ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ซะแล้วสำหรับ สเปน แชมป์ยุโรปปีล่าสุดเพิ่งทำสถิติโลกใหม่คว้าชัยชนะ 15 นัดติดต่อกันแถมกำลังจะเดินหน้าเก็บชัยไปเรื่อยๆอย่างไม่มีหยุดหย่อนด้วย
สำหรับทีมที่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของกระทิงดุต้องย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วโน้นเลยวันที่ 22 มิถุนายนในศึกยูโร 2008 รอบก่อนรองชนะเลิศ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ อิตาลี แชมป์โลก 2008 นั่นเอง ผล 90 นาทีเสมอแบบไร้สกอร์ สุดท้ายลูกทีมของ หลุยส์ อราโกเนส ในยุคนั้นดวลเป้าแม่นยำกว่าชนะไปก่อนคว้าแชมป์ยุโรปมาครองอย่างยิ่งใหญ่ ที่นี้เราลองมาดูสถิติอันน่าภาคภูมิใจของเหล่าขุนพลคนสู้วัวว่ามีใครตกเป็นเหยื่ออันโอชะกันบ้าง ดังนี้
สเปน 3-0 รัสเซีย ยูโร 2008 รอบรองชนะเลิศ วันที่ 26 มิถุนายน 2008 สเปน 1-0 เยอรมัน ยูโร 2008 รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 29 มิถุนายน 2008 เดนมาร์ก 0-3 สเปน กระชับมิตร วันที่ 20 สิงหาคม 2008 สเปน 1-0 บอสเนีย ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 6 กันยายน 2008 สเปน 4-0 อาร์เมเนีย ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 10 กันยายน 2008 เอสโตเนีย 0-3 สเปน ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 11 ตุลาคม 2008 เบลเยียม 1-2 สเปน ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 15 ตุลาคม 2008 สเปน 3-0 ชิลี กระชับมิตร วันที่ 19 พฤศจิกายน 2008 สเปน 2-0 อังกฤษ กระชับมิตร วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2009 สเปน 1-0 ตุรกี ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 28 มีนาคม 2009 ตุรกี 1-2 สเปน ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก วันที่ 1 เมษายน 2009 อาเซอร์ไบจาน 0-6 สเปน กระชับมิตร วันที่ 9 มิถุนายน 2009 สเปน 5-0 นิวซีแลนด์ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 14 มิถุนายน 2009 สเปน 1-0 อิรัก คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 17 มิถุนายน 2009 แอฟริกาใต้ 0-2 สเปน คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 20 มิถุนายน 2009
นอกจากนั้นแล้วขอแค่ไม่แพ้อีกนัดเดียวในรอบรองชนะเลิศคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ เท่านั้น บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือหนวดหินจะสร้างประวัติศาสตร์พา สเปน ครองสถิติไม่แพ้ชาติใดในโลกยาวนานมากที่สุด ตอนนี้อยู่ที่ 35 เกมเทียบเท่า แซมบ้า บราซิล ที่ทำไว้ระหว่างปี 1993-1996
ด้วยฟอร์มโคตรเทพแบบนี้เมื่อดูคู่แข่งเป็นทีมระดับเกรดซีอย่าง สหรัฐ ในรอบรองชนะเลิศแล้วต้องบอกเลยว่า กระทิงดุ น่าจะสร้างสถิติใหม่อีกครั้งได้ไม่ยาก ยกเว้นแต่พลิกล็อควินาสสันติโรเท่านั้น
เมื่อพลิกดูจากสถิติตลอด 35 เกมของแชมป์ยูโร 2008 ปรากฎว่าน่าประทับใจชนะไปถึง 32 เกมเสมอแค่ 3 นัดเท่านั้นเรียกได้ว่าเป็นทีมที่ไร้เทียนทานจริงๆ โดยชาติที่ยัดเยียดความปราชัยครั้งสุดท้ายก็คือ โรมาเนีย เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2007 โน้นเลย
อ้อ!อย่าลืมสิว่านี่ขนาดไม่มี อันเดรส อิเนสต้า นะเนี่ย เดล บอสเก้ กลับสามารถทำทีมได้เนียนตาไปเลยถ้าได้สุดยอดจอมทัพจากบาร์เซโลนาสงสัยคงต้องไปแข่งนอกโลกกระมัง
แต่ช้าก่อนเมื่อพลิกปูมสถิติ 35 เกมแม้เจอทีมของแข็งอย่าง อิตาลี,ฝรั่งเศส,เยอรมัน หรือ อังกฤษ ผ่านมาได้ฉลุย แต่ยังเหลืออีกชาติชั้นนำก็คือ อาร์เจนตินา และ บราซิล ที่ทีมกระทิงดุยังไม่ได้พิสูจน์เลย
จะว่าไปแล้วทั้งฟ้าขาวและแซมบ้าต่างมีสไตล์การเล่นฟุตบอลอันสวยงาม,เน้นเกมรุก,เดินหน้าฆ่าลูกเดียวคล้ายๆกับ สเปน ไม่มีผิดเลย โดยเฉพาะตำแหน่งตัวรุกทั้งหลายล้วนแต่ฝีเท้าระดับโลกทั้งนั้นเอ่ยชื่อมาต่างก็ร้องอ๋อไม่ว่าจะเป็น กาก้า,โรบินโญ่,ลิโอเนล เมสซี่,คาร์ลอส เตเบซ ,เซร์คิโอ อาเกโร่ ล้วนสามารถสร้างความแตกต่างได้เสมอ
จุดแข็งที่สุดของ สเปน น่าจะอยู่ที่เกมแดนกลางไล่ไปถึงหน้า ชาบี้ เอร์นานเดซ,ชาบี้ อลอนโซ่,เชสก์ ฟาเบรกัส นับรวม อันเดรส อิเนสต้า ด้วยเอ้า ถือเป็นแผงมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของยุคเลยก็ว่าได้ ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาวิด บีญ่า ล้วนทั้งคมและอันตรายสุดๆ
จะมีแค่แบ็กโฟร์เท่านั้นที่เมื่อดูจากชุดปัจจุบัน คาร์เลส ปูโยล,ราอูล อัลบิโอล,เกร์ราร์ด ปิเก้ เซร์คิโอ รามอส และอัลวาโร่ อาร์เบลัว ชื่อเหล่านี้ยังถือว่าค่อนข้างอ่อนประสบการณ์ถ้าเกิดเจอกองหน้าระดับพระกาฬจะเอาอยู่หรือเปล่า อันนี้ต้องรอพิสูจน์
หากไม่หน้าแตกเสียก่อนขอให้คู่ชิงในฝันเป็นการพบกันระหว่าง สเปน ทีมคลื่นลูกใหม่ไฟแรงปะทะ บราซิล ทีมคลาสสิคของโลก ถึงตอนนั้นจะได้รู้กันเสียทีว่า กระทิงดุ ไร้เทียมทานสมคำร่ำลือหรือเปล่า ไม่นานเกินรอวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน รู้กัน
|