มิลานเลี้ยงส่งปู่มัล,อัดม่วงไปCLชัวร์
น่าจะเป็นเกมอำลานัดสุดท้ายสำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคางทูมทิ้งทวนพา เอซี มิลาน ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก อัตโนมัติฤดูกาลหน้า หลังบุกชนะ ฟิออเรนตินา 2-0 พร้อมปิดฉากชีวิตค้าแข้งอันยิ่งใหญ่ของอีกหนึ่งตำนาน เปาโล มัลดินี่ กัปตันทีมหัวใจเพชร
กัลโช่ เซรี่ อา นัดปิดฤดูกาล
วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2552
ฟิออเรนตินา 0-2 เอซี มิลาน
ประตู: 0-1 กาก้า น.55,0-2 อเล็กซานเดร ปาโต้ น.75
ครึ่งแรก
แม้ มิลาน ต้องการแพ้แค่ลูกเดียวก็ยังได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีกอัตโนมัติแต่ยังเดินหน้าบุกเข้าหาเจ้าถิ่น นาที 7 กาก้า ตอกส้นให้ ยันคูลอฟสกี้ กระชากจากกลางสนามลากเข้าไปยิงแฉลบออกหลังเป็นลูกเตะมุม เซดอร์ฟ เปิดมายังแถวสอง ยันคูลอฟสกี้ สับไกเต็มข้อหลุดกรอบนิดเดียว
เกมส่วนใหญ่ยังตกเป็นของรอสโซ่เนรี่ครองบอลเหนือกว่า ขณะที่ ฟิออเรนติน่า สวนกลับเป็นระยะๆผ่านครึ่งทางครึ่งแรก วาร์กัส เปิดจากริมเส้นให้ จิลาร์ดิโน่ เกือบยิงทีมเก่าโหม่งหลุดกรอบ ดูจากภาพรีเพลย์ถือว่าโขกเช็ดบางไปหน่อยถ้าหนากว่านี้อาจมีตุง
อีก 3 นาทีถัดมา มิลาน ดูเหมือนไม่ได้พกดวงจากจังหวะเอาบอลลงสวยของ กาก้า แตะให้ ฟลามินี่ วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อระยะ 20 หลาบอลชนสามเหลี่ยมด้านนอกเต็มๆ
เวลาที่เหลือ 20 นาทีเกมกลับดร็อปๆลงไปแทบไม่มีจังหวะหวาดเสียวจากทั้งสองทีมให้เห็นอีกเลย ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอ 0-0 ถ้าเป็นแบบนี้หมายความว่า มิลาน จะได้ผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ
ครึ่งหลัง
ฟิออเรนตินา จำเป็นต้องบุกหนักแบบไม่มีอะไรจะเสีย
เพื่อตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ผ่านแค่ 2 นาทีหวิดจะได้ประตูนำ เริ่มจาก เฟรย์ นายทวารเตะจุดพลุกินแดนไปฝั่ง มิลาน เซมิโอลี่ โหม่งเช็ดชงให้ จิลาร์ดิโน่ กระชากเข้าไปดีดด้วยหัวเกือกเฉียดเสานิดเดียว
แม้รูปเกม มิลาน เป็นรองนิดๆแต่กลายเป็นว่ากลับได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 55 เซดอร์ฟ โยนจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จิลาร์ดิโน่ ชาร์จจ่อๆติดบล็อค กัมเบรินี่ เซนเตอร์วิโอล่ากระดอนเข้าทางปืน กาก้า เลือกแปบริเวณจุดโทษซุกสู่ก้นตาข่าย
สกอร์ที่ตามหลังทำให้แผงหลังฟิออฯต้องดันขึ้นสูงเปิดพื้นที่ให้ จิลาร์ดิโน่ กระชากแหวกผ่านแนวรับหลุดเข้าไปยิงจ่อๆแต่ดันงัดเหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อในนาที 52
ฟิออเรนตินา จำเป็นต้องดันขึ้นสูงไปหมดเพื่อทวงประตูคืนเลยเข้าทาง มิลาน อาศัยจังหวะสวนกลับนำไปสู่ประตูที่สองตอกย้ำชัย กาก้า จ่ายให้ ปาโต้ตัวสำรองแผลงฤทธิ์หลุดกับดักล้ำหน้าลากเข้าไปงัดข้ามตัวนายทวาร เฟรย์ ตุงตาข่ายให้นำห่างเป็น 2-0 ในนาที 75
หลังจากนั้น มิลาน เล่นแบบประคองสกอร์ก่อนถึงอีกช็อตสำคัญก็คือไฮไลท์การอำลาสนามอย่างเป็นทางการของ เปาโล มัลดินี่ ซึ่งประกาศแขวนสตั๊ดท่ามกลางเสียงปรบมือทั่วทั้งสนามก่อนที่กรรมการเป่านกหวีดจบเกม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า: เฟรย์,โคม็อตโต้,กัมเบรินี่,ซาอูรี่,ปาสกวาล(คุซมาโนวิช น.68),เซมิโอลี่,มอนโตลิโว่,โดนาเดล,โยเวติช(ยอร์เกนเซ่น น.64),วาร์กัส(ก็อบบี้ น.64),จิลาร์ดิโน่
เอซี มิลาน: ดีด้า,ซัมบร็อตต้า,ฟาวัลลี่(เนสต้า น.76),มัลดินี่,ยันคูลอฟสกี้,ปีร์โล่,ฟลามินี่
,เบ็คแฮม(กัตตูโซ่ น.80),เซดอร์ฟ,กาก้า,อินซากี้(ปาโต้ น.68)
ขอบคุณข่าวจากlentee
