"แมนฯยูไนเต็ด" กับ "บาร์เซโลน่า" เป็นคู่ชิงแชมเปี้ยนส์ลีกที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าของจริงออกมาอีท่าไหน แต่เครดิตของทั้งสองทีมในฤดูกาลนี้ ทำให้ผู้ชนะจะได้รับการยกย่องเป็นหมายเลข 1 ของยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าแมนฯยูทำได้จะเป็นตำนานไม่ต่างจากชุด 3 แชมป์ปี"99 แม้ว่าปริมาณจะไม่เท่ากัน แต่คุณภาพของเกมรวมๆ ชุดนี้ดีกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ
แล้วการเจอบาร์เซโลน่าก็น่าจะเป็นผลบวกกับปีศาจแดงมากกว่าเจอ "เชลซี"
ให้รีแมตช์คู่ชิงปีก่อนมันก็โอเค แต่ไม่น่าตื่นเต้น แถมไอ้การที่รู้ไส้รู้พุงกันดี ยังเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับแมนฯยูอีกต่างหาก
ไม่เหมือนโซ้ยกับบาร์ซ่าซึ่งแม้จะต้องเจอตัวเซียนๆ อย่าง "ลีโอเนล เมสซี่ เธียร์รี่ อองรี ซามูแอล เอโต้" รวมทั้งสองมิดฟิลด์สเปน "ชาบี้-อิเนียสต้า" แต่หากเล่นตามมาตรฐาน ปีศาจแดงก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แล้วถ้าชนะได้ก็ดูหรูกว่าชนะเชลซีที่เจอกันเป็นประจำอยู่แล้ว
แทบทุกอย่างเป็นใจให้แมนฯยูไนเต็ด โอกาสสร้างฤดูกาลแห่งความทรงจำแค่เอื้อมอีกนิดก็ถึงทันที
นับจากนี้ "เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" คงเร่งเช็คบิลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้เร็วที่สุดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเกมสุดยอดที่โรม 27 พ.ค.
วันนั้นจะเป็นบิ๊กโชว์ของแมนฯยูอย่างแท้จริง หรือถ้ามองตามมาตรฐานแชมเปี้ยนส์ลีก ก็จะเป็นคู่ชิงที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรตติ้งกระฉูดที่สุดคู่หนึ่งเท่าที่เคยมีมา
ที่น่าห่วงคงเป็นคู่แข่งสองรายต่อไปในพรีเมียร์ลีกของผีแดงแหละครับ
อาทิตย์ที่ 10 เจอ "แมนฯซิตี้" ในบ้านต่อด้วยเยือน "วีแกน" วันพุธ สองเกมนี้แมนฯยูต้องตั้งเป้าหวด 6 แต้มแบบไม่มีการออมแรงแน่นอน
เหตุผลคือ "ลิเวอร์พูล" หนามยอกอกรายเดียวที่เหลือเจอเกมยาก บุกรังขุนค้อน "เวสต์แฮม" ก่อนในวันเสาร์ ถ้าหงส์แดงพลาดไม่ชนะ แล้วผีเก็บชัยชนะ 2 นัดรวดจากแมนฯซิตี้กับวีแกน ทีมของเซอร์อเล็กซ์จะคว้าแชมป์ทันที
สถานการณ์แบบนี้บีบหัวใจลิเวอร์พูลเหลือหลาย ส่วนปีศาจแดงรอเก็บโต๊ะปิดร้านลูกเดียว
โอกาสพลิกมีน้อยแล้วครับ นักเตะหงส์เองลึกๆ ก็คงท้อ อุตส่าห์ฮึดเอาชนะมาได้ตั้งหลายนัดก็ยังไล่ไม่จนเพราะแมนฯยูไม่ยอมพลาดอีก สภาพที่บีบแล้วก็ยังหลุดอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายอาจจะทำให้ลิเวอร์พูลเสียสมาธิ แพ้ภัยตัวเองได้ทุกเมื่อ
โดยเฉพาะเกมเยือนเวสต์แฮมซึ่งกำลังลุ้นไปยูโรป้าลีก แถมเล่นในบ้านน่ากลัว จะเป็นนัดสุดเสียวของหงส์แดง โอกาสพลาดมีสูงที่สุดในบรรดา 3 นัดที่เหลืออยู่
ตรงข้ามกับแมนฯยู เทียบทุกอย่างกับแมนฯซิตี้ และวีแกนแล้ว แทบไม่มีมุมไหนน่าห่วง
เรือใบอาจมี "โรบินโญ่" กับ "สตีเฟ่น ไอร์แลนด์" วีแกนก็มีความใหญ่ของ "มิโด้" เป็นอาวุธอันตราย
แต่ยูไนเต็ดดีทั้งทีม จับใครลงก็เก่ง พวกชอบประชดบางคนบอกเอาคนตัดหญ้าในโอลด์แทรฟฟอร์ดลงไปเล่น เผลอๆ อาจยิงได้ด้วยซ้ำ!
ไม่รู้เซอร์อเล็กซ์ทำบุญอะไรมา, พับผ่าเหอะ
โปรแกรมแข่งพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 9 พ.ค. แบล๊คเบิร์น-ปอร์ทสมัธ, โบลตัน-ซันเดอร์แลนด์, เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส, ฟูแล่ม-แอสตัน วิลล่า, ฮัลล์-สโต๊ก, เวสต์บรอมวิช-วีแกน, เวสต์แฮม-ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. แมนฯยู-แมนฯซิตี้, อาร์เซน่อล-เชลซี
โปรแกรมถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์+ฟรีทีวี
คืนวันเสาร์ที่ 9 พ.ค. เวลา 21.00 น. แบล๊คเบิร์น-ปอร์ทสมัธ(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63, คลับเอ็ม ช่อง 106, คลับแอล ช่อง 107), โบลตัน-ซันเดอร์แลนด์(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 1 ช่อง 66), เอฟเวอร์ตัน-สเปอร์ส(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ ช่อง 110), ฟูแล่ม-แอสตัน วิลล่า(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับซี ช่อง 109), ฮัลล์-สโต๊ก(ทรูสปอร์ต เอ็กซ์ตร้า 2 ช่อง 67), เวสต์บรอมวิช-วีแกน(ทรูวิชั่นส์ 27 ช่อง 99) เวลา 23.30 น. เวสต์แฮม-ลิเวอร์พูล(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61, คลับแอล ช่อง 107,ฟรีทีวีช่อง 3) เวลา 01.30 น. ลาซิโอ-อูดิเนเซ่(ฟรีทีวี โมเดิร์นไนน์) เวลา 03.00 น. บาเลนเซีย-รีล มาดริด(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)
คืนวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. เวลา 19.30 น. แมนฯยู-แมนฯซิตี้(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59, คลับเอ็ม ช่อง 106) เวลา 20.00 น. กายารี่-โรม่า(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61,ฟรีทีวีเอ็นบีที), คาตาเนีย-ฟิออเรนติน่า(ทรูสปอร์ต 5 ช่อง 63) เวลา 22.00 น. อาร์เซน่อล-เชลซี(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 00.00 น. บาร์เซโลน่า-บียาร์รีล(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59) เวลา 01.30 น. เอซี มิลาน-ยูเวนตุส(ทรูสปอร์ต 3 ช่อง 61) เวลา 02.00 น. แอตเลติโก้ มาดริด-เอสปันญ่อล(ทรูสปอร์ต 1 ช่อง 59)