ได้กลิ่นฟุตบอลโลก

ยังเหลือเวลาร่วมปีกว่าที่ฟุตบอลโลก 2010 จะเริ่มเตะ แต่เผลอแป๊บเดียวก็ถึงแล้วนะครับ แถมบรรยากาศช่วงนี้เหมือนเริ่มเคาต์ดาวน์ไปแล้วด้วยซ้ำ

แฟนบอลได้เห็นภาพรวมคร่าวๆ ของบอลโลกจากเกมคอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ ขณะเดียวกันบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายก็เริ่มทยอยเปิดตัว ไล่มาตั้งแต่ "เนเธอร์แลนด์" จากโซนยุโรป รวมทั้ง 4 ทีมจากโซนเอเชีย "เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ" และ "ออสเตรเลีย" โดยมี "ซาอุดิอาระเบีย" กับ "บาห์เรน" นัดดวลเพลย์ออฟเพื่อไปตัดเชือกกับ "นิวซีแลนด์" ตัวแทนโซนโอเชียเนียอีกที

เรื่องปแลกคือ คราวนี้บทบาทของทีมจากตะวันออกกลางลดลงไปเยอะ อย่างเก่งก็จะได้เข้ารอบแค่ทีมเดียว

มันอาจเป็นช่วงเปลี่ยนยุคมั้งครับ ทีมอย่าง "อิรัก อิหร่าน" ที่เคยแข็งแกร่งต่างก็ตกต่ำทั้งคู่ ทั้งๆ ที่นักเตะก็ยังมีตัวเก่าๆ อยู่พอสมควร ไม่กี่วันก่อนผมนั่งดูเกม "เกาหลีใต้-อิหร่าน" ทีมหลังยังใช้ดาราระดับ "อาลี คาริมี่ จาวัด เนคูนาม เมห์ดี้ มาดาวิเกีย" แต่ฟอร์มรวมๆ กลับไม่เด้งไม่ดีอย่างที่เคย ส่วนมากมีแต่ความเก๋ากับเทคนิค พวกความเร็ว ความแกร่ง หรือทีมเวิร์กเป็นรองเห็นๆ

ถ้าจะมองว่า เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, เกาหลีเหนือ ได้เข้ารอบเพราะเอาจุดเด่นที่ทีมอาหรับไม่มีมาสู้ก็คงไม่ผิด 4 ทีมนี้เล่นคล้ายๆ กันคือ อาศัยความมีวินัย อึด ฟิตปั๋งตามสไตล์ยุโรป ผสมกับทีมเวิร์กและแทคติคกลายเป็นสูตรสำเร็จของบอลเอเชียยุคนี้ที่เข้ามาแทนบอลเชิงแบบตะวันออกกลางในอดีตไปเรียบร้อย

อีกจุดที่สำคัญคือ ทีมพวกนี้ใช้ประโยชน์จากนักเตะที่ไปเล่นต่างแดนอย่างคุ้มค่า

เกาหลีใต้มีทีเด็ดตรง "ปาร์ก จี ซอง" ซึ่งผ่านการอัพเกรดจากแมนฯยูจนฝีเท้าเกินระดับนักเตะเอเชีย ใครเห็นลูกที่เขาแหกกองหลังอิหร่านเข้าไปพังประตูในเกมล่าสุดก็ต้องซูฮกทั้งนั้น

หรืออย่างญี่ปุ่นก็มี "ชุนสุเกะ นากามูระ" ออสเตรเลียมี "ทิม เคฮิลล์" นักเตะพวกนี้อาจเทียบกับพวกเวิลด์คลาสไม่ได้ แต่ก็เก่งเกินมาตรฐานของทวีปและกลายเป็นความแตกต่างอย่างที่เห็น

ฟุตบอลโลก 2010 คงมีอะไรเด็ดๆ จากทีมเอเชียให้ดูทันพอสมควร

แต่หากพูดถึงทีมเต็งจ๋า บารมีเจิดจ้าย่อมไม่มีใครเกิน "สเปน" แชมป์ยุโรป

ทีมกระทิงดุโชว์ฟอร์มสุดยอดใน 2 นัดแรกของคอนเฟดเดอเรชั่นส์คัพ โดยเฉพาะเกมรุกถือว่าน่าตื่นตาตื่นใจกับความลื่นไหลของทีมเวิร์ก บวกพรสวรรค์และความเฉียบขาดในตัวคู่หัวหอก "เฟร์นานโด ตอร์เรส-ดาวิด บีญ่า"

สองคนนี้คือ คู่ดาวยิงที่ดีที่สุดในโลก ยิ่งได้แรงหนุนจากมิดฟิลด์อย่าง "ชาบี้ ดาวิด ซิลบา ซาบี้ อลองโซ่" และ "อันเดรส อินิเยสต้า" ซึ่งคงฟิตกลับมาในอีกไม่นาน ก็ทำให้สเปนกลายเป็นเบอร์หนึ่งของยุโรปอย่างแท้จริง ส่วนจะเป็นที่หนึ่งของโลกด้วยไหม ต้องดูฟอร์มในเกมเจอกับ "บราซิล" อีกที

ถ้าคู่นี้ได้หวดกันจริงๆ ในคอนเฟด นอกจากเป็นคู่สนามแตก ยังเหมือนคู่ (สมควร) ชิงบอลโลกในความรู้สึกของแฟนบอลอีกต่างหาก

ผมชอบบรรยากาศของแอฟริกาใต้นะครับ รู้สึกได้เลยว่าคนที่นั่นมีความสุขกับฟุตบอลเหลือเกิน ถึงสภาพสนามจะไม่ค่อยเนี้ยบ แต่เมื่ออารมณ์ร่วมท่วมท้นอย่างนี้ บอลโลก 2010 ต้องเร้าใจแน่ๆ

ชักจะรอไม่ไหวแล้วล่ะ