ดูโอซูเปอร์ซับ!นิวหนีตายแซงเฮ3-1ขึ้น17

หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport ดูโอซูเปอร์ซับ!นิวหนีตายแซงเฮ3-1ขึ้น17

ทูนอาร์มี่ลุ้นกันเยี่ยวเหนียวหลังทำท่าจะแย่ปล่อยให้มิดเดิลสโบรห์มาขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่สุดท้ายเทย์เลอร์โขกตีเสมอก่อนได้ซูเปอร์ซับทั้งโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์และปีเตอร์ โลเวนครานดส์ซัดชัย 3-1 แซงฮัลล์ขึ้นมาอยู่อันดับ 17 แล้วรวมทั้งเป็น 3 แต้มแรกของเชียเรอร์อีกด้วย

พรีเมียร์ลีก
วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2552

นิวคาสเซิ่ล 3-1 มิดเดิลสโบรห์

ประตู : 0-1 เบย์ น.3(ทำเข้าประตูตัวเอง),1-1 เทย์เลอร์ น.9,2-1 มาร์ตินส์ น.71,3-1 โลเวนครานดส์ น.86

ครึ่งแรก

ศึกดาร์บี้แมทช์ที่ผู้ชนะเท่านั้นถึงจะอยู่รอดโดยนิวคาสเซิ่ลมาแบบดุมากเพราะยังไม่ถึงนาทีพาบอลมานัวหน้าประตูมิดเดิลสโบรห์ถึงสองครั้งและเป็นโอเว่นที่ไหลจากหน้ากรอบให้กัธรีวิ่งมายิงแต่บอลปลิ้นออกหลังไม่ได้ตรงกรอบเลย

อ้าว!!ช็อกแค่ 3 นาทีโบโร่มาขึ้นนำหน้าตาเฉยจากจังหวะที่ต่อบอลก๊อกแก๊กเป็นอัลเวสจ่ายบอลทะลุให้ตุนกายหลุดเข้าเขตโทษแต่ฮาร์เปอร์ออกมาเร็วพุ่งบล็อกสุดยอดแต่บอลไปโดนเบย์ที่ตอนแรกกระโดดข้ามเพื่อนจนมองไม่เห็นโดนขาค่อยๆกลิ้งเข้าไป งานเข้าแล้วนิว!!

ลางร้ายต่อความพ่ายแพ้ของเจ้าบ้านดูง่ายๆในนาที 6 หลังวิดูก้าเก็บตกลูกทุ่มจากปีกขวาด้วยการหวดเต็มๆในกรอบระยะ 10 หลาพุ่งชนเสาก่อนที่เทย์เลอร์ซ้ำออกหลังไปอีก

สาลิกาต้องรีบทำอะไรซักอย่างเพราะโบโร่ผีเข้าผีออกบทจะออกนอกบ้านบุกมายันชาวบ้านก็ทำได้ดีเหลือเชื่อและเมื่อมองจากการสร้างสรรค์เกมรุกของเจ้าถิ่นมาทั้งซีซั่นต้องบอกว่าน่าเป็นห่วงเอามากๆ

แต่แล้วนาทีที่ 9 เจ้าถิ่นกลับมาตีเสมอได้อย่างสุดยอดจากลูกเตะมุมเป็นเทย์เลอร์สลัดตัวประกบแล้วสะบัดโขกตรงกรอบ 6 หลาบอลผ่านมือโจนส์เข้าไป เสมอแล้ว 1-1

พอได้ประตูเกมเป็นของนิวคาสเซิ่ลเกือบๆข้างเดียวแต่ทำได้ดีที่สุดแค่ถ่ายบอลไปมาแต่พอเข้าเขตอันตรายกลับทำลั่นหรือไม่ก็ถูกโบโร่รุมแย่งไปได้ก่อนแต่ตอนนี้ทีเด็ดของเจ้าถิ่นกลายเป็นลูกเตะมุมที่กดดันแนวรับโบโร่และแฟนบอลได้ลุ้นกันตลอด

นาที 27 สิ่งที่แฟนทูนอาร์มี่ต้องการเห็นนั่นคือใครซักคนที่สามารถสร้างโอกาสให้ทีมได้ด้วยตัวเองหลังเห็นวิดูก้าพลิกบอลหลบสองตัวประกบตรงปีกซ้ายอย่างเทพก่อนเปิดครอสพุ่งๆมาให้โอเว่นก้มตัวโขกร้อนถึงโจนส์ต้องผวาปัดข้ามคานออกไป

อีก 2 นาทีต่อมาวิดูก้าเกือบทำทีมพังหลังเลี้ยงตัดเข้าหน้ากรอบโทษตัวเองจนเจอฉกบอลทะลักไปถึงเอ็มเนสที่ยิงเต็มๆไปที่เซฟขาฮาร์เปอร์แต่บอลยังมาเข้าทางก่อนล็อกหลอกเบย์ที่ถลำนึกว่าจะยิงก่อนเลือกแปเล่นทางเน้นๆบอลชนข้างตาข่ายหวุดหวิด

ครึ่งหลัง

ยังเป็นนิวคาสเซิ่ลที่พายอลนวดเป็นส่วนใหญ่แต่โบโร่ก็รอสวนอยู๋เรื่อยๆนาที 53 ชอว์กี้ได้สับไกยิงนอกกรอบบอลพุ่งข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้นเอง

อีก 3 นาทีสาลิกาเกือบพังอีกหลังเจอขึงอยู่หน้ากรอบโทษแล้วบอลที่ตุนกายพยายามแย่งกับแนวรับทะลักมาถึงโอนีลที่วิ่งมาซัดเต็มๆแต่ยังดีที่ฮาร์เปอร์ล้มตัวประสานมือปัดเอาไว้ได้ก่อนไม่งั้นเสียบตาข่ายแน่

เกมของโบโร่ดีขึ้นอย่างชัดเจนและทำให้สาลิกาต้องฮึดลุยใส่บ้างไม่งั้นแย่แน่เพราะเสียงแฟนบอลก็ร้องเร่งเร้าอยู่ตลอด

เล่นมา 65 นาทีนิวคาสเซิ่ลยังไม่มีโอกาสยิงให้โจนส์ได้เซฟเลยและเป็นแบบนี้เรื่อยๆอาจเป็นอันตรายสำหรับเจ้าถิ่นเองเลย

แต่อีก 6 นาทีต่อมาโอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ลงสนามแทนโอเว่นโดนบอลครั้งแรกก็เป็นประตูทันทีจากจังหวะที่วิดูก้ากระโดดแย่งบอลหน้ากรอบบอลตกมาที่โนแลนดีต่อให้แข้งไนจีเรียที่ล็อกหนีตัวบล็อกแล้วเสียหลักลื่นแต่ก็ยังยิงด้วยขวาบอลผ่านมือโจนส์เข้าไป 2-1 เล่นเอาสนามแทบแตกเพราะประตูนี้อาจมีความหมายถึงการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว แต่จากภาพช้าโนแลนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าเต็มๆจนหลายคนสงสัยว่าไลน์แมนไม่เห็นได้ยังไงแต่ตอนนี้เชียเรอร์รับเครดิตไปเต็มๆเพราะแก้เกมแล้วเห็นผลทันตา

ก่อนหมดเวลา 13 นาทีอัลเวสเปิดบอลด้วยอีซ้ายจากปีกขวาบอลย้อยตัดหลังแข้งเจ้าถิ่นที่ไม่มีใครขึ้นปล่อยให้ตุนกายสอดมาคนเดียวแต่จับบอลตรง 6 หลาสุดปลายขาทำให้ฮาร์เปอร์รับเข้ามือนิดเดียว ถ้าแตะโดนหรือจับลงก็ดวลเดี่ยวกันไปแล้ว

และแล้วนาที 86 นิวคาสเซิ่ลหลุดพ้นบ่วงกรรมแน่นอนแล้วหลังมาได้ลูก 3-1 จากลูกที่โนแลนเก็บตกลูกที่มาร์ตินส์แย่งโหม่งหน้ากรอบโทษเลยเปิดจากกรอบโทษฝั่งขวาเลียดมาให้โลเวนครานดส์วิ่งมาแปโล่งๆบอลแสกหน้าโจนส์เสียบตาข่ายแบบไม่ต้องรับให้เสียเวลา

หมดเวลานิวคาสเซิ่ลเบียดซิว 3-1 หนีขึ้นมาอยู่โซนปลอดภัยถีบฮัลล์ร่วงแทนและนัดหน้าหากชนะฟูแล่มในบ้านโอกาสรอดตายมีสูงส่วนมิดเดิลสโบรห์ตกชั้นเกือบแน่นอนแล้วหากลูกทีมอลัน เชียเรอร์ได้ 3 แต้มนัดหน้า

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

นิวคาสเซิ่ล : สตีฟ ฮาร์เปอร์,เซบาสเตียน บาสซง,สตีเฟ่น เทย์เลอร์,เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ,ฮาบิบ เบย์,นิคกี้ บัตต์ ,เควิน โนแลน ,โจนาส กูเตียร์เรซ(โลเวนครานดส์ น.65),แดนนี่ กัทธรี,มาร์ค วิดูก้า(แคร์โรลล์ น.87),ไมเคิ่ล โอเว่น(มาร์ตินส์ น.69)

มิดเดิลสโบรห์ : แบร๊ด โจนส์,โรเบิร์ต ฮูธ ,แมทธิว เบตส์,แอนดรูว์ เทย์เลอร์(จอห์นสัน น.76),จัสติน ฮอยท์,โมฮาเหม็ด ชอว์กี้(อาลิอาดิแยร์ น.69),แกรี่ โอนีล,ตุนกาย,สจ๊วต ดาวนิ่ง,มาร์วิน เอ็มเนส,อฟองโซ่ อัลเวส