้าโชว์ลูกยิงไกลด้วยอีซ้ายคราวนี้พุ่งเลียดเข้ามุมแค่แม็คเกอร์เกอร์ล้มตัวเซฟติดมือ

นาที 51 ซงโชว์ลูกสไลด์บล็อกเผาขนของเดวิสหลังเนย์สมิธเข้าฮอร์ตตรงกลางไม่ถูก รอดพ้นการเสียประตูนิดเดียว

จังหวะสวนกลับมาวิลเชียร์เก็บตกลูกที่มาริด้านัวเนียเข้ากรอบเขตโทษก่อนทะลักมาเจ้าหนูเลือดผู้ดีเลยล็อกหลบแล้วปั่นเฉี่ยวเสานิดเดียว

เลยหนึ่งชั่วโมงมา 2 นาทีเรนเจอร์สฉวยโอกาสตอนอาร์เซนอลบุกเพลินๆโต้กลับและน่าจะได้ประตูหลังเดวิสหลุดทะลุควบเข้ากรอบโทษทางขวาก่อนป้ายไหลให้เนย์สมิธแปเน้นๆแต่อัลมูเนียล้มตัวบล็อกและจังหวะเคลียร์ของซิลแวสตร์มาถูกแขนปาปัคเลยเป็นแฮนด์บอลไป

ทีมเยือนเหมือนจะเล่นดีกว่าครึ่งแรกค่อนข้างเยอะนักเตะวิ่งทำทางกันค่อนข้างมากแต่จังหวะสุดท้ายมักมาตายกันเองทำให้ปืนใหญ่ได้ขึงตั้งขึ้นมานวดเหมือนเดิม

และแล้วนาที 72 อาร์เซนอลมาได้ลูกสามซึ่งเป็นความผิดพลาดของแนวรับเรนเจอร์สที่ทำเก๋าจะปล่อยให้บอลออกเส้นหลังแต่เจ้าหนูวัตต์ตัวสำรองที่บี้ตามมาไม่ยอมล้มตัวสไลด์จนแรมซีย์มาเก็บตกตรงริมกรอบโทษก่อนดึงจังหวะมองรอให้วิลเชียร์วิ่งเข้าเขตโทษก่อนตักมาให้เจ้าหนูซ้ายดิจิตอลวิ่งมาอัดตูมเดียวตุงตาข่ายไม่มีเหลือ

ก่อนหมดเวลา 3 นาทีเรนเจอร์สน่าจะตีไข่แตกได้ซักทีจากจังหวะที่เดวิสแทงทะลุให้มิลเลอร์ตัวสำรองหลุดเข้าในกรอบด้านข้างก่อนเลือกยิงเองบอลบดออกหลังไปแบบเศร้าหมอง

ช่วงเวลาที่เหลืออาร์เซนอลต้านเกมรุกของเรนเจอร์สี่เน้นบุกมากขึ้นเอาไว้อยู่หมัดก่อนหมดเวลาเอาชนะสบายๆ 3-0 คว้าแชมป์เอมิเรสต์ คัพพร้อมการแจ้งเกิดของวิลเชียร์ที่เวนเกอร์จะดันเป็นตัวหลักในฤดูกาลใหม่แน่นอน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย 6,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 6,มิกาเอล ซิลแวสตร์ 6.5,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 6.5(เดนิลสัน น.46,6),กาเอล คลิชี่ 7(ตราโอเร่ น.46),เชสก์ ฟาเบรกัส 7(โรซิคกี้ น.73,6),อเล็กซ์ ซง 6.5,ฟราน เมริด้า 7(แรมซีย์ น.67,6.5),แจ็ค วิลเชียร์ 8.5 *,เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา 7.5(วัตต์ น.63,6.5),อังเดร อาร์ชาวิน 7(เบนด์เนอร์ น.63,6)

เรนเจอร์ส : แม็คเกรเกอร์ 6.5,วิทเทคเกอร์ 5.5,เวียร์ 6,บูเกร์ร่า 5,ปาปัช 5.5,ดาวิดส 7,เมนเดส 6.5,ธอมป์สัน 5(แม็คคูลลอช น.46,6),ลาฟเฟอร์ตี้ 5(โนโว น.46,6.5),บีส์ลีย์ 5(มิลเลอร์ น.46,6.5),เนย์สสมิธ 6.5