ผู้เชี่ยวชาญแนะ “แข้งพรีเมียร์ลีก” รู้ติด HIV ควรรีบรักษา
ขอบคุณเนื้อหาข่าวดี ๆ ผู้เชี่ยวชาญชี้บรรดา 6 นักเตะในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นโรคเอดส์จากการร่วมหลับนอนกับหญิงสาว ซึ่งอ้างว่าติดเชื้อ HIV มีโอกาสใช้ชีวิตได้ถึงอายุ 60-70 ปี แต่ต้องรีบมาทำการรักษาตัว | |||||
อย่างไรก็ตาม แมจิก จอห์นสัน วัย 49 ปี ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เมื่อทีมข่าว MGR Sport โทร.สอบถามไปยัง Call Center ของคลินิกนิรนาม ก็ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ HIV “ผู้ที่ติดเชื้อ HIV สามารถใช้ชีวิตยืนยาวได้ถึงอายุ 60-70 ปี ไม่ว่ากรณีของ แมจิก จอห์นสัน ที่เป็นนักกีฬาอาชีพมีรายได้มหาศาล หรือสามัญชนทั่วไป ส่วนสาเหตุที่ แมจิก จอห์นสัน ไม่มีลักษณะอาการเหมือนคนเป็นโรคเอดส์ น่าจะเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าติดเชื้อ HIV ตั้งแต่ต้น (แมจิก ประกาศเป็นเอดส์ก่อนอำลาวงการ NBA ทันทีในวันที่ 7 พ.ย.1991) จึงเข้ารับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิด” “สำหรับโรคเอดส์ คนที่รู้ตัวว่าติด HIV ตั้งแต่แรกถือว่าโชคดี เนื่องจากสามารถเข้ารับยาต้านเชื้อไวรัสเอดส์ รักษากันตั้งแต่ช่วงที่ภูมิคุ้มกันยังไม่น้อยเกินไป เพราะถ้ามารู้ตัวว่าเป็นตอนอาการออกแล้วสัก 3-5 ปี กระบวนการดูแลรักษาจะยากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ผู้ติดเชื้อต้องทำใจยอมรับกับมัน และต้องมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคเอดส์ จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ร้ายแรงเท่ามะเร็ง ถ้ากินยาและดูแลร่างกายตามคำแนะนำของแพทย์ รวมถึงออกกำลังกายอยู่เป็นประจำก็ยังสามารถดำเนินชีวิตได้ต่อไป” | |||||
“โดยยาต้านไวรัสเอดส์ ปกติแล้วผู้ป่วยจะกินวันละ 2 ครั้ง ส่วนใหญ่ก็เช้า-เย็น ยาเม็ดหนึ่งจะมีฤทธิ์เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดนาน 12 ชั่วโมง กินสองครั้งก็หมุนเวียนอยู่ในเลือดตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ตรงนี้ผู้ติดเชื้อต้องมีวินัยในการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากขาดยาไปจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันลดลง มีโอกาสเจอโรคอื่นแทรกซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคเอดส์จะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนในภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง” สุดท้าย เจ้าหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนักเตะพรีเมียร์ลีก 6 รายติดเชื้อ HIV “อย่างที่บอกไปว่าถ้ารู้ตัวว่าติดเชื้อต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพื่อรีบเข้ารับการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ จริงๆ แล้วนักกีฬาอาชีพมีโอกาสใช้ชีวิตได้นานกว่าคนธรรมดาที่ติดเชื้อ HIV เนื่องจากพวกนี้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายคือสิ่งสำคัญสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อร้ายได้ นอกจากกินยาตามปกติแล้ว แต่ถ้ามารู้ภายหลังว่าเป็นเอดส์และยังมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศก็มีโอกาสแพร่เชื้อมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าเป็นห่วงเนื่องจากปัจจุบันผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่น อายุเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น” |