ได้บทสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อ เบิร์นลี่ย์ กลายเป็นทีมที่สามตามหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เบอร์มิงแฮม ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดได้สำเร็จ หลังเฉือนชนะ เชฟฯยูไนเต็ด ที่ต้องเล่น 10 คนหวุดหวิด 1-0 ก่อนขึ้นมาสัมผัสลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปีพร้อมโกยเงินอีก 60 ล้านปอนด์
ผลเพลย์ออฟ เลื่อนชั้น รอบชิงชนะเลิศ
วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2552
เบิร์นลี่ย์ 1-0 เชฟฯยูไนเต็ด
ประตู: 1-0 เวด เอลเลียตต์ น.13
ครึ่งแรก
10 นาทีแรก เชฟฯยูไนเต็ด ครองเกมดีกว่าแทบพับสนามบุกอยู่ข้างเดียวแต่แนวรับของเบิร์นลี่แน่นมากต้องอาศัยลูกยิงแถวสองของ ฮาวเวิร์ด ไปเข้ามือ เยนเซ่น นายทวารเบิร์นลี่ย์
โอกาสบุกครั้งแรกของ เบิร์นลี่ย์ ได้ประตูขึ้นนำทันที 1-0 ในนาที 13 เริ่มจาก คริส แม็คคานน์ พยายามกระชากแหวกแนวรับเข้าไปยิงโดนกองหลังสกัดออกมา เวด เอลเลียตต์ เก็บตกจากแถวสองปั่นไซด์โค้งเลี้ยวเข้าสามเหลี่ยมบนอย่างสวยงาม
แม้ครองเกมมากกว่าแต่ เชฟฯยูฯ เจาะเข้าไปพื้นที่สุดท้ายไม่ค่อยจะได้นาที 29 มาร์ติน พาเตอร์สัน ลากจากทางขวาเลี้ยงตัดเข้าในก่อนปั่นด้วยอีซ้ายบอลเลี้ยวเฉียดเสานิดเดียว
ไปๆมาๆท้ายเกม เบิร์นลี่ย์ ได้เสียวอีก ธอมป์สัน ผ่านจากทางขวาไปยังเสาสองให้ กุ๊ดยอห์นสัน โหม่งย้อนทางบอลเฉียดเสาสองจบครึ่งแรก เบิร์นลี่ย์ นำ 1-0
ครึ่งหลัง
สกอร์ที่ต่ามหลังบีบให้ เดอะ เบลดส์ ต้องเดินหน้าโหมบุกเลยไปเข้าทาง เบิร์นลี่ย์ ถนัดสวนกลับน่าจะได้ประตูที่สองสุดๆ พาเตอร์สัน โยนจากทางขวาไปให้ ธอมป์สัน โขกชงมาให้ กุ๊ดยอนส์สัน ยืนจ่อๆหน้าปากประตูแปเน้นๆแต่บอลแฉลบไปโดนขาของ มอนต์โกเมอรี่ ออกหลังไป
เกมรุกของ เชฟฯยูฯไร้จินตนาการสิ้นเชิงทำอะไร เบิร์นลี่ย์ ไม่ได้เลยพยายามวัดใจผู้ตัดสินขอจุดโทษในนาที 69 วอล์คเกอร์ หนุนขึ้นสูงพยายามกระชากไปถึงเส้นหลังโดน คัลเวเนส เบียดล้มในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ใจแข็งโบกมือให้เล่นต่อ
สถานการณ์ของ เชฟฯยูฯ นอกจากเสียเปรียบสกอร์แล้วยังเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ วอร์ด โดนใบเหลืองใบที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก หลังแอบลักไก่ใช้มือหมายเข้าไปพังประตู ทำให้เวลาที่เหลือ เบิร์นลี่ย์ ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมด ก่อนเอาชนะเลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปีและเตรียมโกยเงินในพรีเมียร์อย่างต่ำถึง 60 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบิร์นลี่ย์: ไบรอัน เยนเซ่น,ไมเคิล ดัฟฟ์,คลาร์ค คาร์ลิเซิล,สตีเฟ่น คัลด์เวลล์,คริสเตียน คัลเวเนส,เวด เอลเลียตต์,เกรแฮม อเล็กซานเดอร์,คริส แม็คคานน์(โจอี้ กุ๊ดยอนส์สัน น.27),ร็อบบี้ เบล็ค(คริส อีเกิ้ลส์ น.69),สตีเฟ่น ธอมป์สัน(เจย์ โรดิเกวซ น.73),มาร์ติน พาเตอร์สัน
เชฟฯยูไนเต็ด: แพทริค เคนนี่,ไคล์ วอล์คเกอร์,คริน มอร์แกน,แมทธิว คิลกัลล่อน,ไคล์ เนาห์ตัน,นิค มอนต์โกเมอรี่,ไบรอัน ฮาวเวิร์ด(อาร์ตูโร่ ลูโปลี่ น.82),เดวิด คัตเตอริลล์(เจมี่ วอร์ด น.58),สตีเฟ่น ควินน์(ลี เฮนดรี้ น.85),เกร็ก ฮัลฟอร์ด,เคร็ก บีทตี้
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee