?
เชื่อว่าภาพของ ไมเคิล โอเว่น สวมเสื้อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพร้อมกับชูผ้าพันคอสโมสรด้วยสีหน้ายิ้มระรื่นน่าจะทำให้สาวกเดอะค็อปแสลงใจไม่น้อยที่อดีตขวัญใจของพวกเขาทำกันได้ลงคอ
ก่อนหน้านั้นลองไปถามคนที่เป็นแฟนพันธ์แท้หงส์แดงร้อยทั้งร้อยแทบจะฮาดังๆกับข่าว เซนต์ ไมเคิล ของพวกเขาแปลงสภาพกลายเป็นปีศาจแดง แม้มีลางบอกเหตุบางประการจากบ่อนพนันถูฎหมายเกือบทุกสำนักเหมือนจะรู้ยกให้ เร้ด เดวิลส์ ขึ้นเต็ง 1 จะได้กองหน้าสปีดนรกคนนี้ แต่ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี
เพราะอะไรนะเหรอ? โอเว่น เสมือนผู้เล่นระดับตำนานไง เขาคือนักเตะลูกหม้อที่หงส์แดงปั้นมากับมืออย่างภาคภูมิใจก่อนโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลกในแมตช์แห่งความทรงจำที่ลากเกือบครึ่งสนามกระชากเข้าไปพังประตูทีม อาร์เจนตินา ศึกเวิลด์ คัพ 1998
และอีก 3 ปีถัดมา โอเว่น คว้าเกียรติยศบัลลง ดอร์ ในอีก 3 ปีถัดมา และยังเป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษคนสุดท้ายอยู่จนถึงทุกวันนี้ที่สัมผัสรางวัลอันยิ่งใหญ่ นี่คือช่วงเวลาที่ใครเป็นกองเชียร์เดอะค็อปมีความสุขแล้ว แม้ทีมไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกที่รอคอยเสียที
แต่สิ่งที่สาวกเดอะค็อปไม่คาดคิดก็เกิดเรื่อง โอเว่น แปรพักตร์ไปอยู่กับ ปีศาจแดง คู่ปรับตลอดกาล หลายคนรับไม่ได้พากันบอกว่า ไอ้คนทรยศ
ทำไงได้เรื่องนี้ต้องเห็นใจ เซนต์ ไมเคิล ด้วย เพราะเขาต้องทำโบรชัวร์เสนอขายตัวเองให้กับหลายสโมสรในพรีเมียร์ ทำไมเมื่อมีโอกาส ราฟาเอล เบนิเตซ เอลบอสจึงไม่สนใจเอง
ยิ่งคนระดับอย่างท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือลงทุนต่อสายตรงขอคุยด้วย ใครล่ะไม่สน โอเว่น ต้องยอม เห็นแก่ตัว หักหาญน้ำใจแฟนบอลหงส์แดงเพื่อประโยชน์สุขและโอกาสสุดท้ายของเขาในการติดทีมชาติอังกฤษตะลุยฟุตบอลโลก 2010
จริงอยู่ตอนเล่น นิวคาสเซิล แม้หอกร่างเตี้ยคนนี้จะมีประวัติไม่ดีเจ็บออดๆแอดๆแทบไม่ได้เลยเลยแถมถูกมองเป็นซวยทำให้สโมสรหล่นไปเล่นเดอะแชมเปี้ยนชิพด้วย แต่อย่างน้อยเขาก็มีสัญชาติญาณการพังประตูอยู่ทุกอณุ
118 ประตูกับ ลิเวอร์พูล, 40 เม็ดทีมชาติอังกฤษ,13ลูกในนามเรอัล มาดริด และ 26 ประตูให้ นิวคาสเซิล นี่คือปริมาณบวกด้วยคุณภาพการันตีวิญญาณเพชฌฆาตของ โอเว่น ที่คนอย่างป๋ายอมเสี่ยงแม้สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย
บางทีท่านเซอร์เฟอร์กี้น่าจะถูกโฉลกกับนักเเตะที่ถูกมองว่าหมดสภาพหรือแก่เกินแกงเมื่อลองย้อนกลับในอดีตมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว
เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ตอนย้ายมาอยู่เมื่อปี 1997 อายุตั้ง 31 ปีแล้วผลก็คือแชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง,แชมป์พรีเมียร์ชิพ 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย
โลร็องต์ บลองก์ ปราการหลังน้ำหอมย้ายแบบฟรีๆเมื่อปี 2001 ก็ได้แชมป์พรีเมียร์ชิพในอีก 2 ปีถัดมา
เฮนนิ่ง เบิร์ก อายุ 29 ปีมีเกียรติยศแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย,แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัยเมื่อปี 1999 และแชมป์เอฟเอ คัพ
เฮนริค ลาร์สสัน อายุ 35 กะรัตแม้เซ็นแค่ 3 เดือนแต่ถือมีส่วนร่วมกับแชมป์พรีเมียร์ชิพปี 2003
แล้วโอเว่นในวัย 29 ปีล่ะ บางทีเขาอาจได้สัมผัสแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาก็ได้
แทบไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าในเกมแดงเดือดที่แอนฟิลด์ เกิด โอเว่น ในคราบอสูรแดงพังประตูทีมเก่า เขาจะฉลองต่อหน้ากองเชียร์หงส์แดงคนเคยรักหรือไม่ แล้วกองเชียร์ล่ะจะปั้นสีหน้ายังไง แค่คิดก็สยองแล้ว
โอเว่น คนทรยศ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!