น่าจะเป็นเกมอำลานัดสุดท้ายสำหรับ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคางทูมทิ้งทวนพา เอซี มิลาน ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก อัตโนมัติฤดูกาลหน้า หลังบุกชนะ ฟิออเรนตินา 2-0 พร้อมปิดฉากชีวิตค้าแข้งอันยิ่งใหญ่ของอีกหนึ่งตำนาน เปาโล มัลดินี่ กัปตันทีมหัวใจเพชร
กัลโช่ เซรี่ อา นัดปิดฤดูกาล
วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2552
ฟิออเรนตินา 0-2 เอซี มิลาน
ประตู: 0-1 กาก้า น.55,0-2 อเล็กซานเดร ปาโต้ น.75
ครึ่งแรก
แม้ มิลาน ต้องการแพ้แค่ลูกเดียวก็ยังได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีกอัตโนมัติแต่ยังเดินหน้าบุกเข้าหาเจ้าถิ่น นาที 7 กาก้า ตอกส้นให้ ยันคูลอฟสกี้ กระชากจากกลางสนามลากเข้าไปยิงแฉลบออกหลังเป็นลูกเตะมุม เซดอร์ฟ เปิดมายังแถวสอง ยันคูลอฟสกี้ สับไกเต็มข้อหลุดกรอบนิดเดียว
เกมส่วนใหญ่ยังตกเป็นของรอสโซ่เนรี่ครองบอลเหนือกว่า ขณะที่ ฟิออเรนติน่า สวนกลับเป็นระยะๆผ่านครึ่งทางครึ่งแรก วาร์กัส เปิดจากริมเส้นให้ จิลาร์ดิโน่ เกือบยิงทีมเก่าโหม่งหลุดกรอบ ดูจากภาพรีเพลย์ถือว่าโขกเช็ดบางไปหน่อยถ้าหนากว่านี้อาจมีตุง
อีก 3 นาทีถัดมา มิลาน ดูเหมือนไม่ได้พกดวงจากจังหวะเอาบอลลงสวยของ กาก้า แตะให้ ฟลามินี่ วิ่งเข้ามายิงเต็มข้อระยะ 20 หลาบอลชนสามเหลี่ยมด้านนอกเต็มๆ
เวลาที่เหลือ 20 นาทีเกมกลับดร็อปๆลงไปแทบไม่มีจังหวะหวาดเสียวจากทั้งสองทีมให้เห็นอีกเลย ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอ 0-0 ถ้าเป็นแบบนี้หมายความว่า มิลาน จะได้ผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ
ครึ่งหลัง
ฟิออเรนตินา จำเป็นต้องบุกหนักแบบไม่มีอะไรจะเสีย
เพื่อตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ผ่านแค่ 2 นาทีหวิดจะได้ประตูนำ เริ่มจาก เฟรย์ นายทวารเตะจุดพลุกินแดนไปฝั่ง มิลาน เซมิโอลี่ โหม่งเช็ดชงให้ จิลาร์ดิโน่ กระชากเข้าไปดีดด้วยหัวเกือกเฉียดเสานิดเดียว
แม้รูปเกม มิลาน เป็นรองนิดๆแต่กลายเป็นว่ากลับได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 55 เซดอร์ฟ โยนจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จิลาร์ดิโน่ ชาร์จจ่อๆติดบล็อค กัมเบรินี่ เซนเตอร์วิโอล่ากระดอนเข้าทางปืน กาก้า เลือกแปบริเวณจุดโทษซุกสู่ก้นตาข่าย
สกอร์ที่ตามหลังทำให้แผงหลังฟิออฯต้องดันขึ้นสูงเปิดพื้นที่ให้ จิลาร์ดิโน่ กระชากแหวกผ่านแนวรับหลุดเข้าไปยิงจ่อๆแต่ดันงัดเหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อในนาที 52
ฟิออเรนตินา จำเป็นต้องดันขึ้นสูงไปหมดเพื่อทวงประตูคืนเลยเข้าทาง มิลาน อาศัยจังหวะสวนกลับนำไปสู่ประตูที่สองตอกย้ำชัย กาก้า จ่ายให้ ปาโต้ตัวสำรองแผลงฤทธิ์หลุดกับดักล้ำหน้าลากเข้าไปงัดข้ามตัวนายทวาร เฟรย์ ตุงตาข่ายให้นำห่างเป็น 2-0 ในนาที 75
หลังจากนั้น มิลาน เล่นแบบประคองสกอร์ก่อนถึงอีกช็อตสำคัญก็คือไฮไลท์การอำลาสนามอย่างเป็นทางการของ เปาโล มัลดินี่ ซึ่งประกาศแขวนสตั๊ดท่ามกลางเสียงปรบมือทั่วทั้งสนามก่อนที่กรรมการเป่านกหวีดจบเกม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟิออเรนติน่า: เฟรย์,โคม็อตโต้,กัมเบรินี่,ซาอูรี่,ปาสกวาล(คุซมาโนวิช น.68),เซมิโอลี่,มอนโตลิโว่,โดนาเดล,โยเวติช(ยอร์เกนเซ่น น.64),วาร์กัส(ก็อบบี้ น.64),จิลาร์ดิโน่
เอซี มิลาน: ดีด้า,ซัมบร็อตต้า,ฟาวัลลี่(เนสต้า น.76),มัลดินี่,ยันคูลอฟสกี้,ปีร์โล่,ฟลามินี่
,เบ็คแฮม(กัตตูโซ่ น.80),เซดอร์ฟ,กาก้า,อินซากี้(ปาโต้ น.68) ขอบคุณข่าวจากlentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
